เมืองเคปทาวน์ (Cape Town) เมืองสวยติดอันดับ
1 ใน 5 ของโลก
ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าหมุนรอบตัวเองขึ้นสู่จุดชมวิวด้านบน Table
Mountain
เดินเล่นย่านวิคตอเรีย แอนด์ อัลเฟรด วอเตอร์ฟร้อนท์
ล่องเรือไปชมแมวน้ำ, นกเพนกวิน ชมทัศนียภาพอันงดงามที่แหลมกู๊ดโฮป
(Cape of Good Hope)
ตื่นเต้นกับกิจกรรมส่องสัตว์ซาฟารีที่พีลันเนสเบิร์ก (Pilanesburg)
เยือนหมู่บ้านเลเซดี (Lesedi Cultural Village) หมู่บ้านวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆ
ของชาวแอฟริกาใต้
พักโรงแรมสุดหรู THE PALACE OF THE LOST CITY 2 คืน
อาหารพิเศษ !!! กุ้งมังกร และหอยเป๋าฮื้อ เมนูขึ้นชื่อ รวมทั้งชิมเนื้อสัตว์ป่านานาชนิด |
เตรียมตัวเดินทางครับ |
อุณหภูมิ |
|
เวลา |
เวลาท้องถิ่นระเทศแอฟริกาใต้ช้ากว่าประเทศไทย
5 ชั่วโมง |
ภาษา |
ภาษาอังกฤษ |
ไฟฟ้า |
220 โวลต์
สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์มือถือ หรือกล้องถ่ายรูปได้ตามปกติ |
พักโรงแรมสุดหรู The palace
อาหารพิเศษ !!! กุ้งมังกร และหอยเป๋าฮื้อ เมนูขึ้นชื่อ
มีบินภายใน 1 ไฟลท์ จากเคปทาวน์ โจฮันเนสเบิร์ก |
|
โปรแกรมการเดินทาง (ทัวร์แอฟริกาใต้ ไม่ต้องทำวีซ่าครับ) |
วันที่ 28 มิถุนายน - 5 กรกฏาคม 2559
(ท่านละ 69,900.-บาท เปิดจองแล้ว) |
วันแรก
: สนามบินสุวรรณภูมิ - สิงคโปร์ |
18.00
น. |
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 5 แถว K เคาน์เตอร์ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์
(SQ) เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับพร้อมบริการเอกสารการเดินทาง |
21.10
น. |
ออกเดินทางสู่ สิงคโปร์
โดยสายการบินสิงคโปร์ เที่ยวบินที่ SQ981 |
วันที่สอง
: สิงคโปร์ เคปทาวน์ ฟาร์มนกกระจอกเทศ เทเบิ้ล เมาเท่น
วิคตอเรีย แอนด์ อัลเฟรด |
00.40
น. |
ถึง สนามบินชางฮี
ประเทศสิงคโปร์ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง |
01.30
น. |
ออกเดินทางต่อ โดยสายการบินสิงคโปร์
เที่ยวบินที่ SQ 478 |
09.25
น. |
ถึง สนามบินเคปทาวน์
เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ South Africa (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย
5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
จากนั้นเดินทางสู่ ตัวเมืองเคปทาวน์
(Cape Town) เมืองสวยติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก เมืองนี้เคยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพแข่งขันฟุตบอลโลกในปี
2010 ที่และเป็นเมืองเก่าแก่กว่า 300 ปี อีกทั้งสภาพอากาศที่ค่อนข้างบริสุทธิ์เกือบตลอดทั้งปี
ด้วยเป็นเมืองที่มีลักษณะคล้ายอ่าง มีลมพัดแรงจนพัดเอามลพิษต่างๆออกไปหมด
เนื่องด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศ
มีแหลมกู๊ดโฮปที่ยื่นออกไประหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติค
ปัจจุบันนี้มีความใหญ่เป็นอันดับสามและเป็นเมืองหลวงฝ่ายนิติบัญญัติของแอฟริกา
นอกจากเมืองพริทอเรีย และบลูมฟอนเทน ซึ่งเป็นเมืองหลวงด้านการบริหารประเทศ
และศูนย์กลางทางฝ่ายตุลาการ นำท่านเดินทางไปสัมผัสชีวิตสัตว์อันป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของเมืองคือนกกระจอกเทศที่
ฟาร์มเลี้ยงนกกระจอกเทศ ที่มีชื่อเสียงของเมือง
West Coast Ostrich Farm เรียนรู้เรื่องราวอันน่าสนใจยิ่งของนกกระจอกเทศ
ที่มีจุดเด่นคือเป็นสัตว์ปีกขนาดใหญ่แต่แทนที่จะใช้ปีกบินกลับมีความชำนาญในการใช้ขาวิ่งได้อย่างรวดเร็วที่สุดในโลกเลยเลยทีเดียว
แถมปัจจุบันยังเป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญของประเทศอีกด้วย |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ไร่องุ่นแหล่งผลิตไวน์ขึ้นชื่อและเก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาใต้
กรูทคอนสแตนเทีย (Groot Constantia)
ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1692 โดยผู้ว่าการเมืองชาวดัตซ์
จนกระทั่งปัจจุบันยังคงดำเนินการทำไวน์ หรือเหล้าองุ่นอันขึ้นชื่ออยู่
และเปิดบริการให้คนทั่วไปเข้าชมภายในเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ไวน์ซึ่งจัด
แสดงประวัติความเป็นมาของไวน์ย้อนหลังไปถึง 500ปี ในช่วงคริสตวรรษที่
18-19 จากความมั่งคั่งในอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายไวน์ได้ก็ทำให้มีการสร้างบ้านและโรงบ่มในสไตล์สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นและสวยงามที่เรียกว่าเคป
ดัตซ์ (Cape Dutch) มีลักษณะเป็นแบบตัวอาคารสีขาวมุง
หลังคาด้วยหญ้า ประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นบริเวณหน้าจั่วอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยังอยู่มาจนทุกวันนี้
ซึ่งท่านสามารถชมบรรยากาศอันงดงามและเลือกซื้อไวน์ขึ้นชื่อได้ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่ไม่ควรพลาดของเมืองเคปทาวน์
ที่มีภูเขาลูกใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมืองทำให้เราสามารถมองเห็นภูเขารูปทรงต่างๆได้โดยรอบ
เช่น ภูเขามีลักษณะเสมือนโต๊ะที่ตั้งอยู่บนแผ่นดิน จึงทำให้ภูเขาลูกนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า
ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain)
มีความสูง 1,086 เมตร หรือ 3,563 ฟุต โดยนำท่านขึ้นกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่จุดชมวิวด้านบน
(ทั้งนี้การนั่งกระเช้าต้องขึ้นกับสภาพอากาศอีกด้วย หากมีการปิดทำการทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการ
ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ) ให้ท่านชมบรรยากาศจากมุมสูง
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปและพักผ่อนบริเวณริมอ่าว ย่านวิคตอเรีย
แอนด์ อัลเฟรด วอเตอร์ฟร้อนท์ (Victoria & Alfred Waterfront
) สถานที่พักผ่อนตากอากาศ ในบรรยากาศก่อนค่ำ อันงดงามรอให้ท่านได้สัมผัส
ทั้งร้านอาหาร ร้านค้า โรงภาพยนต์ บริเวณท่าเรือนั้น อีกมุมมองที่ต่างและน่าสนใจของเมืองโรแมนติกนี้ |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
พิเศษ กุ้งมังกรและหอยเป๋าฮื้อ เมนูขึ้นชื่อของเมืองเคปทาวน์
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก (THE COMMODORE HOTEL หรือเทียบเท่า) |
วันที่สาม
: ล่องเรือชมแมวน้ำ นกเพนกวิน เกาะดุยเกอร์ ไซม่อนทาวน์
แหลมกู๊ดโฮป |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือฮูทเบย์
(Hout Bay) เพื่อ ล่องเรือไปชมแมวน้ำ
จำนวนมาก ที่พากันมานอนอาบแดดรับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์อย่างมีความสุขกันตามธรรมชาติอยู่บริเวณ
เกาะดุยเกอร์ (Duiker Island) ซึ่งเป็นวิถีชีวิตน่ารักๆ
อิริยาบทอันน่ามหัศจรรย์ของสัตว์โลกน่ารักอีกชนิดที่หาดูไม่ได้ในบ้านเรา
จากนั้นนำท่านชม นกเพนกวิน สัตว์โลกน่ารักเฉพาะถิ่นที่น่ารักน่าเอ็นดู
ที่มีถิ่นอาศัยตามธรรมชาติอยู่บริเวณ เมืองไซม่อนทาวน์
(Simon Town) ที่มีบ้านเรือนของเหล่ามหาเศรษฐีที่ตั้งลดหลั่นกันอยู่บนเชิงเขา
หันหน้าออกสู่ท้องทะเลสีคราม เหล่าบรรดานกเพนกวินสัญชาติแอฟริกันตัวน้อยพากันเดินต้วมเตี้ยมอย่างมีความสุขกันอยู่บนหาดโบลเดอร์อันสงบเงียบนี้
ให้ท่านได้ถ่ายรูปและชมอิริยาบทน่ารักนี้อย่างสนุกสนาน |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
พิเศษ เมนูกุ้งมังกร (Crayfish) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่
แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope)
ชมทัศนียภาพอันงดงาม ณ บริเวณ Cape
Point จุดสำคัญแห่งมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ด้วยความยากลำบากของการเดินเรือผ่านเส้นทางนี้
ทำให้มีตำนานเรื่องเล่าของเหล่ากะลาสีนักเดินเรือ ที่กล่าวขานกันมาเป็นเวลานาน
ตั้งแต่อดีตทั้งการหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยกระแสคลื่นลมอันโหดร้าย
สภาพอากาศอันแปรปรวนเสมอ |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก (THE COMMODORE HOTEL
หรือเทียบเท่า) |
วันที่สี่
: เคปทาวน์ โจฮันเนสเบิร์ก สวนเสือ หมู่บ้านเลเซดี |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน
เพื่อเดินทางสู่ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก
|
09.00
น. |
ออกเดินทางสู่ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก
โดยเที่ยวบินที่ BA6406 |
11.00
น. |
ถึง เมืองโจฮันเนสเบิร์ก
นำท่านเดินสู่ City of Jacaranda
อันสะพรั่งไปทั่วเมืองทุกปีในช่วงเดือนตุลาคม เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองอันโดดเด่น
คือดอกไม้สีม่วงสด คือดอกแจ๊กการันดา (Jacaranda) โดยชื่อของเมืองพริทอเรีย
(Pretoria) นามนี้คือวีรบุรุษผู้กล้าเมื่อครั้งอดีตกาลนามว่า
แอนดีส์ พรีทอรีอัส (Andries Pretorius) ปัจจุบันมีความสำคัญเมืองหลวงด้านการบริหารของแอฟริกาใต้
จึงมีสถานที่สำคัญมากมาย จากนั้นนำท่านชมในบริเวณเมืองโดยเฉพาะจัตุรัสกลางเมือง
Church Square ชมอนุสาวรีย์ของอดีตประธานธิบดีของรัฐอิสระชาวบัวร์
ชื่อพอล ครูเกอร์ ในบริเวณใกล้เคียงกันนั้นเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง
อันมีอนุสาวรีย์ของแอนดีส์ พรีทอรีอัสผู้ก่อตั้งเมือง และลูกชาย
อีกทั้งสถานที่สำคัญทางราชการของเมืองต่างๆ เช่น ทำเนียบประธานาธิบดีและที่ทำการรัฐบาลวุฒิสภา
ที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่อลังการจนถูกจัดอันดับเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามติดอันดับโลกอีกด้วย
นอกจากสถาปัตยกรรมอันงดงามแล้ว อีกสถานที่แห่งความรู้เพื่อเข้าถึงชนพื้นเมืองผู้กล้า
เข้าชม พิพิธภัณฑ์วูร์เทรคเกอร์ (Voortrekker
Monument & Museum) อนุสรณ์สถานฉลองครบรอบ 100
ปีสงครามกับพื้นเมือง อีกทั้งวิถีแห่งชาวบัวร์ชนพื้นเมืองผิวขาวกับการอพยพ
จากนั้นนำท่านไปช๊อปปิ๊งยังตลาดเพชรพลอย (Diamond Market)
แอฟริกาใต้เป็นเมืองแห่งอุสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ได้มีการพัฒนาแล้ว
เนื่องจากความพร้อมทั้งในด้านแหล่งวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นเพชร
ทองคำ แพลตตินั่ม เงิน และหินมีค่าต่างๆรวมถึงบุคลากรที่มีความชำนาญการด้านเทคนิคและการออกแบบ
และแรงงานที่มีประสบการณ์ ตลอดจนการผลิตที่มีตั้งแต่สินค้าทีได้รับการออกแบบพิเศษ
ตามความต้องการของลูกค้า |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
พิเศษ บริการท่านด้วยบาร์บีคิวเนื้อสัตว์หลากชนิดแบบแอฟริกัน
อาทิ เช่น เนื้อกวาง ม้าลาย จระเข้ ควายป่า ฯลฯ จากนั้นนำเข้าสู่ที่พัก
โรงแรม CENTURION LAKE HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ห้า
: สวนเสือ หมู่บ้านเลเซดี อาณาจักรซันซิตี้ - ส่องสัตว์ซาฟารียามพลบค่ำ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ สวนเสือ
(The Lion Park) เปลี่ยนเป็นบรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นแบบซาฟารี
อันโดดเด่นของแอฟริกา ชมสัตว์ป่า เช่น เสือขาว ม้าลาย และสัตว์แปลกๆอื่นอีกมากมายรอให้ท่านได้ไปสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดและเก็บภาพประทับใจกันได้เต็มที่
ซึ่งสัตว์เหล่านั้นอยู่อาศัยกันในป่าตามแบบระบบนิเวศน์อันแตกต่างกัน
ของแต่ละชนิดสัตว์นั้นๆ ในแต่ละโซนพื้นที่อันต่างกันออกไปเป็นการชมสัตว์ตามสภาพวิถีชีวิตจริงอันน่ามหัศจรรย์แห่งธรรมชาติล้วนๆ
อันหาชมได้ยากยิ่งทีเดียว จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านเลเซดี
(Lesedi Cultural Village) หมู่บ้านวัฒนธรรมแห่งนี้นำเสนอวิถีชีวิตหลากหลายรูปแบบและประวัติความเป็นมาของชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆ
ของชาวแอฟริกาใต้ได้อย่างละเอียดและน่าสนใจ ทั้งรูปแบบบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
ศิลปะการแสดงต่างๆ รอให้ท่านได้ศึกษาและเรียนรู้อย่างน่าสนใจ
หลังการชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทำให้เราเข้าถึงชนพื้นเมืองในเวลาอันรวดเร็วนี้แล้ว
และให้ท่านได้ชมโชว์พื้นเมืองของชาวเลเซดี |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองซันซิตี้
(Sun City) เมืองที่ถูกสร้างตามจินตนาการของ ชอล เคิร์ชเนอร์
มหาเศรษฐีนักลงทุนผู้มั่งคั่ง ใช้งบประมาณมหาศาล ทั้งระยะเวลายาวนานในการสร้างอย่างปราณีตและสร้างสรรค์กว่า
18 ปี จากดินแดนอันไร้ค่าในอดีตแห่งแคว้น Bophuthatswana บริเวณตอนกลางของแอฟริกาใต้
เป็นอาณาจักรอันกว้างใหญ่และพร้อมสรรพไปด้วยสถานที่พักผ่อนตากอากาศอันสวยหรูและยิ่งใหญ่อลังการรวมตัวกัน
รวมทั้ง เดอะพาเลซ (The Palace) ที่สร้างขึ้นในปี
ค.ศ.1992 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียนผสมแอฟริกัน นำท่านเข้าที่พักสุดหรูเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ด้วยบริการระดับมาตรฐานโลก ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่ท่านไม่สามารถสัมผัสได้จากที่ใดในโลก
อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดของการท่องเที่ยวมายังแอฟริกาใต้
คือ ซาฟารีลอดจ์ บนผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์นี้
ท่านจะมีโอกาสได้ถ่ายรูปและสัมผัสสัตว์ป่าแบบใกล้ชิด กับ กิจกรรมส่องสัตว์ซาฟารียามพลบค่ำ
ที่พากันออกหากินในยามค่ำ อันเป็นวัฏจักรชีวิตอันน่าพิศวง
ทั้งสัตว์ป่าน้อยใหญ่นานาชนิดจะพากันออกหากินในช่วงเวลานั้น
(เพื่อความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นสำคัญ ทางซาฟารี ขอสงวนสิทธิ์การเข้าร่วมกิจกรรมส่องสัตว์
สำหรับผู้เดินทางที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี และสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าใช้จ่ายในทุกกรณี) |
ค่ำ |
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร
หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย (The Palace Of The Lost City
หรือเทียบเท่า)
|
วันที่หก
: ท่องป่าซาฟารียามรุ่งอรุณ เมืองซันซิตี้ เดอะพาเลซ |
...... |
ก่อนฟ้าสาง นำท่านเดินทางเพื่อ
ท่องป่าซาฟารียามรุ่งอรุณที่ผืนป่าพิลาเนสเบิร์ก
อันมีเนื้อที่กว่า 500 ตารางกิโลเมตรนี้ เราจะนำท่านสัมผัสธรรมชาติอันมหัศจรรย์โดยออกชมสัตว์ป่าด้วยรถแบบเปิดโล่งรับลมที่บรรจุได้คันละประมาณ
20 คนซึ่งแต่ละคันนั้นจะมีนายพรานซึ่งเป็นทั้งสารถีและผู้บรรยายนำเที่ยวชมสัตว์อีกด้วย
(ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความโชคดีของท่านว่าจะมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าหายากเหล่านี้มากน้อยแค่ใหน
เนื่องจากการท่องป่าซาฟารีนั้นทั้งความกว้างใหญ่แห่งผืนป่านั้น) |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารให้ท่านได้อิสระสนุกสานกับกิจกรรมหลากหลาย และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในอาณาจักรอันยิ่งใหญ่อลังการแห่งนี้
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารให้ท่านได้อิสระสนุกสานกับกิจกรรมหลากหลาย และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในอาณาจักรอันยิ่งใหญ่อลังการแห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีคลื่นยักษ์เทียมให้ท่านรู้สึกดั่งว่ายอยู่ในท้องทะเลจริงๆที่
Valley of Wave สัมผัสแรงสั่นสะเทือนดั่งแผ่นดินไหวที่มีทุกชั่วโมง
บนสะพานแห่งกาลเวลา Bridge of time
อีกทั้งสนามกอล์ฟที่ออกแบบโดยนักกอล์ฟชื่อก้องโลก GaryPlayer
Golf Course และ Sun city Golf Course นอกจากนั้นท่านสามารถพักผ่อนได้กับหลากหลายกิจกรรมที่ท่านสนใจ
ทั้งโรงภาพยนตร์ คาสิโน ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สวนพฤกษศาสตร์นานาพันธุ์
น้ำตก ลำธารดั่งธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นอย่างแนบเนียน สวยงามสร้างบรรยากาศได้ดั่งหลุดสู่โลกแห่งจินตนาการ |
ค่ำ |
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคารหรูในอาณาจักรซันซิตี้
หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย (พัก The Palace Of The Lost
City หรือเทียบเท่า) |
วันที่เจ็ด
: โจฮันเนสเบิร์ก สิงคโปร์ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก
อันมีชื่อเล่นสั้นๆ ว่า โจเบิร์ก เมืองเศรษฐกิจอันคึกคักมาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตกาลกว่าร้อยปีก่อน
บรรยากาศเมืองการค้าที่คึกคักไม่แพ้เมืองใหญ่ที่ใดในโลก คราคร่ำด้วยผู้คน
ตึกสูงตระหง่านทั่วเมือง เดินทางสู่ สนามบินเมืองโจฮันเนสเบิร์ก
|
13.45
น. |
ออกเดินทางกลับสู่สิงคโปร์
โดยสายการบินสิงคโปร์ เที่ยวบินที่ SQ 479 |
วันที่แปด
: สิงคโปร์
กรุงเทพฯ |
06.10
น. |
ถึง สนามบินสิงคโปร์
เปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ |
08.35
น. |
ออกเดินทางต่อโดยสายการบินสิงคโปร์
เที่ยวบินที่ SQ970 |
09.35
น. |
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยสวัสดิภาพทุกท่าน |