อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง(พุแค)
ตั้งอยู่ที่ตำบลพุแค ใช้เส้นทางสายสระบุรี-ลพบุรี (ถนนพหลโยธิน)
ห่างจากตัวเมืองสระบุรีไปประมาณ 17 กิโลเมตร จะอยู่ตรงทางแยกไปทางหลวงหมายเลข
21 (ไปเพชรบูรณ์) พอดี ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพระพุทธบาทพุแค
มีพื้นที่ทั้งหมด 4,697 ไร่ ครอบคลุมสองฟากฝั่งถนน หากไปจากสระบุรี
ฟากซ้ายมือ จะเป็นส่วนของอาคารสำนักงาน และ ห้องสมุดพรรณไม้
ฟากขวามือมีบริเวณกว้างขวาง บรรยากาศร่มรื่น และมีลำธารไหลผ่าน
เป็นสวนหย่อมรวบรวมพันธุ์พืชไม้ต่างๆ ส่วนมากจะเป็นไม้พื้นบ้าน
ประกอบด้วยพรรณไม้ต่างๆ 35 วงศ์ พรรณไม้ในวรรณคดี และ พรรณไม้สมุนไพร
สวนพฤกษศาสตร์จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2484 เป็นส่วนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย
เป็นแหล่งรวบรวมและศึกษาวิจัยพันธุ์พืชรวมทั้งเผยแพร่และให้บริการความรู้ในด้านต่างๆเกี่ยวกับพืช
และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่าง
เวลา 08.00-18.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม รายละเอียดติดต่อ 0
3634 7457
ถ้ำศรีวิไล
ตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำศรีวิไล ตำบลหน้าพระลาน ห่างจากตัวเมือง
ประมาณ 22 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีพระพุทธเนาวรัตน์ ศิลปะสมัยเชียงแสน
มีหินงอก หินย้อย นอกจากนั้นยังสามารถเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติ
มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อนสวยงาม การเดินทาง จากตัวเมืองสระบุรี
ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ประมาณ 17 กิโลเมตร ถึงสามแยกหนองจานมีทางแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข
3385 ไปประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางโรงปูนอีกครั้งหนึ่ง
อำเภอเสาไห้
เสาร้องไห้ ตั้งอยู่ในศาลนางตะเคียนทอง
ณ วัดสูง ตำบลเสาไห้ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเสาไห้ประมาณ 500
เมตร ริมทางหลวงหมายเลข 3041 เป็นเสาไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ โดยถือกันว่าเป็นเจ้าแม่
เพราะสิ่งของที่นำไปบูชาล้วนเป็นของสตรีทั้งสิ้น มีตำนานเล่ากันว่า
เมื่อครั้งสร้างกรุงเทพฯ เป็นราชธานี ได้มีการเกณฑ์เสาจากหัวเมืองต่าง
ๆ เพื่อคัดเลือกเสาที่มีลักษณะงดงาม เพื่อจัดเป็นเสาเอก ทางเมืองสระบุรีได้จัดส่งเสาต้นหนึ่งที่มีลักษณะงดงามมากล่องลงมาตามลำน้ำป่าสัก
แต่มาถึงกรุงเทพฯ ช้าไปเล็กน้อย และได้มีการคัดเลือกเสาเอกไปก่อนแล้ว
จึงได้เป็นเสารอง ซึ่งถ้าเสาต้นนี้มาทันเวลาก็ต้องได้เป็นเสาเอกอย่างแน่นอน
เพราะมีลักษณะใหญ่ และสวยงามมาก เสาต้นนี้จึงเกิดความเสียใจลอยทวนน้ำกลับขึ้นมาจมลง
ณ ตำบลแห่งนี้อยู่ประมาณ 100 กว่าปี เมื่อปี พ.ศ.2501 ได้มีชาวบ้านนำขึ้นจากน้ำไปไว้ที่ศาลหน้าพระอุโบสถวัดสูงจนถึงปัจจุบันนี้
พอตกเวลากลางคืนชาวบ้านมักได้ยินเสียงร้องไห้ จึงได้ให้ชื่อตำบลนี้ว่า
ตำบลเสาร้องไห้ และได้กลายเป็น "อำเภอเสาไห้" ในปัจจุบัน
และในวันที่ 23 เมษายนจะมีประเพณีสรงน้ำนางตะเคียนทุกปี ณ
บริเวณหน้าอุโบสถวัดสูง
วัดเขาแก้ววรวิหาร
ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นตาล ทางฝั่งขวาของแม่น้ำป่าสัก ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ
6 กิโลเมตร ในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ
เสด็จประพาสหัวเมือง เมื่อถึงอำเภอเสาไห้ ได้โปรดเกล้าฯ บูรณะปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้
และสถาปนาเป็นพระอารามหลวง มีคำเล่าลือกันว่าวันดีคืนดีจะเห็นดวงแก้วสุกสว่างเหนือวิหารวัดเขาแก้ว
ถือว่าเป็นการแสดงปาฏิหาริย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุในองค์พระเจดีย์
ในเจดีย์ปรางค์ห้ายอดองค์เล็กซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหอระฆังและเจดีย์องค์ใหญ่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่อง
พระพุทธรูปปางป่าเลไลก์ และ พระพุทธบาทซึ่งล้วนมีลักษณะงดงาม
วัดสมุหประดิษฐาราม
ตั้งอยู่ที่ตำบลสวนดอกไม้ ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 2 กิโลเมตร
พระอุโบสถสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2440 ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องคาวีสวยงามมาก
พระประธานในพระอุโบสถอัญเชิญมาจากเมืองเก่าสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปสำริดปิดทองปางมารวิชัย
และประดิษฐานพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร อัครสาวกซ้ายขวา และในเดือนกันยายน
ของทุกปีจะมีการแข่งขันเรือยาวประเพณีที่วัดแห่งนี้
วัดจันทบุรี ตั้งอยู่ที่บ้านเมืองเก่า
หมู่ 6 ต.เมืองเก่า เลยจากที่ว่าการอำเภอไปประมาณ 1 กิโลเมตร
ตามทางหลวงหมายเลข 3041 วัดอยู่ทางขวามือ มีป้ายชี้ทางเข้าวัดอย่างชัดเจน
สิ่งที่น่าชมคือพระอุโบสถ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2436 สมัยรัชกาลที่
3 มีลักษณะก่ออิฐถือปูน หลังคาจั่ว ช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันประดับลายปูนปั้นและเครื่องถ้วย
ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยเดียวกับพระอุโบสถซึ่งยังสมบูรณ์อยู่และงดงามมาก
เป็นรูปเทพชุมนุม และพุทธประวัติ
ศูนย์การเรียนรู้ทอผ้าตำบลต้นตาล
เกิดขึ้นจากกลุ่มสตรีที่ว่างงานรวมตัวกันใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว
และเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ครบวงจรให้กับเยาวชน
และบุคคลทั่วไป โดยผ้าที่ทอมีหลายแบบ ได้แก่ ผ้าขาวม้า ผ้าพื้น
ผ้าสี่เขา ผ้าลายดอกพิกุลซึ่งเป็นลายแบบโบราณของคนไท-ยวน การเดินทาง
ใช้ทางหลวงหมายเลข 3041 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข3341 จนถึงบ้านปากบางให้เลี้ยวเข้าทางเดียวกับวัดต้นตาล
โดยศูนย์จะอยู่ใกล้กับวัด
อำเภอบ้านหมอ
ถนนพระเจ้าทรงธรรม
หรือ ถนนฝรั่งส่องกล้อง เป็นถนนที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าทรงธรรมเมื่อครั้งเสด็จตรวจรอยพระพุทธบาท
ทางเรือพระที่นั่งตามลำน้ำป่าสัก พอเสด็จมาถึงบริเวณท่าเรือ
จึงได้เสด็จทรงช้างพระที่นั่ง โดยมีพรานบุญเป็นผู้นำทางและเมื่อเสด็จกลับ
ได้ให้ฝรั่งส่องกล้อง แล้วให้ตัดทางกว้าง 10 วา ตรงตลอดถึงท่าเรือ
ให้แผ้วถางให้เรียบร้อยแล้วใช้เป็นถนนหลวง
ในปัจจุบันถนนเส้นนี้เหลือร่องรอยให้เห็นอยู่ประมาณ
9 กิโลเมตร โดยเริ่มจากบริเวณเยื้องวัดสร่างโศก ช่วงกิโลเมตรแรกเป็นถนนดินที่ไม่ได้ใช้เป็นถนนอีกต่อไป
ถัดจากนี้เป็นถนนลูกรังผ่านหลังวัดปัญจาภิรมย์ วัดหนองคณฑี
ไปตัดกับถนนพระพุทธบาท-บ้านหมอ บริเวณหน้าวัดกัลยาบรรพต ผ่านหน้าศาลเจ้าพ่อเขาตก
และพระตำหนักสระยอหายไปเป็นถนนลูกรังและคอนกรีต ความกว้างของถนนเหลือ
6-8 เมตร |