(พัก โรงแรม 6 คืน ระดับ 4 ดาว) |
|
ทัวร์อินเดียใต้ เจาะลึกรัฐทมิฬนาฑู
เที่ยวครบเจาะลึกรัฐทมิฬนาฑู ต้นกำเนิดวัฒนธรรมและความเชื่อของอุษาคเนย์ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
ต้นกำเนิดตัวอักษร ชวา บาหลี มอญ พม่า เขมร ไทย และลาว ต่างก็รับอิทธิพลมาจากอักษรปัลลวะในอินเดียใต้
ต้นกำเนิดสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง เช่นมหาเจดีย์บุโรพุทโธ ปราสาทหินนครวัดนครธม ปราสาทหินของจามปาหรือวัดต่างๆในบาหลี
ชมเกาะพระรามและสะพานพระรามในเรื่องรามเกียรติ์
ชมเทวาลัยหรือวัดฮินดูที่ยิ่งใหญ่และสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมและลวดลายศิลปะ
มีอาหารไทยเสริมให้ตลอดทริป
อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 4-5 ดาว / ไม่ลงร้านช้อป
|
โปรแกรมการเดินทาง |
ออกเดินทางวันที่
2 - 9 ธันวาคม 2566 |
วันแรก
: สนามบินสุวรรณภูมิ เจนไน |
19.00
น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทาง
22.10 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเจนไน โดยสายการบิน Thai Airways TG-337
00.01 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาที่อินเดียช้ากว่าเมืองไทย 1.30 ชั่วโมง) นำท่านเดินทางเข้าโรงแรม / พักผ่อน (พัก The Residency, Chennai หรือระดับ 4 ดาว) |
วันสอง
: เจนไน เทวาลัยกปาลีศวร กาญจีปุรัม วิหารเอคัมปาเรศวร มหาบาลีปุรัม |
07.30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม เมืองเจนไน หรือ มัทราส ในสมัยที่อังกฤษปกครองเป็นเมืองหลวงของรัฐทมิฬนาดู ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ผู้คนชาวอินเดียใต้ส่วนใหญ่ตัวดำแต่ใจดี นำท่านชม เทวาลัยกปาลีศวร (Kapaleeswarar Temple) เป็นวัดที่เก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเชนไนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ การตกแต่งสวยงามในรูปแบบสัญลักษณ์ของพวกดราวีเดียน จากนั้นเดินทางสู่ เมืองกาญจีปุรัม Kanchipuram (ระยะทาง 75 กม.) กาญจี Kanchi เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเทวสถานมีมากกว่า 1,000 แห่ง จนได้ชื่อว่า นครพันวัด เป็นหนึ่งในนครศักดิ์สิทธิ์ 7 แห่งของอินเดีย ซึ่งถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับสองรองจากเมืองพาราณสี กาญจีปุรัม ยังเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดทางภาคใต้ของอินเดีย เดิมเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของราชวงศ์ปัลลวะ Pallavas ในช่วงศตวรรษที่ 6-8 ซึ่งเป็นช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านชม วิหารเอคัมปาเรศวร (Ekambareswarar Temple) ซึ่งเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองกาญจีปุรัม วิหารนี้สร้างขึ้นเพื่อไว้บูชาพระศิวะ ชาวฮินดูเชื่อกันว่าเป็นสถานที่พระศิวะอภิเษกสมรสกับนางปารพตีที่ใต้ต้นมะม่วง ชม เทวาลัยไกรลาสนาถ (Kailashnatha Temple) อายุเก่าแก่กว่า 2000 ปี สร้างโดยพระเจ้าราชสิงห์แห่งราชวงศ์ปัลลวะ (องค์เดียวกับที่สร้างมหาบาลีปุรัม ) ชมประติมากรรมแกะสลักหินมากมายในตามคติความเชื่อของศาสนาฮินดู จากนั้นเดินทางสู่ เมืองมามัลลปุรัม (Mamallapuram) หรืออีกชื่อ มหาบาลีปุรัม (Mahabalipuram) เป็นเมืองท่าสมัยราชวงศ์ปัลลวะ (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลา 2.30 ชม.)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม / พักผ่อน (พัก Chariot Beach Resort หรือระดับ 4 ดาว)
|
วันที่สาม
: มหาบาลีปุรัม กลุ่มเทวาลัย มรดกโลก ปอนดิเชอรี่ ย่าน White Town |
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม เมืองมหาบาลีปุรัม เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของหินแกะสลัก ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองในช่วงศตวรรษที่ 7-10 ของราชวงศ์ปัลลวะ ซึ่งชื่อเดิมชื่อมามัลละปุรัม ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นมหาบาลีปุรัม ในรัชสมัยของพระเจ้านรสิงหวรมันที่ 1 ชม กลุ่มเทวาลัย UNESCO World Heritage Sites นำท่านชม เทวาลัยชายหาด ที่สลักจากแท่นหินธรรมชาติ สร้างเพื่ออุทิศถวายให้พระศิวะ เทวาลัยนี้แม้ว่าจะมีลวดลายที่เลือนลางลงบ้างจากอิทธิพลของคลื่นและลมทะเลแต่ยังคงความงามและความศักดิ์สิทธิ์ ชม เทวาลัยปัญจรถา ตามเรื่องมหาภารตะยุทธ์ สลักจากแท่งหินแกรนิต ชม ภาพอรชุนบำเพ็ญตบะ เป็นภาพสลักนูนต่ำบนผนังหินแกรนิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ยาว 23 ม. สูง 13 ม. ชม ก้อนเนยของพระกฤษณะ (Krishnas Butterball) ที่เป็นก้อนหินธรรมชาติกลมใหญ่เหมือนลูกบอลขนาดยักษ์ ตั้งอยู่ริมเนินเขา เหมือนกำลังจะกลิ้งตกลงมาคล้ายพระธาตุอินทร์แขวน
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองปอนดิเชอรี่ Pondicherry (ระยะทาง 95 กม. ใช้เวลา 1.30 ชม.) นำท่านชม เมืองปอนดิเชอรี่ หรือ พุดดุชเชอรี่ เมืองที่นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกขนานนามว่าเมืองแห่งนี้คือ "ฝรั่งเศสน้อย" ในยุคแห่งการล่าอาณานิคมเมืองแห่งนี้ถูกปกครองโดยฝรั่งเศสกว่า 281 ปี และแม้ตอนนี้ดินแดนแห่งนี้จะถูกคืนการปกครองให้กับอินเดียแล้ว แต่ก็ยังทิ้งกลิ่นอายความเป็นฝรั่งเศสไว้ในแผ่นดินแห่งนี้ ไม่ว่าจะตึกอาคารหรือป้ายบอกทาง รวมถึงการจัดวางผังเมืองที่เป็นระเบียบอีกด้วย นำท่านชม ย่าน White Town เป็นย่านที่มีเสน่ห์สวยงาม มีที่พักเล็กๆ ร้านอาหารมากมายหลากหลายสไตล์ มีร้านขายสินค้าแฮนด์เมดขายของที่ระลึกเป็นที่นิยมสำหรับเดินเล่นในยามเย็น เยี่ยมชมศาสนสถานศูนย์ฝึกสมาธิ อาศรมศรี อรพินโท Sri Aurobindo Ashram ตั้งขึ้นในปีค.ศ.1926 อาศรมนี้เป็นสถานที่ผสมผสานระหว่างจิตวิญญาณ โยคะ และวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่ท่านศรีอรพินโทค้นคว้า
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม / พักผ่อน (พัก The Residency Towers Puducherry ระดับ 4 ดาว)
|
วันที่สี่
: ปอนดิเชอรี่ - จิดัมบารัม วิหารศิวะนาฏราช ตัญจาวูร์ เทวาลัยพฤหดีศวร |
07.00
น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารออกเดินทางต่อสู่ เมืองจิดัมบารัม Chidambaram (ระยะทาง 65 กม. ใช้เวลา 1.45 ชม.) นำท่านชม เมืองจิดัมบารัม นครศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวทมิฬเชื่อกันว่าสะดือจักรวาล ชม วิหารศิวะนาฏราช The Nataraja temple ตามความเชื่อว่าเป็นสถานที่พระศิวะเสด็จลงมาร่ายรำบนพื้นพิภพด้วยท่ารำ 108 ท่าเป็นประจำทุกปี สร้างเมื่อปี ค.ศ. 907-1310 ถือกันว่าการฟ้อนรำของพระองค์ก็คือต้นกำเนิดของภารตนาฏยัมนาฏศิลป์ของอินเดียใต้ มีขนาดกว้างใหญ่ปิดล้อมด้วยกำแพง 4 ด้านคลุมพื้นที่ราว 550x450 เมตรและมีโคปุรัม (ซุ้มประตู) สูง 50เมตร อยู่ทั้ง 4 ด้าน โดยทางเข้าหลักอยู่ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก มีเสาหินสูง 10 เมตรสลักภาพท่ารำต่างๆครบ 108 ท่า
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารออกเดินทางสู่ เมืองตัญจาวูร์ Thanjavur หรือ เมืองตันจอร์ (ระยะทาง 130 กม. ใช้เวลา 2.45 ชม.) นำท่านเที่ยวชม เมืองตัญชาวูร์ "อู่ข้าวอู่น้ำของรัฐทมิฬนาฑู" ตั้งแต่ 1947 เมืองตัญชาวูร์ เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของอินเดียใต้ ด้านศาสนาศิลปะและสถาปัตยกรรมสามารถพบได้ในวัดที่สร้างในสมัยของโจละ ซึ่งเป็นมรดกโลกอีกด้วย นำท่านชม เทวาลัยพฤหดีศวร (Brihadeeswara Temple) สร้างถวายแด่พระศิวะ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโจละที่มีความสวยงาม วัดนี้ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ในปี ค.ศ.1987 แล้วประกาศซ้ำใหม่อีกใน ค.ศ.2004 เทวสถานนี้สร้างโดยราชราชา กษัตริย์โจละ เมื่อ ค.ศ.1010 เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอินเดียและเป็นเทวาลัยประธานที่สูงถึง 67เมตร สูงสุดในศิลปะอินเดียโบราณ เป็นหนึ่งสถาปัตยกรรมมีค่าที่สุดของอินเดีย นำท่านชม โคปุรัม ในศิลปะอินเดียใต้ ชม ประติมากรรมโคนนทิ ขนาดยักษ์ใหญ่เป็นที่ 2 ของประเทศ สูง 3 เมตร ยาว 6 เมตร สลักมาจากหินแกรนิตสีดำชิ้นเดียว
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม / พักผ่อน (พัก Sangam Hotel Thanjavur หรือระดับ 4 ดาว)
|
วันที่ห้า
: ตัญจาวูร์ ตริชี่ ศรีรังกนาถสวามี มธุไร ตลาดดอกไม้ |
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองตริชี่ (ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลา 1.15 ชม.) ตั้งอยู่ใจกลางรัฐทมิฬนาฑูเป็นศูนย์กลางการคมนาคมเชื่อมโยงเมืองต่างๆ ในรัฐ ชื่อเมืองได้มาจากชื่ออสูร ตรีเศียร ลูกของทศกัณฐ์ นำท่านชม ศรีรังกนาถสวามี Sri Ranganathaswamy Temple เป็นวิหารพระวิษณุและเป็นศูนย์กลางศาสนาฮินดูขนาดใหญ่ที่สุดในอินเดีย มีกำแพงชั้นนอกกว้างยาว 945 x 775 เมตร มีกำแพงรวมทั้งหมดถึง 7 ชั้น โดยที่ชั้นที่ 7 ถึงแนวกำแพงชั้นที่ 4 เป็นบ้านพราหมณ์ ตลาด ร้านค้า เทวาลัยน้อยใหญ่ และที่พำนักของผู้แสวงบุญ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองมธุไร (ระยะทาง 140 กม. ใช้เวลา 2.15 ชม.) เมืองมธุไร เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการอยู่อาศัยสืบเนื่องมากว่าสองพันปีเคยเป็นราชธานีของราชวงค์ปาณฑยะ ตั้งแต่ 500 ปีก่อนคริสต์ศักราช และถือเป็น "ศาสนธานี" (Temple City) แห่งหนึ่ง มีเทวาลัยมากมายละลานตา มีเทวาลัยมีนักษีอยู่กลางเมือง ล้อมรอบด้วยตัวเมืองในผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นชั้นๆ ให้ท่านได้เที่ยวชมบรรยากาศเมืองเก่าที่คราคร่ำด้วยผู้คนและนักบวชมากมาย นำท่านชมวิถีชีวิต ตลาดดอกไม้ Flower Market ซึ่งมีดอกไม้นานาชนิดมาวางขายและของฝากพื้นเมือง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม / พักผ่อน (พัก JC Residency Madurai หรือระดับ 4 ดาว)
|
วันที่หก
: มธุไร วัดมีนักษี มณฑปพันเสา เกาะพระราม วัดศรีรามนาถ |
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านชม วัดมีนักษี Meenakshi Amman Temple เป็นวัดเก่าแก่โบราณที่สร้างถวายพระแม่มีนักษี เทพที่ปกปักษ์รักษาเมืองซึ่งเป็นอวตารปางหนึ่งของพระปารวตี มเหสีของพระศิวะ โบสถ์แห่งนี้เป็นจุดมุ่งหมายหลักในการแสวงบุญตามประเพณีลัทธิไศวะ ภายในโบสถ์ยังมีเทวรูปของเทพองค์อื่น เช่น พระลักษมี ชายาพระวิษณุ, พระกฤษณะทรงขลุ่ย, นางรุกมินี ชายาพระกฤษณะ, พระพรหม, พระสรัสวดี ชายาพระพรหม, และเทพตามคัมภีร์ปุราณะ พร้อมด้วยงานศิลปะเกี่ยวข้องกับวรรณกรรมฮินดู นับเป็นวัดที่สำคัญที่สุดในเมืองมธุไรโดยในแต่ละวันวันมีผู้เข้าชมหลักหมื่นคน นำท่านชม Aayiram Kaal Mandapam มณฑปพันเสา เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ จัดแสดงวัตถุโบราณของเทวาลัย
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เกาะปัมบัน (เกาะพระรามหรือรามสวารัม) ผ่าน สะพานปัมบัน นำท่านเที่ยวชม วัดศรีรามนาถ (Sri Ramanathaswamy Temple) เป็นหนึ่งในไม่กี่วัดที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ดราวิเดียน (อารยธรรมอินเดียโบราณ) ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามโดดเด่นด้วยเสาจำนวนมาก วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระศิวะในรูปของลิงคัมของรามนาถสวามี เชื่อกันว่าประดิษฐานขึ้นโดยพระรามก่อนพระองค์จะข้ามสะพานไปยังลังกาทวีป เป็นวัดที่ผู้แสวงบุญชาวฮินดูนิยมมากราบไหว้ขอพรมากที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม / พักผ่อน (พัก The Residency Towers ระดับ 4 ดาว)
|
วันที่เจ็ด
: สะพานพระราม - มธุไร พระราชวัง เจนไน |
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านชม จุดชมวิว Indira Point จุดเริ่มต้นของ สะพานพระราม ( Adam's Bridge) ตามตำนานรามายณะกล่าวว่ากองทัพวานรของหนุมานเป็นผู้สร้างขึ้น โดยก่อรากฐานด้วยท่อนไม้ก่อนก่อทับด้วยก้อนหินชิ้นน้อยใหญ่ เพื่อให้กองทัพของพระรามเดินทางข้ามทะเลไปช่วยนางสีดาจากทศกัณฐ์ถึงกรุงลงกา ปลายปี 2002 นาซาได้เผยแพร่ภาพถ่ายจากอวกาศของช่องแคบพัล์ก (Palk Strait) แสดงให้เห็นถึงแนวสันทรายที่เชื่อมต่อเกาะศรีลังกาและอินเดียอย่างชัดเจน ซึ่งสะพานแห่งนี้มีร่องรอยของแนวหินแนวปะการังและสันทรายใต้น้ำเป็นระยะทาง 48 กิโลเมตร ซึ่งมีบางส่วนก็โผล่ขึ้นพ้นน้ำ ทำให้นักโบราณคดีบางคนเชื่อกันว่าสะพานแห่งนี้สร้างโดยฝีมือมนุษย์ไม่ใช่จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จากนั้นออกเดินทางกลับเมืองมธุไร
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม พระราชวังติรุมมาไลนายัก (Thirumalai Nayak Palace) ที่สร้างในสมัยที่มาดูไรถูกครองโดยนายกะ(อุปราช) มีห้องต่างๆ แบ่งเป็นสัดส่วน ประดับตกแต่งอย่างงดงาม ใหญ่โตโอ่โถง บางห้องมีเสาสูงกว่า 200 ต้น หัวเสาสลักเสลาอย่างงดงาม
18.40 น. เหิรฟ้าสู่ สนามบินเจนไน โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบิน 6E7593
19.55 น. เดินทางถึง สนามบินเจนไน รอต่อเครื่องเดินทางกลับกรุงเทพฯ (ทานอาหารเย็นในสนามบินกันตามอัธยาศัย)
|
วันที่แปด
: เจนไน - สนามบินสุวรรณภูมิ |
01.10 น. เหิรฟ้ากลับสู่กรุงเทพ โดยการบิน Thai Airways TG-338
06.10 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
|