|
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา |
ข้อมูลท่องเที่ยว
อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา |
วัดโสธรวรารามวรวิหาร
อยู่ในเขตเทศบาลเมือง ริมแม่น้ำบางปะกง เดิมชื่อว่า วัดหงส์
สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธโสธร
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวเมืองเคารพนับถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์
เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง
1.48 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง ตามประวัติเล่าว่า เป็นพระพุทธรูปปาฏิหาริย์ลอยทวนน้ำมา
และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ แต่เดิมเป็นพระพุทธรูปหล่อทองสัมฤทธิ์ปางสมาธิหน้าตักกว้างศอกเศษ
รูปทรงสวยงามมาก แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงว่าจะมีผู้มาลักพาไปจึงได้เอาปูนพอกเสริมหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะดังที่เห็นในปัจจุบัน
ทุกวันนี้จะมีผู้คนมานมัสการปิดทองหลวงพ่อโสธรกันเป็นจำนวนมาก
อนุสาวรีย์พระยาศรีสุนทรโวหาร
(น้อย อาจารยางกูร) ตั้งอยู่ถนนศรีโสธร ตรงข้ามค่ายทหารศรีโสธร
พระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย อาจารยางกูร)เป็นชาวแปดริ้ว เป็นนักปราชญ์ภาษาไทยคู่พระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ท่านแต่งแบบเรียนภาษาไทยหลายชุด นับเป็นแบบเรียนภาษาไทยที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับเยาวชนไทยในยุคนั้น
ป้อมเมืองฉะเชิงเทรา
อยู่ที่ถนนมรุพงษ์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อป้องกันข้าศึกศัตรูมารุกราน
ในสมัยรัชกาลที่ 5 ใช้เป็นที่ตั้งมั่นกองทัพในการปราบกบฎอั้งยี่
ซึ่งเป็นพ่อค้าฝิ่นเถื่อนชาวจีนที่ก่อความวุ่นวายปล้นสะดมชาวเมือง
บริเวณหน้าป้อมจัดเป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ชมทิวทัศน์แม่น้ำบางปะกง
มีปืนใหญ่ตั้งอยู่ตามกำแพงเมือง
ศาลหลักเมือง
เป็นศาลที่สร้างขึ้นใหม่ตั้งอยู่ถนนหน้าเมือง เป็นอาคารสถาปัตยกรรมไทยหลังคาทรงจตุรมุข
ส่วนบนเป็นยอดปรางค์ ภายในศาลมีเสาหลักเมือง 2 เสา เสาหนึ่งเป็นเสาหลักเมืองเก่าสร้างเมื่อพ.ศ.2377
อีกเสาหนึ่งเป็นเสาหลักเมืองปัจจุบันสร้างเมื่อ พ.ศ.2438 นอกจากนั้นยังมีศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอยู่ในบริเวณเดียวกัน
เปิดให้เข้าชมเวลา 07.00 16.00 น.
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฉะเชิงเทรา
ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัด บนเนื้อที่ประมาณ 90 ไร่ เป็นสวนสาธารณะที่มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางสวน
มีทางเดินโดยรอบสระและต้นไม้ขึ้นร่มรื่น เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
วัดเมือง
(วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์) อยู่ตำบลหน้าเมือง เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่
3 ในปี พ.ศ. 2377 พร้อมๆ กับการสร้างป้อมและกำแพงเมือง โดยช่างฝีมือจากเมืองหลวง
มีรูปแบบสถาปัตยกรรมใกล้เคียงกับพระปรางค์ วัดพระศรีรัตนศาสดารามที่กรุงเทพมหานคร
ต่างกันเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น วัดนี้เดิมเรียกว่า
วัดเมือง ต่อมาในปี พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จประพาสจังหวัดฉะเชิงเทราและได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า
วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ แปลว่าวัดที่ลุงของพระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง
วัดจีนประชาสโมสร
(วัดเล่งฮกยี่) ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ ตำบลบ้านใหม่ ห่างจากศาลากลางจังหวัด
1 กิโลเมตร เป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ขยายมาจากวัดเล่งเน่ยยี่ในกรุงเทพฯ
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2449 สิ่งที่น่าสนใจในวัดได้แก่
รูปปั้นขนาดใหญ่ของจตุโลกบาล และเทวรูปจีนอ้วยโห้ซึ่งแต่งกายชุดนักรบ
นอกจากนี้มีวิหารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น วิหารบูรพาจารย์ วิหารเจ้าแม่กวนอิม
วิหารว่องอ้วนตี่ วิหารตี่ซังอ๋อง และสระนทีสวรรค์ เป็นต้น
วัดอุภัยภาติการาม
(วัดซำปอกง) ตั้งอยู่บนถนนศุภกิจ ใกล้กับบริเวณตลาดบ้านใหม่
เดิมเป็นวัดจีนแต่ปัจจุบันแปรสภาพเป็นวัดญวนในลัทธิมหายาน
ภายในวัดมีวิหารลักษณะเหมือนศาลเจ้า เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต
(พระไตรรัตนนายก) หรือที่ชาวจีนเรียกว่า เจ้าพ่อซำปอกง ในประเทศไทยมีเพียง
3 องค์เท่านั้น ประดิษฐานอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร(ฝั่งธนบุรี)
จังหวัดกรุงเทพฯ วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและวัดอุภัยภาติการาม
จังหวัดฉะเชิงเทรา ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง
สิงคโปร์ และไต้หวัน มานมัสการอยู่เป็นประจำ
เจ้าแม่กวนอิมลอยน้ำ
(มูลนิธิสว่างศรัทธาธรรม) ประดิษฐานอยู่ที่สมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา
ถนนศุภกิจ เป็นรูปยืนองค์ลอย สูงประมาณ 1 เมตรเศษ หนัก 40
กิโลกรัม ทำจากเซรามิก เมื่อปี 2540 มีคนพบลอยน้ำมาติดฝั่งบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง
ชาวแปดริ้วจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ที่แห่งนี้ มีผู้ศรัทธาเลื่อมใสเดินทางไปสักการะเป็นประจำ
วัดพยัคฆอินทาราม
(วัดเจดีย์) ตั้งอยู่ตำบลบ้านใหม่ จากหลักฐานแผ่นเงินที่พบบริเวณรอยแตกตรงคอระฆังของเจดีย์องค์ใหญ่
ทราบว่าสร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยนายเสือหรือพระเกรียงไกรกระบวนยุทธ ปลัดเมืองฉะเชิงเทรากับภรรยาชื่ออินเมื่อปีพ.ศ.2416
ส่วนวัดนั้นสร้างเสร็จภายหลังในราวปีพ.ศ.2424 นับว่าเป็นวัดเก่าแก่
ทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด
ได้แก่ เจดีย์องค์ใหญ่ 1 องค์ เจดีย์องค์เล็ก 2 องค์ วิหารพระพุทธบาท
สุสานเก่า อุโบสถ และหอระฆัง
วัดสัมปทวน
เดิมชื่อวัด สามพระทวน ตั้งอยู่ถนนศุภกิจ เป็นวัดเก่าแก่
มีตำนานเกี่ยวกับหลวงพ่อพุทธโสธร สิ่งที่น่าชมคือ พระอุโบสถที่มีลายปูนปั้นอยู่ด้านบนระเบียงโบสถ์
แสดงภาพพระเวสสันดรชาดก อีกด้านหนึ่งเป็นภาพวิถีชีวิตชาวแปดริ้วในอดีต
การท่องเที่ยวทางเรือตามลำน้ำบางปะกง
ลำน้ำบางปะกงมีต้นกำเนิดจากทิวเขาสันกำแพงบนที่ราบสูงโคราช
ไหลผ่านจังหวัดปราจีนบุรี (เรียกว่าแม่น้ำปราจีนบุรี) ผ่านอำเภอบางน้ำเปรี้ยว
(เรียกว่าแม่น้ำแปดริ้ว) ผ่านอำเภอบางคล้า อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา
และออกสู่อ่าวไทยที่อำเภอบางปะกง ระยะทาง 230 กิโลเมตร การท่องเที่ยวทางเรือในลำน้ำบางปะกง
เริ่มจากตัวเมืองฉะเชิงเทราเพื่อชมธรรมชาติ สองฝั่งน้ำชมบ้านเรือน
ซึ่งยังคงสภาพความเป็นอยู่อย่างไทยผ่านสถานที่น่าสนใจ เช่น
อาคารตำหนักกรมขุนมรุพงษ์ศิริวัฒน์ ป้อมและกำแพงเมืองโบราณ
อาคารศาลากลางหลังเก่า กลุ่มเรือนแพสมัยเก่า วัดวาอาราม ทั้งวัดไทย
จีน ฝรั่ง เช่น วัดเมือง วัดสัมปทวน วัดแหลมใต้ วัดสายชล วัดเซ็นต์ปอล
ไปขึ้นฝั่งที่วัดโพธิ์บางคล้า เพื่อชมค้างคาวแม่ไก่ ระยะทางประมาณ
25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง สามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ท่าน้ำวัดโสธรวรารามวรวิหาร
หรือที่ท่าน้ำหน้าตลาดในตัวเมือง มีทั้งเรือหางยาวจุคนได้
8-10 คน เรือสำราญจุคนได้ 40 คน อัตราค่าเช่าเรือตามแต่จะตกลงกันตามจำนวนผู้โดยสารและระยะทาง |
|
ฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา โรงแรมฉะเชิงเทรา วัดหลวงพ่อโสธร
เมืองธรรมะ
พระศักดิ์สิทธิ์ ชิดเมืองหลวง มะม่วงหวาน ข้าวสารขาว มะพร้าวหอม |
ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทัวร์โปรโมชั่น
โปรแกรมทัวร์อื่นๆ |
 |
โปรแกรมจอยทัวร์ |
|
| |
|