(พักแคชเมียร์
2 คืน, คาร์กิล 1 คืน, เลห์ 3 คืน, นูบร้าวัลเล่ย์ 1 คืน, ทะเลสาบพันกอง
1 คืนและอัครา 1 คืน) |
ทัวร์ไม่ลงร้าน
เที่ยวครบทั้งแคชเมียร์และเลห์ ลาดัก
ชมวิวทิวทัศน์สวยๆของภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้าและลำธารระหว่างเส้นทางจากแคชเมียร์ไปเลห์ ลาดัก
เที่ยวนูบร้าวัลเลย์และทะเลสาบพันกอง
เดินทางสะดวกสบายโดยสายการบินไทย
โรงแรมที่พักดี - อาหารดี / ไม่ลงร้านช้อป มีเวลาเที่ยวเต็มที่ |
คลิ๊ก รายละเอียดโปรแกรม |
โปรแกรมทัวร์ Word |
ล่องเรือทะเลสาบดาล |
สวนนิชาท แคชเมียร์ |
ทุ่งหญ้าแห่งกุลมาร์ค |
โซนามาร์ค แคชเมียร์ |
เส้นทางสู่เมืองคาร์กิล |
บรรยากาศเมืองคาร์กิล |
วัดมาลายูรู เลห์ลาดัก |
วัดเฮมิส เมืองลาดักห์ |
วัดธิคเซย์ เมืองเลห์ ลาดัก |
เที่ยววัดธิคเซย์ เลห์ ลาดัก |
วัดเฮมิส เมืองลาดักห์ |
พระราชวังเลห์ เมืองเลห์ |
จุดชมวิวถนนที่สูงที่สุดในโลก |
กงล้อมนตรา เลห์ ลาดัก |
รูปทัชมาฮาล |
ทัชมาฮาล อินเดีย |
ทัชมาฮาล อนุสรณ์ความรัก |
อัคราฟอร์ท |
|
โปรแกรมการเดินทาง |
ออกเดินทางวันที่ 21 - 31 กรกฏาคม 2566 (ราคาท่านละ
69,995.-บาท) |
วันแรก
: สนามบินสุวรรณภูมิ - เดลี ศรีนาคา สวนโมกุล |
05.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ
07.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเดลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG ใช้เวลาบินประมาณ 4.30 ชั่วโมง
10.35 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองเดลี (เวลาอินเดียช้ากว่าไทยประมาณชั่วโมงครึ่ง) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ รอต่อเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองศรีนาคา (ทานอาหารตามอิสระภายในสนามบิน)
13.50 น. ออกเดินทางสู่ ศรีนาคา
(Srinagar) โดยสายการบิน Go Air
15.15 น. ถึง สนามบินศรีนาคา
เมืองศรีนาคา เมืองหลวงฤดูร้อนแห่งแคว้นจัมมู-แคชเมียร์
ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาแคชเมียร์ ที่ระดับความสูง 1,730 เมตร
ได้เชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสาบ สายน้ำ สวนดอกไม้และงานศิลปะ
ด้วยความงดงามของหุบเขาแคชเมียร์นี้เอง ในศตวรรษที่ 17 จักรพรรดิซาฮังคีร์และพระนางนูรชาฮาน
(พระบิดาและพระมารดาของพระเจ้าซาร์จาฮานผู้สร้างทัชมาฮาล)
ได้เสร็จมาจากเมืองอัครา เพื่อมาเที่ยวดินแดนในแถบนี้และทรงโปรดปรานทิวทัศน์แห่งหุบเขาแคชเมียร์มาก
จนมีพระบัญชาให้สร้างสวนดอกไม้และบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งเพื่อเป็นที่พักผ่อน
ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับวิวสวยๆ ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งรถ TEMPO TRAVELLER เดินทางสู่ เมืองศรีนาคา
นำท่านเดินทางไปชม สวนโมกุล ที่ตั้งอยู่รอบทะเลสาบดาล ชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) เป็นสวนดอกไม้ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุล ก่อสร้างโดยจักรพรรดิ JEHANGIR เพื่อภรรยา Nur Jehan และเมืองศรีนาคา แคชเมียร์ เป็นที่มีชื่อเสียงในการจัดสวนตามแบบสมัยของราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้เมืองหนาว จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต ชมต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ดอกทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 1) พักผ่อนกันตามอัธยาศัย (พัก SOLAR RESIDENCY HOTEL หรือระดับ 4 ดาว) |
วันที่สอง
: ศรีนาคา
กุลมาร์ค - เคเบิลคาร์
- สวนนิชาท ล่องเรือสิคารา |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 2) หลังอาหารออกเดินทางสู่
กุลมาร์ค (Gulmarg) ระยะทาง
56 กิโลเมตร ชม ทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้
(Meadow of Flower) ป่าสนและวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก
สำหรับในช่วงฤดูหนาวที่นี่เป็นสถานที่เล่นสกีในฤดูหนาว นอกจากนี้กุลมาร์คยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง
ตลอดเส้นทางสู่กุลมาร์คจะผ่านหมู่บ้านชาวพื้นเมืองและเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนสวยงาม
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 3) หลังอาหารนำท่านขึ้น
เคเบิลคาร์ เฟส 1 (กระเช้าลอยฟ้าหรือกอนโดลา)
ไปจนถึง ยอดเขากุลมาร์ค ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขากุลมาร์ค
ท่านจะพบเห็นหมู่บ้านยิปซี ซึ่งจะอพยพไปอยู่ที่เมืองจัมมูในช่วงฤดูหนาว
และจะกลับมาอยู่อาศัยในช่วงฤดูร้อน เมื่อถึงบนยอดเขากุลมาร์ค
ให้ท่านถ่ายรูปกับทิวทัศน์ภูเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยที่ปกคลุมด้วยหิมะสวยงามในทุกทิศทาง
(ท่านสามารถเล่นสกีหรือเล่นลากเลื่อนหิมะได้ระหว่างช่วงฤดูใบไม้ผลิ
มี.ค. เม.ย. ค่าเล่นสกีและลากเลื่อนหิมะ ไม่รวมในค่าทัวร์)
จากนั้นนำท่านชม สวนนิชาท (สวนแห่งความสุข)
มีวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบที่งดงาม จากนั้นนำท่าน ล่องเรือสิคารา
(เรือพายแบบแคชเมียร์) ในทะเลสาบดาล ชมทัศนียภาพของเทือกเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบดาล
ชมสวนผักลอยน้ำ วิถีชีวิตชาวบ้านที่น่ารักริมน้ำ ภูเขาหิมะที่สวยงามล้อมรอบทะเลสาบ
19.00 น.
บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 4) หลังอาหารพักผ่อน (พัก SOLAR RESIDENCY HOTEL หรือระดับ 4 ดาว) |
วันที่สาม
: ศรีนาคา - โซนามาร์ค คาร์กิล เส้นทางถนนโรแมนติก |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 5) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่
โซนามาร์ค แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามของกราเซียร์น้ำแข็ง เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยตลอดเส้นทาง
ระหว่างทางผ่านชมป่าวอลนัตใหญ่ที่ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทางและภูเขาหิมะที่มีรูปทางแปลกตา
จัดเป็นเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดเส้นหนึ่งของแคชเมียร์
ให้ท่านถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่
6) หลังอาหารนำท่านชมความงามของ โซนามาร์ค ให้ท่านได้ถ่ายรูปของวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคาร์กิล
เมืองที่อยู่ระหว่างทางจากแคชเมียร์ - เลห์ ลาดัก เป็นเส้นทางถนนสายโรแมนติก
เส้นทางลัดเลาะตามหุบเขา ลำธาร ป่าสนเมืองหนาว ถึง เมืองคาร์กิล
ให้ท่านได้เดินเล่นชมบรรยากาศยามเย็น ย่านตลาดสินค้าพื้นเมือง
กันตามอัธยาศัย
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม
(มื้อที่ 7) หลังอาหารพักผ่อน (พัก ZOJILA RESIDENCY HOTEL หรือระดับเดียวกัน)
|
วันที่สี่
: คาร์กิล เลห์ ลาดัก - วัดลามายูรู - ช้อปปิ้งถนนเมนบาซาร์ |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 8) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่
เลห์ ลาดัก เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงามตลอดเส้นทาง
ตลอดสองข้างทางและภูเขาหิมะที่มีรูปทางแปลกตาตลอดสองข้างทาง
จัดเป็นเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุด ให้ท่านถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่
9) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม วัดลามายูรู
(Lamayuru Gomba) เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายหมวกแดง
ตั้งอยู่บนหุบเขาสูงระดับความสูง 3,390 เมตร จากที่วัดสามารถมองเห็นหุบเขาและหมู่บ้านลามายูรูได้อย่างชัดเจน
วัดลามายูรู มีอีกชื่อหนึ่งว่า ยุงตรุง ทาปาลิง กอมปา (Yungdrung
Tharpaling Gompa) ตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งพระอรหันต์นิมากุง
จาริกผ่านมาถึงที่นี่เมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งบริเวณนี้ยังเป็นทะเลสาบอยู่
ท่านพระอรหันต์นิมากุงได้ทำนายว่าจะมีวัด ณ สถานที่นี้ ท่านจึงได้ตั้งเสาธงมนตราไว้พร้อมกับแผ่กุศลทานด้วยการโปรยเมล็ดข้าวโพดแด่ดวงวิญญาณของนาคที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบ
ต่อมาเมล็ดข้าวโพดกลับงอกงามขึ้นเป็นรูปเครื่องหมายสวัสติกะ
จากนั้นออกเดินทางกันต่อ ถึง เมืองเลห์
ลาดัก นำท่านเที่ยวชมบรรยากาศยามเย็นของเมืองเลห์ และช็อปปิ้งที่
ถนนเมนบาซาร์ กันตามสบาย
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่
10) หลังอาหารพักผ่อน (พักที่ ROYAL PALACE HOTEL
หรือระดับเดียวกัน)
|
วันที่ห้า
: เลห์ ลาดัก - ถนนที่สูงที่สุดในโลก นูบร้าวัลเลย์ ขี่อูฐ
|
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 11) หลังอาหารออกเดินทางสู่
หุบเขานูบร้าวัลเลย์ ระหว่างทางสัมผัสความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาคาราโครัมและเทือกเขาหิมาลัยที่โอบล้อมเมืองลาดัก
ชม เส้นทางรถยนต์ที่สูงที่สุดในโลก
Khardung La Pass สูง 5,602 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นเทือกเขาคาราโครัมในประเทศปากีสถานได้
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารระหว่างทาง
(มื้อที่ 12) หลังอาหารนำท่านเดินทางไปยัง หุบเขานูบราวัลเลย์หรือหุบเขาแห่งดอกไม้
ทางเหนือของเมืองเลย์ ชมดอกไม้นานาพันธุ์ เช่นดอกแอปเปิ้ล
สวนแอปริคอต และนกนานาชนิด เส้นทางนี้เป็นเส้นทางลัดเลาะหุบเขา
จากนั้นนำท่านสนุกสนานกับการ ขี่อูฐ
ที่ทะเลทรายบนเทือกเขาหิมาลัย นูบร้าวัลเล่ย์ อยู่ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณสองพันกว่าเมตร
(รวมค่าขี่อูฐแล้ว)
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 13)
หลังอาหารพักผ่อน (พักโรงแรม KARMA
IN HOTEL หรือระดับเดียวกัน) |
วันที่หก
: หุบเขานูบร้า วัดดิสกิต - เลห์ - วัดธิคเซย์ |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 14) หลังอาหารนำท่านชม
วัดดิสกิต ตั้งอยู่บนเนินเขาเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม
วัดดิสกิตเป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในหุบเขานูบร้า ภายในประดิษฐานพระศรีอาริยเมตไตรยขนาดใหญ่
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารระหว่างทาง
(มื้อที่ 15) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม วัดธิคเซย์
Thiksey Monastery วัดลามะนิกายหมวกเหลือง หรือ นิกายเกลุกปะ
(Gelukpa) ซึ่งดาไลลามะองค์ปัจจุบันได้นับถือนิกายนี้เช่นกัน
วัดธิคเซย์ (โปตาลาน้อยแห่งลาดักห์) ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเลห์ไปทางทิศใต้ประมาณ
17 กิโลเมตร สถาปนาครั้งแรกในช่วงต้นศตวรรษที่ 14 โดยท่าน
เซรัป ซังโป (Sherab Zangpo) ต่อมาในปี ค.ศ. 1430 ท่าน ปัลเลน
เซรัป (Pandal Sherab) หลานของท่านเซรัป ซังโป จึงได้ทำการก่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นใหม่
ฝั่งเหนือของแม่น้ำสินธุ เป็นพระอารามใหญ่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขากลางทุ่งราบ
ฉาบด้วยสีแดงและขาวเรียงรายลดหลั่นตามเนินเขานับร้อยหลัง มีกุฏิรายล้อมอยู่รอบอารามหลักสูง
12 ชั้น รูปทรงของวัดมีความคล้ายคลึงกับ พระราชวังโปตาลา (Potala
Palace) จนได้รับฉายาว่า Mini Potala
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 16) หลังอาหารพักผ่อน (พักที่ ROYAL PALACE HOTEL
หรือระดับเดียวกัน) |
วันที่เจ็ด
: เมืองเลห์ - Chang
La Pass - ทะเลสาบพันกอง |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่แค้มป์ (มื้อที่ 17) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่
ทะเลสาบพันกอง Pangong Tso เป็นทะเลสาบที่สูงที่สุดในโลก
4,268 เมตร อยู่ติดกับชายแดนด้านทิศเหนือ เส้นทางที่จะไปทะเลสาบจะต้องผ่านช่องเขา
Chang La Pass เส้นทางรถยนต์ซึ่งอยู่สูงเป็นอันดับ
3 ของโลก ตลอดเส้นทางมีวิวที่สวยงาม
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารระหว่างทาง
(มื้อที่ 18) หลังอาหารชม ทะเลสาบพันกอง
นำท่านเข้าที่พักแบบแคมป์บริเวณทะเลสาบ อิสระให้ท่านพักผ่อน
ถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์สวยๆและน้ำทะเลสาบสีฟ้าของทะเลสาบพันกอง
ซึ่งมีความยาวถึง 40 ไมล์ และกว้าง 2 4 ไมล์ เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงสุดในโลกคือมีความสูงถึง
14,256 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ชมความงามของทะเลสาบที่มีภูเขาสูงเป็นฉากหลัง
น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีสีสันที่งดงามมาก โดยเฉพาะในช่วงเย็นน้ำจะมีสีน้ำเงินเข้ม
ส่วนในช่วงเช้าจะมีสีที่อ่อนกว่า
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่รีสอร์ท (มื้อที่ 19)
หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย (พัก VISTA RESORT ทะเลสาบพันกองหรือระดับเดียวกัน) |
วันที่แปด
: ทะเลสาบพันกอง - วัดเฮมิส - พระราชวังเลห์
เจดีย์สันติภาพ |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 20) หลังอาหารนำท่านชมบรรยากาศยามเช้า
จากนั้นเดินทางกลับ เมืองเลห์ แวะถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ระหว่าทาง
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่
21) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม วัดเฮมิส
(Hemis Gompa) วัดลามะนิกายหมวกแดง หรือ นิกายนิงห์มาปา
ซึ่งเป็นนิกายดั้งเดิมของศาสนาพุทธสายทิเบต ท่านปัทมสัมภวะ
(Padmasambhava) หรือที่ชาวทิเบตเรียกว่า คุรุริมโปเช (Kuru
Rinpoche) ซึ่งเป็นภิกษุรูปแรกที่เดินทางจากอินเดีย เมื่อปี
พ.ศ. 1350 ที่ได้นำศาสนาพุทธเข้ามาเผยแพร่ในทิเบตและเป็นผู้ให้กำเนิดนิกายหมวกแดง
ซึ่งได้รับการยอมรับนับถือจากชาวทิเบตอย่างกว้างขวาง วัดเฮมิส
ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเลห์ประมาณ 45 กิโลเมตร เลาะเลียบแม่น้ำสินธุลงไปทางใต้
เป็นวัดโบราณที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในดาลักห์ ถูกสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่
17 โดยพระเจ้าเซงกี โดยกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลาดักห์
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ศาสนาพุทธในอินเดียล่ม จากนั้นนำท่านชม
พระราชวังเลห์ Leh Palace ซึ่งเป็นพระราชวังเก่าที่ตั้งโดดเด่นบนเขาเตี้ยๆ
ด้านทิศเหนือของเมืองเลห์ สร้างด้วยรูปแบบทิเบต ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์
นำท่านชมบรรยากาศของเมืองเลห์จากมุมสูงกันที่ เจดีย์สันติภาพ
Shanti Stupa เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยองค์กรพุทธศาสนิกชนญี่ปุ่น
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 22)
หลังอาหารพักผ่อน (พักที่ ROYAL PALACE HOTEL
หรือระดับเดียวกัน)
|
วันที่เก้า : เลห์ ลาดัก - เดลี อัครา |
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 23) หลังอาหารออกเดินทางสู่ สนามบินเมืองเลห์
10.30 น. เหิรฟ้าสู่ เมืองเดลี โดยสายการบิน Go Air
12.00 น. ถึง สนามบินเดลี บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 24) หลังอาหารออกเดินทางสู่ เมืองอัครา เมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของประเทศอินเดีย เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของอินเดียสมัยราชวงศ์โมกุลและเป็นสถานที่ตั้งของทัชมาฮาล ชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตของชาวอินเดียระหว่างเส้นทาง
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 25) หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย (พักที่ Crystal Sarovar Premiere
หรือระดับ 5 ดาว) |
วันที่สิบ : ทัชมาฮาล พระราชวังอัคราฟอร์ด เดลี |
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 26) หลังอาหารนำท่านชม ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ริมน้ำยมุนา สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวและหินทรายสีแดง ประดับประดาด้วยรัตนชาติหลากหลายชนิด ใช้เวลาในการสร้างถึง 22 ปี เพื่อแสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ซาจาร์ฮาล ต่อพระมเหสี มุมตัสมาฮาล ที่สวรรคตเนื่องจากการให้กำเนิดบุตรคนที่ 14 ภายในทัชมาฮาล เป็นที่บรรจุร่างของพระนางมุมตัสและกษัตริย์ซาจาร์ฮาลที่สวยงามโดดเด่น (ทัชมาฮาล ปิดทุกวันศุกร์)
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม (มื้อที่ 27) หลังอาหารนำท่านชม อัคราฟอร์ท พระราชวังที่ยิ่งใหญ่สร้างขึ้นโดยใช้เวลาที่ยาวนานถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล มีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้นและป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ อาคารหินทรายสีแดงสร้างโดยกษัตริย์อัคบาร์ ที่นี่ยังเป็นที่คุมขังกษัตริย์ซาจาร์ฮาล โดยบุตรชายของพระองค์เอง พระองค์ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยการมองผ่านแม่น้ำยุมนาไปยังทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์ นำท่านช้อปปิ้งของฝากจากเมืองอัครา สมควรแก่เวลานำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเดลลี
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 28) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ สนามบินเดลี
23.30 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG |
วันที่สิบเอ็ด : สามบินสุวรรณภูมิ |
05.25 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |