อำเภอเมือง ศาลหลักเมือง เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดปทุมธานี ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าศาลากลางจังหวัด สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2520 เป็นศาลาแบบจตุรมุขด้านหน้าเป็นมณฑปประดิษฐานเสาหลักเมือง ลักษณะคล้ายก้านดอกบัวหลวงทำจากไม้ชัยพฤกษ์ และมีรูปหล่อพระนารายณ์สี่กรทรงเหนือหลังนกฮูกและพระวิษณุหล่อด้วยสัมฤทธิ์ ด้านหลังของมณฑปบรรจุพระยอดธงวัดไก่เตี้ย อีกทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายประกอบด้วยเครื่องรางของขลังที่รวบรวมมาจากวัดต่างๆ ในจังหวัดปทุมธานี ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี (หลังเก่า) ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเรือนไทยโบราณปั้นหยาขนาดใหญ่ชั้นเดียว สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 มีการตกแต่งลวดลายที่สวยงาม ซึ่งทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานแห่งชาติ วัดโบสถ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านกลาง ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2164 โดยชาวมอญที่อพยพมาจากเมืองหงสาวดี มีเสาหงส์สร้างขึ้นไว้เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองหงสาวดีสิ่งสำคัญในวัดโบสถ์ คือ พระแสงอาญาสิทธิ์ ของเก่าแก่จากรามัญ ช้างสี่เศียรใช้ติดตั้งประดับหัวเสา อายุเก่าแก่ถึง 150 ปีสร้างด้วยทองคำสัมฤทธิ์ พระทรงเครื่องอยู่ในโบสถ์เก่าของวัด และรูปปั้นสุนัขย่าเหลหล่อด้วยตะกั่วที่เจ้าอาวาสได้รับพระราชทานมาจากรัชกาลที่ 6 การเดินทางจากศาลากลางจังหวัดไปที่อำเภอสามโคก เมื่อถึงสี่แยก เลี้ยวขวาขึ้นสะพานปทุมธานีพอลงจากสะพานจะมีป้ายทางเข้าวัดโบสถ์อยู่ทางขวามือ วัดชินวราราม ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดเก่าแก่และเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรวิหาร เดิมชื่อ วัดมะขามใต้ บริเวณพระอารามกว้างขวาง ในพระอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม พร้อมคำบรรยายเป็นโคลงสี่สุภาพเกี่ยวกับเรื่องพระเจ้าสิบชาติ วัดนี้ได้รับการปฏิสังขรณ์ โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒนา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า อดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปถนนแจ้งวัฒนะถึงห้าแยกปากเกร็ดเลี้ยวขวาเข้าถนนสาย 306 จนถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานนวลฉวีหรือสะพานนนทบุรี เมื่อลงจากสะพานทางขวามือจะมีป้ายทางเข้าวัดซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดบางนางบุญ วัดหงส์ปทุมาวาส ตั้งอยู่ที่ตำบลบางปรอก เป็นวัดที่สร้างโดยชาวมอญที่อพยพมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา โดยขนานนามว่า วัดหงสา ตามชื่อเมืองหงสาวดี และสร้างเสาหงส์ไว้เป็นสัญลักษณ์ ปูชนียวัตถุสำคัญของวัดคือพระพุทธชินราชจำลองปางมารวิชัย เจดีย์มอญ รูปหล่อหลวงปู่เฒ่าที่ชาวบ้านนับถือ วัดแห่งนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการอนุรักษ์พันธุ์ปลาหน้าวัดมีพันธุ์ปลาต่างๆ มากมายที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาเช่น ปลาสวาย ปลาเทโพ ว่ายมาชุมนุมกันอยู่เนืองแน่นเพื่อรอรับอาหารจากผู้มาทำบุญไหว้พระที่วัด
อำเภอสามโคก วัดสิงห์ ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อกันว่าสร้างเมื่อครั้งที่ชาวมอญอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่เมืองนี้ ในบริเวณวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่ควรค่าแก่การศึกษาในด้านประวัติศาสตร์และศิลปะ มีหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปลงรักปิดทอง ปางสะดุ้งมาร สมัยกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ บนกุฎิของวัดยังมีโบราณวัตถุที่เก็บรวมรวมไว้ เช่น แท่นบรรทมของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และอิฐมอญแบบเก่า การเข้าชมต้องขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดก่อน การเดินทางใช้ถนนสายปทุมธานี-สามโคก ประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดอยู่ขวามือ ผ่านอู่ต่อเรือ และวัดตำหนัก วัดไผ่ล้อม เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ เนื่องจากบริเวณวัดนั้นมีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นเป็นที่อาศัยของ นกปากห่าง จำนวนมาก นกปากห่างเป็นนกที่อยู่ในตระกูลนกกระสา มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว เขมร และเวียดนาม นกชนิดนี้จะเริ่มอพยพมาอาศัยอยู่ที่วัดไผ่ล้อมในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี อาหารที่นกปากห่างชอบคือหอยโข่ง กุ้งและปลา ปัจจุบัน "นกปากห่าง" เป็นสัตว์ป่าสงวนในความดูแลของกองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ การเดินทางไปวัดไผ่ล้อมสามารถโดยสารรถประจำทาง ขส.มก. สาย 32 และ ปอ.6 จากสนามหลวง หรือสาย 104 จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปท่าเรือเทศบาลเมืองปทุมธานีแล้วข้ามเรือไปยังวัดไผ่ล้อมอีกทอดหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ยังมีบริการเรือนำเที่ยว กรุงเทพฯ-วัดไผ่ล้อม-ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ไป-กลับ ทุกวันอาทิตย์ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.623-6001-3 หากขับรถไปเองให้ใช้เส้นทางสายปทุมธานี-สามโคก ตรงไปถึงวัดสามัคคิยารามเลี้ยวขวาเลียบวัดไปจนถึงท่าน้ำ จะมีแพขนานยนต์ข้ามฟากให้บริการ หากไม่ต้องการนำรถข้ามฟาก ก็จอดรถไว้แล้วนั่งเรือรับจ้างข้ามไปวัดไผ่ล้อมได้ ในบริเวณวัดไผ่ล้อมมีร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มและของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวในวันเสาร์และอาทิตย์ วัดเจดีย์ทอง ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลคลองควาย ในวัดนี้มีเจดีย์ทรงรามัญ สร้างมาประมาณ 160 ปี เป็นสถาปัตยกรรมมอญที่เลียนแบบมาจากเจดีย์จิตตะกองของพม่า และมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างขึ้นด้วยหยกขาว เป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยรามัญ การเดินทางนั้นใช้เส้นทางสายปทุมธานี-สามโคก ประมาณ 8 กิโลเมตรและแยกขวาเข้าวัดอีกประมาณ 500 เมตร วัดจันทน์กะพ้อ ตั้งอยู่ตำบลบางเตย ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 6 กิโลเมตร สร้างโดยชาวมอญ ในสมัยรัชกาลที่ 2 โดยให้ชื่อว่า วัดโก๊วะ ซึ่งแปลว่า จันทน์กะพ้อ ซึ่งชาวมอญ ถือว่าเป็นไม้มงคลเหมือนต้นราชพฤกษ์ ต่อมาปี พ.ศ. 2495 พระราชสุทธิโสภณ ขอเปลี่ยนนามวัดใหม่ เป็นวัดจันทน์กะพ้อ ภายในวัดมีหอวัฒนธรรม ซึ่งเก็บรวบรวมศิลปวัตถุมอญ และยังมีโครงการอนุรักษ์พันธุ์ปลาหน้าวัด จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นวัดพัฒนาดีเด่น โครงการผู้สูงอายุอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่ประกอบพิธีสำคัญของชาวปทุมธานีเช่น พิธี ออกฮ้อยปะจุ๊ แข่งธงตะขาบ เป็นต้น วัดบางนา ตั้งอยู่ต.บางโพธิเหนือ เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2310 โดยมีครอบครัวคนไทยอพยพหนีภัยสงครามมาจากกรุงศรีอยุธยา และได้จัดสร้างวัดนี้ขึ้นซึ่งแต่เดิมอยู่ในคลอง ไม่สะดวกต่อการคมนาคม จึงได้ย้ายมาอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในบริเวณวัดมีพระป่าเลไลย์ เจดีย์ย่อมุมสิบสอง 2 องค์ เสาหงส์ และรูปหงส์กุฏิตึกโบราณ 3 หลัง นอกจากนี้ยังขุดค้นพบกระเบื้องดินเผาตัวผู้ ตัวเมีย หลังคาโบสถ์อายุกว่า 100 ปี และยังมีหินศักดิ์สิทธิ์สำหรับเสี่ยงทาย สรีระของหลวงปู่เส็งที่ไม่เน่าไม่เปื่อยอยู่ในโรงแก้ว เกจิอาจารย์ชื่อดังผู้สร้างวัตถุมงคลหมูและพญาครุฑ ที่พ่อค้าแม่ค้ารู้จักกันเป็นอย่างดี วัดศาลาแดงเหนือ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลเชียงรากน้อย อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก มีสิ่งที่น่าสนใจคือ ธรรมาสน์ลายจำหลักไม้ ศาลาการเปรียญ หมู่กุฎิ หอไตร และเครื่องกรองน้ำสมัยโบราณที่หาชมได้ยาก นอกจากนี้ ยังมีเจดีย์มอญขนาดเล็กที่น่าศึกษา ที่วัดนี้มีการสวดมนต์ด้วยภาษามอญทุกวัน เวลาประมาณ 15.00 น. บริเวณวัดนี้มีการรักษาความสะอาดของหมู่บ้านได้อย่างดีเยี่ยม จนเป็นหมู่บ้านที่ชนะเลิศการประกวดหมู่บ้านอนุรักษ์แม่น้ำเจ้าพระยาดีเด่นของกระทรวงสาธารณสุขปี พ.ศ. 2541 และยังมีการปลูกบ้านเรือนไทยผสมผสานแบบมอญที่หาชมได้ยากยิ่ง วัดสองพี่น้อง ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านงิ้ว ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในวัดนี้มีพระเจดีย์มอญย่างกุ้ง 3 องค์ วัดสองพี่น้องสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2410 และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 2 องค์คือ หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปศิลา ศิลปะอู่ทองปางมารวิชัย และหลวงพ่อพลอย เป็นพระพุทธรูปศิลปะอู่ทองจำหลักด้วยศิลา แต่ถูกขโมยไป ทางวัดได้จัดสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นที่เคารพนับถือของชาวเรือและประชาชนทั่วไป
Hotline 0-936468915, 0-823656241 ใบอนุญาตเลขที่ 11/05028