(พักโรงแรมเมืองปูเน่
3 คืน และโรงแรมเมืองมุมไบ 2 คืน) |
โอเชี่ยนสไมล์
ทัวร์ ร่วมกับ อาจารย์แบงค์ สเก็ตกรรม (ขยำกระดาษพยากรณ์)
ขอเสนอโปรแกรมเส้นทางไหว้พระพิฆเนศวรยาตราอัษฎวินายัก มหาเทพแห่งความสำเร็จ
เพื่อให้ทุกท่านได้ไปสักการะขอพรเพื่อความเจริญก้าวหน้าและเกิดสิริมงคลในชีวิต
โดยทีมงานมัคคุเทศก์ชำนาญงาน โรงแรมที่พักระดับมาตรฐานครับ
|
สำหรับเพื่อนๆจองทริปทัวร์
ทางเราจะแจ้งเบอร์ไกด์ จุดนัดหมายและการเตรียมตัวเดินทาง ก่อนเดินทาง
5 วันครับ ท่านสามารถมาตรวจสอบรายละเอียดการเดินทางในเวบได้และก่อนเดินทาง
5 วัน ทางบริษัทฯจะโทรแจ้งเพื่อนสมาชิกอีกครั้งครับ |
เตรียมตัวเดินทางครับ |
:
อุณหภูมิ |
เช็คอุณหภูมิและสภาพอากาศ เมืองปูเน่
ประเทศอินเดีย คลิ๊กที่นี่ |
:
เวลา |
เวลาในประเทศอินเดีย ช้ากว่าประเทศไทย
1.30 ชั่วโมง |
:
ภาษา |
ภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่น |
:
ไฟฟ้า |
220 โวลต์ สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์มือถือ
หรือกล้องถ่ายรูปได้ตามปกติ |
:
ระบบเงินตรา |
สกุลเงินของอินเดียคือ รูปี (อัตราแลกเปลี่ยน
1 ดอลล่า ได้ประมาณ 40-42 รูปี) แนะนำให้เตรียมเงินดอลล่าไปแลกเงินรูปีที่สนามบินเดลีหรือแลกที่โรงแรมที่เดลีก็ได้ครับ
(กรุณาเตรียมเงินดอลล่าใบละ 1 ดอลล่าไปด้วยเผื่อว่าใช้ในการทิปหรือซื้อของเล็กๆน้อยๆก็ได้) |
เตรียมตัวอย่างไร?....
ก่อนขึ้นเครื่อง
คลิ๊กที่นี่ครับ |
|
|
โปรแกรมการเดินทาง ปี 2556 |
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1 มีนาคม 2556 |
วันแรก
: กรุงเทพฯ มุมไบ |
12.00
น.
พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ชั้น 4 ประตู 8 เคาน์เตอร์ สายการบิน Jet Airway เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
(แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่องนะครับ เพราะเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจค่อนข้างละเอียด
แนะนำให้ถือเฉพาะกระเป๋าถือและของมีค่าขึ้นเครื่องเท่านั้น
ถือได้คนละ 1 ใบ)
14.55 น.
ออกเดินทางสู่ นครมุมไบ
ประเทศอินเดีย โดย สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ เที่ยวบินที่
9W69
17.50 น.
เดินทางถึง เมืองมุมไบ
หรือ บอมเบย์ เมืองการค้าและเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศอินเดีย
หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางโดยรถปรับอากาศสู่ภัตตาคาร
(เวลาที่อินเดียช้ากว่าเมืองไทย 1.30 ชั่วโมง)
ค่ำ
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย (พัก HOLIDAY INN HOTEL หรือระดับ
4 ดาว) |
วันที่สอง
: มุมไบ มาฮัท วัดศรีวรัถวินายัก ปาลี วัดศรีบัลลาเลศวา
- ปูเน่ |
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองมาฮัท
(Mahad) ให้ท่านชมวิวทิวทัศน์ตลอดเส้นทาง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ
6 ชั่วโมง (วันนี้เดินทางไกลหน่อยนะครับ) |
12.00
น.
แวะบริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารท้องถิ่น
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ วัดศรีวรัถวินายัก
(Sri Varad Vinayak) เชื่อกันว่าถ้ามาสักการะพระพิฆเนศที่วัดศรีวรัถวินายักแล้ว
จะทำให้หายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวงและทำให้สุขภาพแข็งแรง
ซึ่งมาจากตำนานว่า พ่อของเด็กน้อยบัลลาเคยล่วงเกินพระพิฆเนศไว้จึงต้องพิการและหูหนวกเป็นใบ้
แม้จะกลับชาติมาเกิดก็ยังต้องพิการอยู่ จึงต้องกลับใจอุทิศตนบูชาพระพิฆเนศจึงจะหาย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดศรีบัลลาเลศวา
(Sri Ballaleshwar) ที่ เมืองปาลี
เชื่อกันว่าถ้ามาสักการะพระพิฆเนศที่วัดศรีบัลลาเลศวาแล้ว
จะได้รับพรทุกๆอย่างที่ขอจากองค์มหาเทพ ตามตำนานเล่าว่า เด็กน้อยนามบัลลา
อาศัยอยู่ในเมืองปาลี ได้สักการะก้อนหินที่ตนเชื่อว่าเป็นรูปของพระพิฆเนศด้วยใจศรัทธาอย่างแรงกล้า
พระพิฆเนศจึงได้เนรมิตพระศรีบัลลาเลศวาให้เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้
จึงเชื่อกันว่าผู้ที่มาสักการะองค์พระพิฆเนศด้วยใจศรัทธาจะได้รับพรจากพระองค์
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองปูเน่
เป็นเมืองเก่าแก่และเมืองที่สำคัญทางวัฒนธรรมของอินเดีย
ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่ในรัฐมหาราษฎร์ นำท่านเดินทางเข้าโรงแรมที่พัก
(พัก PRIDE HOTEL เมืองปูเน่ หรือระดับ 4 ดาว)
|
ค่ำ
บริการอาหารค่ำที่โรงแรม
หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย.....ราตรีสวัสดิ์ |
วันที่สาม
: ปูเน่ องค์ทัคฑูเสฐ องค์คเณศดาร์ชาน เธอูร์ วัดศรีจินดามณี
โมเร่กาวน์ วัดศรีโมเรศวา |
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านสักการะ องค์ทัคฑูเสฐ
(Dugdusheth) พระพิฆเนศประจำเมืองปูเน่ และเป็นพระพิฆเนศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
จากนั้นนำท่านสักการะ องค์คเณศดาร์ชาน
(Ganesh Darshan) หรือที่รู้จักกันในนาม Akhil Mandai
Mandal พระพิฆเนศประทับนอนชิงช้าเสวยสุข มีพระแม่สุรัสวดีเทพีแห่งปัญญาประทับเคียงข้างคอยปรนนิบัติ
ให้ท่านได้ขอพรเพื่อปัญญาในการทำงานให้สำเร็จลุล่วง ง่ายได้
และเสวยสุขดุจมหาเทพ |
เที่ยง
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารพื้นเมือง
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ วัดศรีจินดามณี
(Sri Chintamani) เมืองเธอูร์(Theur) ตามตำนานเชื่อกันว่า
เจ้าชายกานาโอรสของกษัตริย์อภิจิตแย่งชิงแก้วจินดามณี (แก้วสารพัดนึก)
จากฤาษีกาปิละ ฤาษีกาปิละจึงอ้อนวอนขอให้พระพิฆเนศช่วยเหลือ
ต่อมาเมื่อฤาษีกาปิละ รบชนะแล้วได้นำแก้วจินดามณีกลับคืนมา
จึงอธิษฐานขอให้พระพิฆเนศประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป และถวายแก้วจินดามณีนั้นประดับแด่องค์พระพิฆเนศ
จึงเชื่อกันว่าเมื่อสักการบูชา องค์ศรีจินดามณี จะสมหวัง ดังได้อธิษฐานต่อลูกแก้วจินดามณี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดศรีโมเรศวา
(Sri Moreshwar) เมือง โมเรกาวน์ (MOREGOAN) คำว่า
โมเร มีความหมายว่านกยูง และ กาวน์ หมายถึงหมู่บ้าน เพราะในอดีตหมู่บ้านแถบนี้มีนกยูงอาศัยอยู่จำนวนมาก
อีกทั้งรูปร่างของหมู่บ้านก็คล้ายกับรูปนกยูงด้วย ตามตำนานเล่าว่า
พระพิฆเนศเสด็จลงมาครั้งแรกเพื่อสังหารเจ้าชายสินธุ โอรสของกษัตริย์จันทระปานี
ซึ่งถือตัวว่าได้รับพรจากสุริยเทพให้เป็นอมตะ จึงรังแกและฆ่าฟันเหล่าเทวดา
พระพิฆเนศประทับบนหลังนกยูงเสด็จลงมาสังหารเจ้าชายสินธุ หลังจากนั้นเทวดาจึงขอพระพิฆเนศประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป
พระพิฆเนศจึงเนรมิตเทวรูปของพระองค์เองขึ้นที่นี่ เมื่อสักการบูชาองค์ศรีมยุเรศวร
จะปราศจากอุปสรรคและอันตรายใดๆ ทั้งปวง |
ค่ำ
บริการอาหารค่ำที่โรงแรม
หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พัก PRIDE HOTEL เมืองปูเน่ หรือระดับ
4 ดาว) |
วันที่สี่
: ปูเน่ โอซาร์ วัดศรีวิฆเนศวา เลนยาดรี วัดศรีคีรีจัตมา
มุมไบ |
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองรันยันกาวน์
(Ranjangoan) นำท่านสักการะ องค์ศรีมหาคณปติ วัดศรีมหาคณปติ
(Sri Mahaganapati) เทวะตำนานเล่าว่า ขณะที่ฤาษีคฤตสมาช
นั่งบำเพ็ญเพียรภาวนาได้จามออกมาเป็นกุมารน้อยผิวสีแดง จึงสอนให้กุมารสวดบูชาต่อพระพิฆเนศ
กุมารน้อยบำเพ็ญเพียรกว่าห้าพันปีทำให้พระพิฆเนศพอใจเป็นอย่างมากจึงประทานพรให้
แต่กุมารขอให้ตนเองมีอำนาจเหนือ 3 โลก พระพิฆเนศให้ตามที่ขอโดยการเนรมิตประสาท
3 หลัง คือประสาททองคำ ประสาทเงิน ประสาทโลหะและตรัสว่า ต่อไปนามของเจ้าคือ
ตรีปุระ ในวันใดที่เจ้าชั่วร้าย ประสาทเหล่านี้จะถูกทำลายและเจ้าจะถูกทำลายด้วยศรของพระศิวะ
บิดาของข้า ต่อมาตรีปุระลำพองตนรุกรานทั้ง 3 โลก องค์พระศิวะจึงเสด็จมาปราบและหลังจากบวงสรวงต่อพระพิฆเนศ
แล้วพระศิวะก็ปราบตรีปุระได้สำเร็จ จึงเชื่อว่าเทวะสถานแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พระศิวะบวงสรวงต่อพระพิฆเนศ
การสักการะองค์ศรีมหาคณปติจะทำให้มีอำนาจยิ่งใหญ่ สามารถพิชิตมารร้ายและอุปสรรคทั้งหลายได้สำเร็จ |
เที่ยง
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารท้องถิ่น
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ วัดศรีสิทธิวินายัก
(Sri Siddhivinayak) เมืองสิทธิเตก(Siddhatek) วัดตั้งอยู่ในที่ห่างไกลจากชุมชน
ตามตำนานเล่าว่าสถานที่แห่งนี้คือจุดที่พระพรหมสร้างโลก และเป็นสถานที่พระวิษณุปราบมาธุสูรและไกตสูร
ที่มาก่อกวนพระพรหมขณะกำลังสร้างโลก ศรีสิทธิวินายักเป็นองค์เดียวในอักษฏวินายักที่งวงของพระพิฆเนศหันไปทางขวามือของพระองค์
ซึ่งถือว่าเป็นเทวลักษณะที่หายากและปรากฎขึ้นเพียงแห่งเดียว
ผู้ที่สักการบูชาองค์ศรีสิทธิวินายกะ จะประสบความสำเร็จในเรื่องงานทุกประการ |
เย็น |
บริการอาหารค่ำที่โรงแรม
หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พัก PRIDE HOTEL เมืองปูเน่ หรือระดับ
4 ดาว) |
วันที่ห้า
: ปูเน่ โอซาร์ วัดศรีวิฆเนศวา เลนยาดรี วัดศรีคีรีจัตมา
มุมไบ |
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารออกเดินทางสู่ วัดศรีวิฆเนศวา
(Sri Vighneshwar) เมืองโอซาร์ (Ozhar) เทวะสถานแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องความงดงามทางสถาปัตยกรรม
โดยเฉพาะยอดโดมที่เป็นทองคำและความงดงามของพวงมาลัยที่ประดับอยู่ที่ตัวเทวาลัย
ตำนานเล่าว่า กษัตริย์อภินันทะประกอบพิธีบูชายัญเพื่อจุติมาเป็นอินทรเทพ
พระอินทร์ได้ทราบดังนั้นจึงสร้างวิฆนาสูรเพื่อส่งไปทำลายพิธีกรรมของกษัตริย์อภินันทะ
แต่วิฆนาสูรกลับทำลายพิธีและทำลายทุกอย่างทั้งหมด ทำให้ธรรมะหายไปจากทั้งสามโลก
เหล่าฤาษีนักบวชจึงอ้อนวอนต่อพระพิฆเนศให้เสด็จมาปราบวิฆนาสูร
พระพิฆเนศใช้อำนาจสยบอำนาจทั้งหมดของวิฆนาสูร ทำให้วิฆนาสูรยอมแพ้และถวายตัวต่อองค์พระพิฆเนศเพื่อให้ไว้ชีวิตตน
และขอร้องให้องค์พระพิฆเนศใช้ชื่อของตัวเองรวมกับพระนามของพระองค์เพื่อล้างบาปและเป็นบุญกุศลแก่วิฆนาสูร
เทวรูปพระพิฆเนศที่นี่จึงถูกขนานนามว่า ศรีวิฆเนศวร หมายถึงผู้ขจัดอุปสรรคและภยันตราย
จึงเชื่อว่าผู้ที่มาสักการะองค์ศรีวิฆเนศวรก่อนทำการใดๆ จะทำการนั้นได้สำเร็จราบรื่น
ไร้อุปสรรค |
เที่ยง
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารท้องถิ่น
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ วัดศรีคีรีจัตมา
(Sri Girijatmaj) เมืองเลนยาดรี (Lenyadri) ตั้งอยู่ในถ้ำบนภูเขาริมแม่น้ำกุกดี
ซึ่งครั้งหนึ่งถ้ำที่ภูเขาแห่งนี้ ได้ขุดเจาะเพื่อเป็นวัดในพระพุทธศาสนา
หลังจากพระพุทธศาสนาเริ่มเสื่อม ศาสนาฮินดูก็รุ่งเรืองและภายในถ้ำแห่งนี้ก็เกิดปาฏิหารย์
มีพระพิฆเนศเกิดขึ้นมาทำให้ชาวฮินดูขึ้นมายาตรามหาเทพ จึงทำให้ถ้ำแห่งนี้กลายเป็นถ้ำของพระพิฆเนศ
การสักการะองค์พระพิฆเนศ จะต้องขึ้นบันได 283 ขั้น เทวะตำนานแห่งนี้เล่าว่า
พระแม่อุมาเทวีอยากมีโอรสมาก จึงได้เดินทางมาที่ถ้ำคีรีจัตมาเพื่อมาทำพิธีปันยากพรต
(บุญยักวริตะ) ขึ้นเพื่อเป็นการบูชาต่อพระวิษณุเทพ ตามการแนะนำของพระศิวะเป็นเวลาหนึ่งปี
ทำให้พระวิษณุโปรดปราณมาก จึงให้พระกฤษณะไปกำเนิดเป็นบุตรของพระแม่อุมาเทวี
จึงเชื่อกันว่า พระพิฆเนศที่ถ้ำแห่งนี้เป็นอวตารปางหนึ่งของพระกฤษณะด้วย
การยาตรามายังถ้ำเทวะสถานคีรีจัตมาแห่งนี้ก็เพื่อขอบุตร ซึ่งผลบุญแห่งการยาตรามาแสวงบุญนี้
จะทำให้ผู้ที่ยังไม่มีบุตรและมาประกอบพิธีขอบุตรที่นี่จะประสบความสำเร็จสมหวังเสมอ
จะได้บุตรที่ดีมีปัญญาหลักแหลมเหมือนดังองค์พระคเนศ ที่บริเวณถ้ำแห่งนี้สามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเลนยาตรีได้อีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมุมไบ |
ค่ำ
บริการอาหารค่ำที่โรงแรม
หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย(พัก HOLIDAY INN HOTEL เมืองมุมไบหรือระดับ
4 ดาว) |
วันที่หก
: มุมไบ - วัดสิทธิวินายัก - ช้อปปิ้ง - กรุงเทพฯ |
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ วัดสิทธิวินายัก
(SIDDHIVINAYAK) ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมุมไบ
(บอมเบย์) นักแสดง นักการเมือง นักธุรกิจ ผู้มีชื่อเสียงในอินเดียให้ความศรัทธาเป็นอย่างมาก
องค์พระพิฆเนศที่นี่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากที่อื่นตรงที่งวงหันไปทางขวา
ผู้คนที่นับถือพระพิฆเนศทั้งในอินเดียและต่างประเทศ ต่างพากันไปสักการบูชาและขอพรอย่างไม่ขาดสาย
|
เที่ยง
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านสักการะพระพิฆเนศองค์ใหญ่ Lalbaugcha
Raja ราชาแห่งลาบ็อก ซึ่งเป็นอีกองค์หนึ่งที่มีผู้คนมาบูชากราบไหว้ขอพรอย่างมากเพื่อความเจริญและยิ่งใหญ่ในหน้าที่การงาน
ให้ท่านได้สักการะกราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นนำท่านชม
ประตูอินเดีย ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำในย่านอพอลโลบันเดอร์ ประตูชัยนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในโอกาสที่พระเจ้าจอร์จที่
5 และพระราชินีแมรี่ เสด็จมาร่วมงานเดลีดารบัร ในปี ค.ศ. 1911
วัสดุที่ใช้สร้างเป็นหินทรายสีน้ำผึ้ง ยามเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกแสงอาทิตย์จะกระทบลงมาที่ประตูเปลี่ยนสีจากสีทองเป็นสีส้มและจากสีส้มเป็นสีชมพูซึ่งสวยงามมาก
ผ่านชมย่าน ถนนมารีนไดรฟว์หรือเรียกอีกชื่อว่าถนนเนตาจีสุภาษ
เป็นถนนเชื่อมเขามะละบาร์เข้ากับย่านฟอร์ตและโกลาบา ตัวถนนทอดยาวโค้งไปตามแนวกำแพงกั้นน้ำทะเล
|
ค่ำ
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
หลังอาหารอิสระช้อปปิ้งที่ ตลาดคอฟฟอร์ด
ตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินเมืองมุมไบ |
วันที่เจ็ด
: มุมไบ - กรุงเทพฯ |
01.55
น.
ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ
โดยสายการบิน Jet Airway เที่ยวบินที่ 9W62 |
07.40
น.
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยสวัสดิภาพ |