(พักโรงแรมเมืองภูวเนศวร 3 คืน ระดับ 4 ดาว) |
เมืองโอริสสา (Orissa) หรือ ชื่อใหม่ปัจจุบันว่า โอดิชา (Odisha) โอริสสา ในอดีตกว่าสองพันปีมาแล้วเคยเป็นแคว้นกลิงคะ หรือ กลิงคราช อันรุ่งเรืองและเข้มแข็ง ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากเป็นศูนย์กลางการเดินทางและการค้าโบราณ ต่อมาประมาณ พ.ศ. 300 สงครามครั้งสุดท้ายของพระเจ้าอโศกมหาราชทรงยกทัพมายึดครองแผ่นดินแห่งนี้ จนทำให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์อินเดีย มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเรือนแสน จากผลของสงครามในครั้งนี้ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชเศร้าสลดป็นอย่างมากและได้เปลี่ยนจากนับถือศาสนาพราหมณ์หันมานับถือพระพุธศาสนา ทำให้ศาสนาพุทธเข้ามาสู่ยุครุ่งเรืองสูงสุด มีการก่อสร้างพุทธสถานมากมาย รวมไปถึงการเผยแผ่ศาสนาไปทั่วทั้งชมพูทวีป มีการส่งศาสนทูตไปยังดินแดนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสุวรรณภูมิ ประเทศจีน ประเทศศรีลังกา ประเทศมองโกเลีย เอเชียกลาง ประเทศอิหร่าน รวมไปถึงประเทศกรีซ จากผลปวงแห่งสงครามและการบังคับเปลี่ยนศาสนาครั้งใหญ่ ทำให้ชนชั้นพราหมณ์และผู้ปกครองได้นำผู้คนหลบหนีมายังดินแดนอุษาคเนย์ก่อเกิดอารยธรรมและวัฒนธรรมอินเดียใต้ในแถบอาณาจักรศรีวิชัยและภาคใต้ประเทศไทย |
คลิ๊ก รายละเอียดโปรแกรม |
รางวัลกินรีทอง |
รางวัลบริษัททัวร์มาตรฐาน |
รางวัลบริษัททัวร์มาตรฐาน |
|
โปรแกรมทัวร์ (ทัวร์ไม่ลงร้าน / รวมวีซ่า / รวมทิปไกด์อินเดีย) |
วันเดินทาง |
ผู้ใหญ่ |
พักเดี่ยว เพิ่ม |
หมายเหตุ |
27 - 30 กันยายน 2566 |
30,995.-บาท |
4,500.-บาท |
กรุ๊ป 16 ท่าน |
11 - 14 ตุลาคม 2566 |
30,995.-บาท |
4,500.-บาท |
กรุ๊ป 16 ท่าน |
22 - 25 พฤศจิกายน 2566 |
30,995.-บาท |
4,500.-บาท |
กรุ๊ป 16 ท่าน |
20 - 23 ธันวาคม 2566 |
30,995.-บาท |
4,500.-บาท |
กรุ๊ป 16 ท่าน |
ลูกค้าเก่า ลดท่านละ 400.-บาท |
รวมค่าทิปไกด์และคนขับรถอินเดีย |
กรุ๊ปหมู่คณะ 10 ท่านขึ้นไป ออกเดินทางได้ทุกวันพุธ - กลับวันเสาร์ |
|
วันแรก
: สนามบินสุวรรณภูมิ ภูวเนศวร โอริสสา พิพิธภัณฑ์โอริสสา - ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี |
02.30
น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
05.35 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินบิจูแพตเนค
เมืองภูวเนศวร (Bhubaneshwar) ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน IndiGo - 6E1606
06.55 น. ถึง สนามบินบิจูแพตเนค (Biju Patnaik BBI) เมืองภูวเนศวร หรือ เมืองบูบาเนสชวาร์ (Bhubaneshwar) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ตรวจเช็คกระเป๋าเดินทางและสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางโดยรถปรับอากาศเข้าตัวเมืองบูบาเนสชวาร์ (Bhubaneshwar) เมืองหลวงของรัฐโอริสสา
08.30 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์แห่งรัฐโอริสสา (Odisha State Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของรัฐ บอกเล่าความรุ่งเรืองในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งพระพุทธรูปแกะสลักและสิ่งของเครื่องใช้ของคนยุคโบราณมากมายรวมทั้งเงินตราที่ใช้กันในอดีต
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านชม ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี (Udayagiri and Khandagiri Caves) เป็นกลุ่มถ้ำที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์โบราณคดีและศาสนา ตัวถ้ำตั้งอยู่บนเนินเขา กลุ่มถ้ำอุไดคีรี มี 18 ถ้ำ และกลุ่มถ้ำขัณฑคีรี มี 15 ถ้ำ ภายในถ้ำมีการแกะสลักอย่างวิจิตรสวยงาม จากการสำรวจทางโบราณคดีของอินเดียเชื่อว่าถ้ำเหล่านี้สร้างขึ้นในช่วงก่อนศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตศักราช มีการเจาะภูเขาเป็นที่พักของเหล่านักบวช ต่อมาเป็นที่อยู่ในการหลบหนีภัยของบาสซาวาดัตตาเจ้าหญิงแห่งอุจจายินีกับกษัตริย์อูดายานาแห่ง Kausambi นำท่านชม ถ้ำราชินี Rani Gumpha ถ้ำที่ใหญ่ที่สุด มีรูปแกะสลักที่สวยงามแบบโบราณ ชม ถ้ำมัญจาคีรี แสดงถึงรูปผู้ชาย 2 คนและรูปผู้หญิง 2 คนบูชา Kalinga Jina ที่ Kharval ชม ถ้ำพระพิฆเนศวรกุมภา เป็นถ้ำได้รับชื่อเนื่องจากรูปแกะสลักของพระพิฆเนศที่ด้านหลัง ชม ถ้ำช้าง ที่มีอักษรพรหมีที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าอโศกมหาราช จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าที่ห้างสรพสินค้า Esplanade 1 The Biggest Mall ห้างใหญ่ที่สุด
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักที่โรงแรม Hotel Sandy's Tower หรือระดับ 4 ดาว) |
ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี |
ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี |
ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี |
ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี |
ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี |
ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี |
ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี |
ถ้ำอุไดคีรีและถ้ำขัณฑคีรี |
|
วันที่สอง
: สามเหลี่ยมเพชรพระพุทธศาสนา ลลิตคีรี - รัตนคีรี - อุทัยคีรี |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัตแทค เมืองขนาดใหญ่อันดับที่ 2 รองจากเมืองภูวเนศวร เพื่อนำท่านชมเหล่าพุทธโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 - 12 (พุทธศตวรรษที่ 6 - 18) อันได้รับสมญานามว่า สามเหลี่ยมเพชรแห่งดินแดนพระพุทธศาสนาของรัฐโอริสสา อันเนื่องมาจากเป็นสถานที่ตั้งของพุทธโบราณสถานที่สำคัญ 3 แห่งอันได้แก่ รัตนคีรี ลลิตคีรี และอุทัยคีรี นำท่านชม หมู่พุทธสถานแห่งลลิตคีรี (Lalitgiri) ซึ่งเป็นพุทธสถานที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐโอริสสา ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่1 (พุทธศตวรรษที่ 6) ซึ่งมีหลักฐานปรากฏตามบันทึกของพระถังซัมจั๋งได้จารึกมายังพุทธสถานแห่งนี้ แต่กลับมีชื่อที่เรียกแตกต่างกันออกไปคือ ปุษปาคีรีมหาวิหาร ที่ระบุถึงสถูปองค์ใหญ่บนยอดเขาลลิตคีรีและพระวิหารอารามต่างๆ รวมไปถึงสถูปน้อยใหญ่จำนวนมากมาย โดยปัจจุบันพุทธสถานแห่งนี้ยังปรากฏร่องรอยตามจารึกอันได้แก่สถูปสร้างด้วยก้อนอิฐที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งบริเวณบันไดทางขึ้นลลิตคีรีจะปรากฏพบเห็นพระพุทธรูปแกะสลักของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ รวมไปถึงพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรหินแกะสลัก จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์ลลิตคีรี ที่จัดแสดงผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ทำจากทองคำที่ขุดพบในสถูปหินองค์ใหญ่ รวมไปถึงโบราณวัตถุขนาดน้อยใหญ่จำนวนมากที่ประกอบไปด้วยพระพุทธรูปหินปางต่างๆและพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรหินแกะสลัก โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อและนับถือในเรื่องพญานาคที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณดังที่ปรากฏพระพุทธรูปปางนาคปรก
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านชม หมู่พุทธสถานรัตนคีรี (Ratnagiri) เป็นโบราณสถานที่ถูกค้นพบซากปรักหักพังของวัดขนาดใหญ่จำนวน 2 วัด และสถูปขนาดใหญ่ 1 องค์ ซึ่งสันนิษฐานว่ามีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์คุปตะในสมัยพระเจ้านราสิงหะคุปตะ พารัตติยา (Narasimha Gupta Baladitya) ในสมัยศตวรรษที่ 6 (พุทธศตวรรษที่ 11) โดยมีการคาดการณ์ว่าพุทธสถานแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายตันตระยานหรือวัชรยาน เนื่องจากสถาปัตยกรรมต่างๆที่ถูกขุดพบอันประกอบไปด้วยซุ้มประตูแกะสลักที่มีความวิจิตรประณีต รวมไปถึงรูปหินปั้นแกะสลักในแบบวัชรยาน ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับศิลปะและสถาปัตยกรรมที่นาลันทามหาวิหารในรัฐพิหาร จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์รัตนคีรี ซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุที่ถูกขุดพบบริเวณหมู่พุทธสถานแห่งรัตนคีรี ซึ่งจัดแสดงให้ผู้เข้าชมทั้งหมด 4 ห้อง โดยภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะปรากฏต้นแบบพระเครื่องทำจากสำริดที่ถ่ายทอดมาถึงยุคปัจจุบัน นำท่านเดินทางไปชม หมู่พุทธสถานแห่งอุทัยคีรี (Udayagiri) หรือ มัทวะปุระมหาวิหาร พุทธสถานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐโอริสสา ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยที่พระพุทธศาสนาในรัฐโอริสสามีความเจริญสูงสุดในช่วงศตวรรษ ที่ 7 12 (พุทธศตวรรษที่ 12 - 17) ซึ่งมีการขุดพบสถูปขนาดใหญ่วิหาร 2 แห่ง รวมไปถึงศิลาจารึกหิน พระพุทธรูปจำนวนมากและพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรหินแกะสลักที่บางส่วนยังคงถูกฝังอยู่ใต้พื้นดิน โดยบริเวณเนินเขาจะปรากฏสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีทางบันไดลงไปซึ่งถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาในการจัดสรรทางน้ำที่มีมาแต่ยุคโบราณ
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักที่โรงแรม Hotel Sandy's Tower หรือระดับ 4 ดาว) |
ลาลิตคีรี โอริสสา |
ลาลิตคีรี โอริสสา |
พิพิธภัณฑ์ลาลิตคีรี โอริสสา |
พิพิธภัณฑ์ลาลิตคีรี โอริสสา |
รัตนคีรี เมืองโอริสสา |
รัตนคีรี เมืองโอริสสา |
รัตนคีรี เมืองโอริสสา อินเดีย |
รัตนคีรี เมืองโอริสสา |
อุทัยคีรี เมืองโอริสสา |
อุทัยคีรี เมืองโอริสสา |
อุทัยคีรี เมืองโอริสสา |
อุทัยคีรี เมืองโอริสสา |
|
วันที่สาม
: เทวาลัยราชรานี เทวาลัยมุกเตศวร - วิหารโคนาร์ค มรดกโลก |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านชม เทวาลัยราชรานี (Rajarani Temple) สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 11 (พุทธศตวรรษที่ 16) ในอดีตจะรู้จักในนามของ เทวาลัยอินเดรศวร อันมีความหมายว่า เทวาลัยแห่งความรัก อันมีที่มาจากภาพแกะสลักรูปผู้หญิงและคู่รักจำนวนมากภายในเทวาลัยแห่งนี้ เทวาลัยราชรานีถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบพนาห์กราถา (Pnahcratha) ซึ่งมีลักษณะการสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้าง 2 จุดบนฐานเดียวกัน จากนั้นนำท่านชม เทวาลัยมุกเตศวร (Mukteshwara Temple) สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 (พุทธศตวรรษที่ 15) ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเทวาลัยที่มีขนาดเล็กที่สุดในเมืองภูวเนศวร แต่ด้วยความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมที่มีการแกะสลักได้อย่างอลังการทำให้เทวสถานแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า อัญมณีแห่งโอริสสา โดยจุดที่น่าสนใจของสถานที่แห่งนี้ คือสถาปัตยกรรมและการแกะสลักบริเวณซุ้มประตูที่มีลักษณะแตกต่างจากเทวสถานแห่งอื่นในเมืองภูวเนศวร นำท่านเดินทางสู่ วิหารโคนาร์ค (ระยะทาง 67 กิโลเมตร) ตั้งอยู่ในเขตปกครองของเมืองปูรี เมืองฝั่งทะเลของอ่าวเบงกอล
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านชม เทวสถานพระสุริยะเทพ หรือ วิหารโคนาร์ค (Sun Temple) มรดกโลกทางสถาปัตยกรรมในปี 1984 และยังได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของอินเดียอีกด้วย สร้างโดยกษัตริย์นราสิงหะเทวาที่ 1 แห่งราชวงศ์คงคาตะวันออก ในปีคริสต์ศักราชที่ 1250 โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบกาลิงคะดั้งเดิม เทวสถานแห่งนี้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก สื่อถึงการบูชาพระอาทิตย์ในยามรุ่งอรุณ โดยมีสถาปัตยกรรมแห่งนี้ลักษณะคล้ายกับรถม้าศึกที่มีการแกะสลักล้อหินที่ประณีตงดงามจำนวน 12 คู่ ที่สามารถใช้สำหรับการนับช่วงฤดูกาลและการนับเวลาในรูปแบบเดือน ซึ่งหนึ่งวงล้อจะมีความหมายถึงรายปักษ์หรือครึ่งเดือน ด้านหน้ามีรูปปั้นสิงห์แกะสลักซึ่งคร่อมรูปปั้นช้าง อันแสดงถึงทัศนคติของผู้ออกแบบที่มีต่อศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ ซึ่งชาวอินเดียในยุคนั้นมีความประสงค์ให้ศาสนาฮินดูในแคว้นกาลิงคะกลับมารุ่งเรืองเหนือศาสนาพุทธอีกครั้ง รูปปั้นตัวสิงห์ทับช้าง ตัวสิงห์หมายถึงประเทศอินเดียหรือศาสนาฮินดู ส่วนช้างนั้นสื่อถึงศาสนาพุทธ บริเวณผนังขององค์ประธานของเทวสถานจะปรากฏภาพหินแกะสลักลวดลายกามาสุตราเป็นจำนวนมาก
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย
(พักที่โรงแรม Hotel Sandy's Tower หรือระดับ 4 ดาว) |
เทวาลัยมุกเตศวร |
เทวาลัยมุกเตศวร |
เทวาลัยมุกเตศวร |
เทวาลัยมุกเตศวร |
วิหารโคนาร์ค |
วิหารโคนาร์ค |
วิหารโคนาร์ค |
วิหารโคนาร์ค |
|
วันที่สี่
: เขาเดาลีคีรี ช้างหินแกะสลัก เจดีย์ศานติ - สนามบินสุวรรณภูมิ |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เขาตอลี หรือ เดาลี คีรี (Dhauligiri) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ถูกสันนิษฐานว่าเป็นสถานที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงเปลี่ยนศาสนาจากศาสนาฮินดูมาเป็นพุทธศาสนาภายหลังศึกสงครามกาลิงคะที่สร้างความสูญเสียมากมายมหาศาล โดยบริเวณเนินเขาเดาลีคีรีจะปรากฏหลักก้อนหิน ช้างหินแกะสลัก ที่พระเจ้าอโศกทรงโปรดให้สลักขึ้นด้วยอักษรพพราหมณ์มี เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งสงครามครั้งสุดท้ายของพระองค์ที่กล่าวถึงจำนวนผู้เสียชีวิตนับแสน เป็นเหตุให้พระองค์เกิดความสลดและเลิกการทำสงครามนำหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนามาปกครองประเทศและที่นี่ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรกของโลกที่แสดงถึงคุณงามความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยหลักศิลาจารึกอักษรบทบัญญัติ 14 ประการของพระเจ้าอโศกที่เผยแผ่พระธรรมครั้งยิ่งใหญ่ จากนั้นท่านขึ้นบน ยอดเขาเดาลีคีรี เพื่อสักการะ เจดีย์สันติภาพหรือเจดีย์ศานติ (Shanti Stupa) บนยอดเขาแห่งนี้ซึ่งเจดีย์ถูกสร้างขึ้นโดยดำริของท่านฟูจิ ผู้นำนิกายนิปปอนซัน เมียวจิ โดยเจดีย์แห่งนี้มีลักษณะเป็นสีขาว บริเวณยอดที่มีลักษณะคล้ายดอกบัวบานอันสื่อถึงศีล 5 ของศาสนาพุทธนิกายมหายาน บริเวณรอบองค์พระเจดีย์มีพระพุทธรูปที่ประดิษฐานและมีภาพหินแกะสลักเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธประวัติและราชประวัติของพระเจ้าอโศกมหาราช
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านช้อปปิ้งซื้อของฝาก จากนั้นออกเดินทางสู่ สนามบินเมืองภูวเนศวร
16.50 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน IndiGo - 6E1605
21.10 น. ถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพทุกท่าน |
ช้างหินแกะสลัก
|
ช้างหินแกะสลัก
|
เจดีย์สันติภาพ |
ที่พัก
|
|