(พักอิชเมียร์
1 คืน ปามุคคาเล่ 1 คืน คอนย่า คืน คัปปาโดเกีย 1 คืน และกรุงอิสตันบูล
2 คืน ระดับ 5 ดาว) |
โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์
ขอเสนอโปรแกรมนำเที่ยวประเทศตุรกี
สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่ประเทศสองทวีป คือทั้งทวีปเอเชียและยุโรป
ดินแดนแห่งอาณาจักรออตโตมันอันยิ่งใหญ่ มหานครโบราณกรุงคอนสแตนติโนเปิล
ชมสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีปรากฏอยู่ให้เห็นทั่วทุกหนแห่ง
โดยทีมงานมัคคุเทศก์ที่ชำนาญงาน ที่พักระดับมาตรฐานและบริการอาหารในภัตตาคารเลิศรส |
หมายเหตุ
: สำหรับเพื่อนๆจองทริปทัวร์
ทางเราจะแจ้งเบอร์ไกด์ จุดนัดหมายและการเตรียมตัวเดินทาง ก่อนเดินทาง
5 วันครับ |
ข้อมูลการเตรียมตัวก่อนเดินทาง
|
|
เวลา : เวลาตุรกีช้ากว่าไทย
4 -5 ชั่วโมง คือฤดูร้อน ช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง ส่วนฤดูหนาวช้ากว่าไทย
5 ชั่วโมง |
ภาษา : ภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่น |
ไฟฟ้า :
220 โวลต์ สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์มือถือ หรือกล้องถ่ายรูปได้ตามปกติ |
ระบบเงินตรา
: สกุลเงินตุรกี คือ ลีร่าตุรกี มีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ
1 ดอลล่า / 1.9 ลีร่า (ไปแลกที่สนามบินตุรกีได้ครับ)
การใช้จ่ายในตุรกี สามารถใช้ได้ทั้งเงินลีร่าเงินดอลล่าร์
และเงิน ยูโร ครับ |
น้ำหนักกระเป๋า
: น้ำหนักสัมภาระคนละ
20 กิโลกรัม |
|
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวตุรกี
ประเทศตุรกีมี 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนเมษายน
เดือนพฤษภาคม) ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน)
ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนตุลาคม- เดือนพฤศจิกายน) และ ฤดูหนาว
(เดือนธันวาคม เดือนมีนาคม) |
|
โปรแกรมการเดินทาง
(บินตรงอิสตันบูล....มีบินภายใน 2 ไฟลท์) |
ทริปเดินทาง : วันที่
26 ธันวาคม - 2 มกราคม, 27 ธันวาคม - 3 มกราคม 2560
(ท่านละ 39,900.-บาท เปิดจองแล้ว)
|
ทริปเดินทาง : วันที่
28 ธันวาคม - 4 มกราคม, 29 ธันวาคม - 5 มกราคม 2560
(ท่านละ 39,900.-บาท เปิดจองแล้ว)
|
ทริปเดินทาง : วันที่
31 ธันวาคม - 7 มกราคม 2560 (ท่านละ
39,900.-บาท เปิดจองแล้ว)
|
วันแรก
: สนามบินสุวรรณภูมิ - อิสตันบูล - เมืองอิซเมียร์ |
08.00
น. |
พบกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ
ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ U สายการบินเตอร์กิช
แอร์ไลน์ (TK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ ให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง |
10.55
น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล
โดยสายการบิน Turkish Airlines
เที่ยวบินที่ TK65 (บินตรง) |
17.10
น. |
เดินทางถึง สนามบินกรุงอิสตันบูล
ประเทศตุรกี
(เวลาตุรกีช้ากว่าไทย 4 -5 ชั่วโมง คือฤดูร้อน ช้ากว่าไทย
4 ชั่วโมง ส่วนฤดูหนาวช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง) นครอิสตันบูลเป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดและเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในตุรกี
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus เดิมชื่อว่า
คอนสแตนติโนเปิล ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์
เป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
เช่น ไบแซนเทียม คอนสแตนติโนเปิ้ล เป็นต้น หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากรแล้ว
รอต่อเครื่องภายในประเทศเพื่อเดินทางต่อไป เมืองอิซเมียร์
|
21.35
น. |
ออกเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์
โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK 2342 |
22.50
น. |
ถึง สนามบินเมืองอิซเมียร์
นำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย (พักโรงแรม
Hilton Hotel ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า)
|
วันที่สอง
: เมืองอิซเมียร์ - เมืองเอเฟซุส - บ้านพระแม่มารี - เมืองปามุคคาเล่ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส
City of Ephesus อดีตเป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน
ชมอาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของนครเอฟฟิซุสคือ ห้องสมุดของเซลซุส
Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน
Temple of Hadrian สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน
ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก จากนั้นชมสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส
คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง
สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น
สร้างสมัยกรีกโบราณ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี
House of Virgin Mary ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้
ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมัน ชื่อ แอนนา
แคเธอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich ในปี ค.ศ. 1774-1824
ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว
ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่งพระสันตะปาปาโป๊ปเบเนดิกส์ที่
16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่ บริเวณด้านนอกของบ้านมีก๊อกน้ำสามก๊อกที่เชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์
แทนความเชื่อในเรื่อง สุขภาพ ความร่ำรวย และความรัก จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง
ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง
ซึ่งตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี
เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย
สมควรแก่เวลานำท่านออกเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่
Pamukkale คำว่า ปามุคคาเล่ ในภาษาตุรกี หมายถึง
ปราสาทปุยฝ้าย Pamuk หมายถึง ปุยฝ้าย และ Kale หมายถึง ปราสาท
เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ
35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซี่ยมออกไซด์)
ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา คาลดากึ ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ
รินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว
เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ
อันสวยงามแปลกตาและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน
จนทำให้ ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี
ค.ศ. 1988 |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำแบบบุเฟต์
ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พักโรงแรม
Pam Thermal Hotel ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า) |
วันที่สาม
: เมืองปามุคคาเล่ - ปราสาทปุยฝ้าย - เมืองคอนย่า |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (ปามุคคาล่)
เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน นำท่านชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ
เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ
เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน
ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ
33-33.5 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ
โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต
ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า
Konya ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูค ในช่วงปี
ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย
ท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของภูมิภาคตอนกลางของประเทศตุรกี
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า Mevlana
Museum หรือสำนักลมวน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231
โดยเมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม
หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม
พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า เดิมเป็นสถานที่ที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ
Whirling Dervishes โดยการหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟลาน่า
เจลาเลดดิน ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในตกแต่งประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม
และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดาและบุตรของเมฟลาน่า |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำแบบบุเฟต์ที่ภัตตาคารในโรงแรม
หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พักโรงแรม Rixos Hotel หรือระดับ
5 ดาว) |
วันที่สี่
: เมืองคอนย่า - เมืองคัปปาโดเกีย - นครใต้ดิน - ระบำหน้าท้อง |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย
Cappadocia (ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง
2.30 ชั่วโมง) ซึ่งองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก
เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามมากระหว่างทางแวะชม
คาราวานสไลน์ Caravanserai ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน
จากนั้นนำท่านชม นครใต้ดินไคมัคลี Underground
City of Derinkuyu or Kaymakli เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป
10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูนครใต้ดินไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง
85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง
ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน
ฯลฯ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่
Goreme Open Air Museum ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง
ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์
และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
ชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา St. Barbar Church โบสถ์มังกร Snake
Church และ โบสถ์แอปเปิ้ล Apple Church ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง
ๆ ได้ตามอัธยาศัย นำท่านชม เมืองคัปปาโดเกีย
Cappadocia ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก
เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่าง ๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย
Cappadocia เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้)
แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส
และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา
จากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อย
ๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง
ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง
ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า
ปล่องไฟนางฟ้า ในปี ค.ศ. 1985 ยูเนสโก้ได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี
พิเศษ!! เข้าชมบ้านพักของมนุษย์ถ้ำพื้นเมือง
Local Cave House ของชาวพื้นเมือง Cappadocia พร้อมดื่มชา
กาแฟ เนื่องจากธรรมเนียมของชาวเมืองตุรกี เมื่อมีผู้มาเยี่ยมเยียนก็จะมอบชา
กาแฟ เป็น Welcome Drink เพื่อแสดงถึงน้ำใจและมิตรภาพระหว่างเพื่อนใหม่
จากนั้นอิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพบ้านพื้นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ
จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานทอพรม
และ โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย |
ค่ำ |
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคารในโรงแรมแบบบุฟเฟต์
นำท่านชม โชว์ระบำหน้าท้อง
ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี (พักโรงแรม Perissia Hotel
หรือระดับ 5 ดาว) |
วันที่ห้า
: เมืองคัปปาโดเกีย - เมืองไคเซอร์รี่ - สกี รีสอร์ท - อิสตันบูล |
05.00
น. |
สำหรับท่านที่สนใจนั่งบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเจีย
จะมีเจ้าหน้าที่ของบอลลูนมารับท่านที่บริเวณ ล๊อบบี้ (ทัวร์นั่งบอลลูนี้
ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 210 ดอลล่า
ท่านจะได้รับประกาศนียบัตรนั่งบอลลูนที่มีชื่อเสียงระดับโลก
แจ้งกับไกด์ในวันเดินทางครับ) |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารอิสระพักผ่อน ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมต่าง
ๆ ได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนส สปาร์ หรือจะเดินเล่นสำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองรอบ
ๆ บริเวณโรงแรมก็ได้ตามอัธยาศัย จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองไคเซอร์รี่
(ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
มุ่งหน้าสู่ยอดเขา Erciyes เป็นแหล่ง สกี รีสอร์ท ที่หมู่วัยรุ่นตลอดจนผู้ที่ชอบเล่นสกี
ต่างนิยมมาเล่นสกีกันในฤดูหนาวที่ยอดเขาแห่งนี้ นำท่านขึ้นกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อรับประทานอาหารกลางวันบนยอดเขา |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารบนยอดเขา
Lifos Restaurant หลังอาหารให้ท่านได้อิสระเล่นสกี
หรือจะเลือกถ่ายภาพกับหิมะที่ปกคลุมยอดเขาสุดลูกหูลูกตา ชั่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่บอกก็มิอาจเชื่อว่านี่คือแหล่งสกีของประเทศตุรกี นับเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่บางท่านอาจจะคาดไม่ถึงว่าประเทศตุรกีก็มีแหล่งท่องเที่ยวสกี
ที่สวยงามเช่นนี้มาก่อน
|
เย็น |
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคารนำท่านเดินทางสู่
สนามบินเมืองเนฟเชียร์ เพื่อเดินทางสู่
กรุงอิสตันบูล
|
20.20
น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล
โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK 2015 |
22.05
น. |
เดินทางถึง สนามบินกรุงอิสตันบูล
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก (พักโรงแรม Ramada Plaza Tesktilkent
หรือระดับ 5 ดาว)
|
วันที่หก
: อิสตันบูล - ฮิปโปโดรม สุเหร่าสีฟ้า - โบสถ์เซนต์โซเฟีย
- พระราชวังทอปกาปึ - แกรนด์บาซาร์ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านชม ฮิปโปโดรม Hippodrome
หรือ สนามแข่งม้าโบราณ มีเสาโอเบลิสค์ซึ่งเหลือแค่ส่วนปลายที่ยาว
20 เมตร แต่กระนั้นก็ยังสวยงามน่าดูมาก เพราะทั้งเสามีงานแกะสลักอันมีความหมายและมีค่ายิ่ง
จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue
Mosque ที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินเป็นเพราะเขาใช้กระเบื้องสีน้ำเงินในการตกแต่งภายใน
ซึ่งทำเป็นลายดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น ทิวลิป
เอกลักษณ์เด่นอีกอย่างแต่อยู่ภายนอกคือ หอประกาศเชิญชวนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำพิธีละหมาด
Minaret 6 หอ เท่ากับสุเหร่าที่นครเมกกะ จากนั้นนำท่านเดินต่อไปชมสถานที่ซึ่งเป็น
1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สุเหร่าเซนต์โซเฟีย
Mosque of Hagia Sophia ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม
ในอดีตโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ ภายในมีเสางามค้ำที่สลักอย่างวิจิตร
และประดับไว้งดงาม 108 ต้น ส่ง ท่านสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน
Yerebatan Sarnici สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิจัสตินเนียน
ในปี ค.ศ. 532 เพื่อเป็นที่เก็บน้ำสำหรับใช้ในพระราชวัง สำรองไว้ใช้ยามที่กรุงอิสตันบูลถูกข้าศึกปิดล้อมเมือง
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านชม พระราชวังทอปกาปิ
Topkapi Palace สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2
และเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1924 พิพิธภัณฑ์พระราชวังทอปกาปิ
ซึ่งห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจคือห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติ
และวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปิ ด้ามประดับมรกตใหญ่
3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต เป็นไฮไลท์สำคัญเรียกความสนใจของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
จากนั้นนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง แกรนด์บาซาร์
Grand Bazaar แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ของเมืองประกอบไปด้วยร้านค้ากว่า
4,000 ร้าน มีสินค้าให้เลือกหลากหลายหมวดหมู่ คล้ายตลาด นัดจตุจักรบ้านเรา
แต่ความน่าสนใจของที่นี่คงจะเป็นความแปลกตาของสินค้าที่ไม่ค่อยคุ้นตานัก
ทั้ง งานเสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ และของฝาก ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นสินค้าที่ค่อนข้างขึ้นชื่อของที่นี่นั่น
ก็คือ พรมพื้นเมือง ที่เรียกว่า พรมคิลิม Kilim ที่ถักทอด้วยขนสัตว์หรือเส้นไหม
โดยเน้นลวดลายแบบเรขาคณิตเป็นหลัก พรมแต่ละผืนนั้นจะใช้เวลาในการทอที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลวดลายและ
ขนาด แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปีต่อผืน |
เย็น |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย (พักโรงแรม Ramada Plaza Tekstilkent
หรือระดับ 5 ดาว) |
วันที่เจ็ด
: ล่องเรือบอสฟอรัส - พระราชวังโดลมาบาชเช่ - ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านการ ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส
Cruise Along the Bosphorus ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก
ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง
ทะเลดำ The Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara
มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ
ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็น จุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย
เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ จากนั้นนำท่านเข้าชม
พระราชวังโดลมาบาชเช่ Dolmabahce Palace
พระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน
ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย
สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น
12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร
ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน
ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม
ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอก รายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ก
ๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่าง ๆ ตกแต่งด้วยโคมระย้า
บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน และ โคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านช้อปปิ้ง ย่านช้อปปิ้ง
ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ
ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ
ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง
แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ฯลฯ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่
สนามบินกรุงอิสตันบูล เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่
กรุงเทพมหานคร |
20.40
น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร
โดย สายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK 64 |
วันที่แปด
: สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ |
09.45
น. |
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยสวัสดิภาพ |