อำเภอบ้านสร้าง
ค้างคาวแม่ไก่วัดบางกระเบา
วัดบางกระเบาอยู่บนถนนสายบ้านสร้าง-บางแตน ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านสร้างประมาณ
6 กิโลเมตร เป็นวัดของพระเกจิอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังคือ หลวงพ่อจาด
ภายในบริเวณวัดบางกระเบา จะมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนนับพันตัวอาศัยอยู่ตามต้นไม้
อำเภอศรีมโหสถ
ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์ อยู่ในเขตวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ
ตำบลโคกปีบภายในวัดมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
สันนิษฐานว่าเป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ สถานที่ตรัสรู้จากพุทธคยา
ประเทศอินเดีย มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งนำเข้ามาปลูกเป็นต้นแรก
ลำต้นวัดโดยรอบประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ
25 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า พระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถในสมัยขอมเรืองอำนาจทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา
จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวตรัสรู้
จากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดีย แล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ
ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี ในวันวิสาขบูชาจะมีงานนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ
การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามถนนสุวินทวงศ์
ใช้เส้นทางสายปราจีนบุรี-อำเภอพนมสารคาม ทางหลวงหมายเลข 319
ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็จะถึงวัดแห่งนี้
กลุ่มโบราณสถานสระมรกต ตั้งอยู่ที่วัดสระมรกต ตำบลโคกไทย เป็นกลุ่มโบราณสถานทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่
ที่สร้างซ้อนทับกันหลายสมัย เริ่มตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่
14 เป็นต้นมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 18 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างศิลาแลงและอิฐ
ส่วนใหญ่คงเหลือเฉพาะรากฐานอาคารเท่านั้น ระหว่างการขุดแต่งได้ค้นพบรอยพระพุทธบาทคู่สลักอยู่บนศิลาแลง
ที่ฝ่าพระบาทสลักรูปธรรมจักรนูนทั้งสองข้าง และยังมีการสลักรูปกากบาท
โดยที่ตรงกลางมีหลุมสำหรับใช้ปักเสา สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อปักฉัตรหรือร่ม
รอยพระพุทธบาทคู่นี้คาดว่าสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยทวารวดีถึงสมัยลพบุรี
นับเป็นรอยพระพุทธบาทที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ใกล้กันมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งพบพระพุทธรูปและโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้นยังมี สระมรกต เป็นสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
มีขนาดกว้างประมาณ 115 เมตร ยาว 214 เมตร ลึก 3.50 เมตร มีพื้นที่ประมาณ
25 ไร่ สันนิษฐานว่าขุดขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำ และได้นำศิลาแลงไปใช้เป็นสถาปัตยกรรม
นอกจากสระมรกตแล้วยังมี สระบัวหล้า และ ศูนย์นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโบราณสถานเมืองศรีมโหสถ
การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามถนนสุวินทวงศ์
ใช้เส้นทางหมายเลข 319 สายปราจีนบุรี-อำเภอพนมสารคาม ระยะทางประมาณ
23 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงกลุ่มโบราณสถานแห่งนี้
โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ
ตั้งอยู่ที่บ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ เป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดีขนาดใหญ่
มีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน มีเนื้อที่ประมาณ
700 ไร่ ลักษณะของเมืองมีคูเมือง และคันดินกำแพงเมืองล้อมรอบคูน้ำ
ภายในเมืองมีโบราณสถาน เนินดิน สระน้ำ บ่อน้ำ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปกว่า
100 แห่ง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี หลักฐานส่วนใหญ่ที่พบมักจะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู
เช่น เทวาลัย เทวรูป ศิวลึงค์ โบราณสถานที่สำคัญในเมืองศรีมโหสถประกอบด้วย
กลุ่มโบราณสถานกลางเมือง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นหมู่เทวาลัย
ฐานก่อด้วยศิลาแลง ด้านบนก่อด้วยอิฐ ด้านหลังมีบ่อน้ำก่อด้วยศิลาแลง
โบราณวัตถุที่ขุดพบ ได้แก่ เทวรูปต่าง ๆ และเศษเครื่องปั้นดินเผา
สมัยลพบุรี สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ภูเขาทอง เป็นเจดีย์รูปกลม
ลักษณะเหมือนโอคว่ำ สมัยทวารวดี โบราณสถานหมายเลขที่ 25 เป็นเทวาลัย
รากฐานอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่อด้วยศิลาแลง อายุราวพุทธศตวรรษที่
11-12 โบราณสถานสระแก้ว เป็นโบราณสถานที่เป็นสระน้ำโบราณ สระน้ำขุดลงไปในชั้นของศิลาแลงธรรมชาติ
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นอกเมืองศรีมโหสถ ตัวสระเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส
มีทางลงทำเป็นขั้นบันได ผนังขอบสระทุกด้านมีการแกะสลักภาพนูนต่ำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ
เช่น รูปช้าง สิงห์ หมู กินรี งูพันเสา สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ชั้นสูง
สันนิษฐานว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา
อายุราวพุทธศตวรรษ ที่ 6-11
การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรี
ไปตามทางหลวงหมายเลข 319 ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข
3070 อีกประมาณ 1 กิโลเมตร เมืองโบราณจะอยู่ทางด้านขวามือ
อำเภอศรีมหาโพธิ
อนุสาวรีย์ลายฝีพระหัตถ์
ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองโพรง อนุสาวรีย์ลายฝีพระหัตถ์นี้เป็นลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ซึ่งได้เสด็จประพาสปราจีนบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2451 ทรงจารึกไว้บนแผ่นศิลาแลง
ซึ่งเป็นซากโบราณวัตถุสมัยลพบุรี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-13
การเดินทาง อนุสาวรีย์อยู่เลยจากที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิไปทางบ้านโคกขวาง
ประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยอยู่เยื้องทางเข้าหลุมเมือง
หลุมเมือง
มีลักษณะเป็นหลุมขนาดต่าง ๆ ขุดเจาะลึกลงไปในพื้นศิลาแลง ไม่ทราบว่าขุดขึ้นในสมัยใด
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมื่อวันที่
18 ธันวาคม พ.ศ. 2451 มีพระราชสันนิษฐานว่า เป็นหลุมสำหรับโขลกปูนที่จะปั้นลวดลายเครื่องประดับปรางค์ปราสาท
มีหลุมทั้งหมดประมาณ 48 หลุม แต่คำบอกเล่าของคนรุ่นเก่ากล่าวว่าเป็นหลุมสำหรับเล่นกีฬาพื้นบ้าน
เรียกว่า การเล่นหลุมเมือง
เทวสถานพานหิน
ตั้งอยู่ที่บ้านโคกขวาง ตำบลหนองโพรง เป็นโบราณสถาน ที่ก่อด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่
กว้างด้านละ 16 เมตร สูง 3.5 เมตร มีมุขยืนออกไปทั้งสี่ด้าน
สันนิษฐานว่าประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์ มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่
12-13 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 แห่งเจนละ ตรงกลางของซากเทวาลัยมีฐานของเทวรูปซึ่งแต่เดิมตะแคงอยู่ลักษณะคล้ายพาน
จึงเรียกว่า พานหิน นอกจากนี้ยังพบศิลาแลงทรงกลม สกัดเป็นรูปฐานเชิง
การเดินทาง เทวสถานพานหินอยู่เลยจากที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิไปทางบ้านโคกขวางประมาณ
2 กิโลเมตร แล้วแยกขวาไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร |