|
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี |
ข้อมูลท่องเที่ยว
อำเภอเมือง จันทบุรี |
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บนถนนท่าหลวง
บริเวณหน้าค่ายตากสิน เป็นอาคารรูปทรงเก้าเหลี่ยม หลังคาเป็นรูปพระมาลา
หรือหมวกยอดแหลม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ ภายในประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ซึ่งในแต่ละวันจะมีประชาชนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก และในวันที่
๒๘ ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์
จัดให้มีการทำบุญตักบาตรและถวายเครื่องราชสักการะ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงกอบกู้กรุงศรีอยุธยา
ศาลหลักเมืองจันทบุรี
ตั้งอยู่ถนนท่าหลวง ตรงข้ามกับศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ไม่ปรากฏหลักฐาน ว่าสร้างขึ้นเมื่อใด เป็นเพียงการสันนิษฐานว่า
สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงสร้างขึ้นเมื่อครั้งที่เสด็จเข้าเมืองจันทบุรีเมื่อปี
พ.ศ. ๒๓๑๐ เพื่อใช้เมืองจันทบุรีเป็นที่รวบรวมไพร่พล ศาสตราวุธยุทธภัณฑ์
และเสบียงอาหาร เพื่อไปกอบกู้กรุงศรีอยุธยา ตัวศาลเดิมน่าจะสร้างด้วยศิลาแลงซึ่งยังปรากฏร่องรอยให้เห็นอยู่แต่ก็ชำรุดโทรมไปมากจนไม่อาจทราบว่ามีรูปทรงอย่างไร
ส่วนหลักเมืองและตัวศาลนั้นสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๔ และได้มีการบูรณะซ่อมแซมตัวอาคาร
และปรับภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความงดงามสมศักดิ์ศรีของเมือง
พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
อยู่ในบริเวณสวนสาธารณะทุ่งนาเชย ถนนท่าหลวง เยื้อง กับศาลากลางจังหวัด
ริมถนนเลียบเนิน มีเนื้อที่ประมาณ ๓๐๐ ไร่ ทุกช่วงเช้าและเย็นจะมีประชาชนจำนวนมากนิยมมาออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ
สภาพภูมิทัศน์โดยรอบให้ความร่มรื่นและสวยงาม มีการขุดบึงล้อมรอบซึ่งใช้เป็นที่เพาะพันธุ์ปลาของประมงจังหวัด
เกาะกลางบึงประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงม้าพร้อมทหารคู่พระทัยทั้งสี่
คือ พระเชียงเงิน หลวงพิชัยอาสา หลวงพรหมเสนา หลวงราชเสน่หา
เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับการกู้เอกราชของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ที่ทรงเลือกจังหวัดจันทบุรี เป็นที่รวบรวมกำลังพลในการกอบกู้กรุงศรีอยุธยา
ถนนอัญมณี เป็นคำเรียกขาน
หมายถึง บริเวณถนนศรีจันท์และตรอกกระจ่าง นับเป็นถนนเศรษฐกิจของจังหวัด
เพราะเป็นที่ตั้งของร้านเจียระไนพลอยและร้านค้าอัญมณีต่าง
ๆ ซึ่งอาจนับได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นตลาดค้าพลอยเจียระไน
ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ในวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐
-๑๕.๐๐ น. ยังสามารถเห็นบรรยากาศการซื้อขายพลอยของบรรดานายหน้าและพ่อค้าพลอย
ที่เดินทางมาจากที่ต่าง ๆ กันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองจันทบุรี
ซึ่งไม่อาจพบได้ในจังหวัดอื่น
วัดไผ่ล้อม
ตั้งอยู่บนถนนตรีรัตน์ ห่างจากโรงแรมเค.พี.แกรนด์
ประมาณ ๕๐๐ เมตร จากรูปแบบทางสถาปัตยกรรม มีกำแพงแก้วล้อมรอบทั้ง
๔ ด้านแต่ละด้านมีช่องทางเข้า ฉนวนด้านหลังมีเสารองรับ ๕ ต้น
ไม่มีบัวหัวเสา ฐานอาคารเป็นเส้นตรง มีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองขนาดเล็กอยู่ภายในกำแพงแก้ว
ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพต้นไม้ประเภทบอนไซและดอกไม้แบบจีน
เรื่องทศชาติ และพุทธประวัติ ลักษณะการเขียนน่าจะเป็นจิตรกรรมที่เขียนขึ้นหลังรัชกาลที่
๓ ลงมาเนื่องจาก มีชาวต่างชาติปรากฏเป็นจำนวนมากในภาพวาด
วัดคาทอลิกจันทบุรี
หรือ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล
ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ถนนสันติสุข ตำบลจันทนิมิตร
เป็นวัดที่มีประวัติการก่อสร้างยาวนานถึง ๒๗๕ ปี ครั้งแรกสร้างขึ้นในปี
พ.ศ. ๒๒๕๔ บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี โดยคุณพ่อเฮิ้ต
โตแลนติโน และบรรดาคาทอลิกชาวญวน จนถึงปี พ.ศ. ๒๓๗๗ ได้มีการย้ายวัดมาสร้างบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรีอันเป็นสถานที่ตั้งในปัจจุบัน
โดยมิได้มีการบันทึกถึงสาเหตุของการย้ายแต่ประการใด และในปี
พ.ศ. ๒๔๔๖ ได้ก่อสร้างวัดหลังปัจจุบันขึ้นให้มีขนาดใหญ่กว่าวัดหลังเก่า
เพื่อรองรับกับจำนวนคริสตศาสนิกชนที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค
ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญต่าง
ๆ ซึ่งมีความงดงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง
หลังจากนั้นได้มีการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๒๘
ได้มีการจัดงานฉลองวัดคาทอลิกจันทบุรีครบรอบ ๗๕ ปี ขึ้นในปีดังกล่าวด้วย
นับได้ว่าวัดคาทอลิกแห่งนี้เป็นวัดขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และกล่าวกันว่ามีความงดงามมากที่สุดในประเทศ
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๐๗.๓๐-๑๗.๓๐ น. การเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้า
โทร. ๐ ๓๙๓๑ ๑๕๗๘
การเดินทาง
สามารถเข้าทางเดียวกับวัดไผ่ล้อม
เมื่อถึงวัดไผ่ล้อมแล้วเดินทางต่อไปอีกราว ๑ กิโลเมตร หรือจากตัวเมืองเดินทางข้ามสะพานวัดจันท์ไปตามถนนจันทนิมิตรจะพบทางแยกขวาไปโบสถ์คาทอลิก
วังสวนบ้านแก้ว
ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
ห่างจากตัวเมือง ๖ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๓๑๖ เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี
พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๔๙๓-๒๕๑๑ รวม
๑๘ ปี พระองค์ทรงใช้ที่นี่เป็นที่ดำเนินงาน ทั้งเป็นที่ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ด้วย
ทั้งนี้เพื่อเป็นตัวอย่างแก่พสกนิกรในพื้นที่นำไปใช้เป็นประโยชน์ต่อไป
ที่สำคัญที่สุดพระองค์ทรงพัฒนาการทอเสื่อจันทบูรอันเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านของชาวจันทบุรีให้เจริญก้าวหน้ากว่าเดิม
ทรงตั้งโรงทอเสื่อขึ้น ห่างจากพระตำหนักเพียง ๒๐๐ เมตร ทรงออกแบบกระเป๋าถือและผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยเสื่อกก
ปัจจุบันโรงทอเสื่อชำรุดทรุดโทรม คงเหลือเฉพาะอุปกรณ์บางชิ้น
เช่น เตาย้อมกก อ่างแช่กก สิ่งก่อสร้างในบริเวณวังสวนบ้านแก้ว
ได้แก่ พระตำหนักใหญ่ (พระตำหนักเทา) เป็นบ้านชั้นครึ่ง ครึ่งตึกครึ่งไม้
พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร ทรงออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง
พระตำหนักนี้ทรงใช้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ และรับรองพระราชอาคันตุกะ
ปัจจุบันเป็นที่รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ซึ่งแสดงถึงการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแบบสามัญ
พระตำหนักดอนแค (พระตำหนักแดง) เป็นอาคารทรงยุโรปสองชั้น สร้างด้วยไม้สักทองทาด้วย
สีแดงคล้ำ ออกแบบโดย หม่อมเจ้า กรวิก จักรพันธุ์ พระองค์โปรดเกล้าฯ
ให้เป็นบ้านพระราชเลขานุการ และรองราชเลขานุการในพระองค์
วังสวนบ้านแก้ว เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-ศุกร์
เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ และการเข้าชมเป็นหมู่คณะติดต่อล่วงหน้า
โทร. ๐ ๓๙๓๓ ๕๔๐๘-๙ ต่อ ประชาสัมพันธ์
วัดพลับ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางกะจะ
ห่างจากค่ายเนินวงประมาณ ๑ กิโลเมตร สังเกตป้ายบอกทางเข้าทางซ้าย
ตามหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานว่าพื้นที่ชุมชนวัดพลับและบ้านบางกะจะคงมีอายุในราว
พ.ศ. ๒๓๐๐ เป็นบริเวณที่กองทัพของพระเจ้าตากสินมหาราชได้ใช้พักไพร่พล
สิ่งก่อสร้างภายในวัดมีด้วยกันหลายสมัย เช่น ตู้พระไตรปิฎกไม้ลงรักปิดทอง
เขียนลายรดน้ำศิลปะแบบอยุธยาตอนปลาย เจดีย์ทรงปรางค์ สร้างเมื่อ
พ.ศ. ๒๔๔๑ หอไตรกลางน้ำ เป็นอาคารไม้ เสารองรับหลังคาเป็นของเดิมมีเขียนลายรดน้ำปิดทอง
อายุเก่ากว่าสมัยก่อนอยุธยา ได้รับการซ่อมครั้งล่าสุด เมื่อ
พ.ศ. ๒๕๑๘ เจดีย์กลางน้ำ เป็นเจดีย์ทรงระฆัง รูปแบบรัตนโกสินทร์
วิหารไม้หลังคาทรงจตุรมุข ที่มีอายุนับร้อยปี ภายในประดิษฐานพระประธานปางทุกรกิริยา
สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน เมื่อครั้งเสด็จเมืองจันทบุรี
และพระอุโบสถแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ปลุกเสกมุรธาภิเษกในสมัยต้นราชวงศ์จักรี
(มุรธาภิเษก คือ น้ำรดพระเศียรในงานราชาภิเษก หรือพระราชพิธีอื่น
ๆ) ด้านหลังวัดเคยมี สำซ่าง ซึ่งเชื่อว่าเหลืออยู่ที่วัดนี้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
เป็นที่เผาศพแบบโบราณ มีลักษณะเป็นหลังคาลดชั้น ๕ ชั้น ยอดแหลมมุงด้วยกระเบื้องเกล็ดเต่า
(กระเบื้องดินเผาปลายตัดเป็นมุมแหลม ผิวด้านสีแดงตามเนื้อดิน
ใช้มุงหลังคา โบสถ์ วิหาร) แต่ปัจจุบันพังทลายลงไปแล้ว
วัดทองทั่ว
อยู่ริมถนนสุขุมวิท เส้นจันทบุรี-ขลุง
ห่างจากตัวเมืองราว ๔ กิโลเมตร มีพระอุโบสถและเจดีย์อายุนับร้อยปี
เป็นสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุเขมร ได้แก่ ทับหลังแบบถาลาปริวัติ
และทับหลังแบบไพรกเมง (พ.ศ. ๑๑๕๐-๑๒๕๐) เสาประดับกรอบประตูแบบนครวัด
และโกลนพระคเณศทำจากหินทรายสีขาว เป็นต้น
โบราณสถานเมืองเพนียด
ตั้งอยู่ที่หมู่ ๔ ตำบลคลองนารายณ์
ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ ๓๐๐ เมตร กรมศิลปากรได้ดำเนินการสำรวจและได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเรียบร้อยแล้วโดยสันนิษฐานว่าสถานที่แห่งนี้
น่าจะเป็นที่ตั้งเมืองจันทบุรียุคแรกหรือประมาณ ๑,๐๐๐ ปีล่วงมาแล้ว
ปัจจุบันเหลือเพียงซากกำแพงศิลาแลง และส่วนที่เป็นคันดินสูงประมาณ
๑-๓ เมตร ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นสิ่งก่อสร้างประเภทใด
วัดโบสถ์เมือง
ตั้งอยู่ริมถนนเบญจมราชูทิศ สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย
โดยสังเกตได้จากเสมาหินทรายขาว รวมทั้งอุโบสถและเจดีย์ทรงลังกา
นอกจากนี้ยังมีทับหลังเป็นศิลปะบาปวนตอนปลาย พ.ศ. ๑๕๑๐-๑๖๓๐
รูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณในซุ้มเรือนแก้ว |
|
จันทบุรี จังหวัดจันทบุรี โรงแรมจันทบุรี
น้ำตกลือเลื่อง
เมืองผลไม้ พริกไทยพันธุ์ดี อัญมณีมากเหลือ เสื่อจันทบูร สมบูรณ์ธรรมชาติ
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รวมญาติกู้ชาติที่จันทบุรี
|
ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดจันทบุรี
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทัวร์โปรโมชั่น
โปรแกรมทัวร์อื่นๆ |
 |
โปรแกรมจอยทัวร์ |
|
| |
|