|
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี |
ข้อมูลท่องเที่ยว
อำเภอเมือง อำเภอพรหมบุรี สิงห์บุรี |
อำเภอเมือง
วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร
เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ในตำบลจักรสีห์ จากอำเภอเมืองไปตามเส้นทางสายสิงห์บุรี-สุพรรณบุรี
(ทางหลวงหมายเลข ๓๐๓๒) ประมาณ ๔ กิโลเมตร สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ขนาดใหญ่ ลักษณะแบบสุโขทัยมีความยาว
๔๗.๔ เมตร นอกจากนี้ยังมีพระกาฬและพระแก้ว ซึ่งเป็นพระศิลาลงรักปิดทอง
และพระหล่อนั่งขัดสมาธิเพชรอันศักดิ์สิทธิ์และมีพระพุทธลักษณะงดงาม
ด้านหน้าพระอุโบสถมีต้นสาละลังกาใหญ่ต้นไม้สำคัญในพระพุทธศาสนาผลิดอกบานสะพรั่งหลายต้น
เปิดให้เข้าชมและนมัสการทุกวัน
วัดหน้าพระธาตุ
อยู่ในเขตหมู่บ้านพลับ ตำบลจักรสีห์ ห่างจากวัดพระนอนจักรสีห์ไปประมาณ
๑ กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกวัดนี้ว่าวัดหัวเมือง สันนิษฐานว่าสถานที่บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของเมืองสิงห์บุรีเก่า
สิ่งที่สำคัญของวัดนี้คือ องค์พระปรางค์สูงประมาณ ๘ วา ภายหลังมีการเสริมแต่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนต้น
โดยการก่ออิฐเพิ่มเติมเป็นซุ้มจรนัมทั้งสี่ด้านตั้งแแ0ต่ฐานศิลาแลงขึ้นไปก่อด้วยอิฐย่อมุมทรงปรางค์
มีกลีบขนุนปรางค์ก่อด้วยอิฐ ทิศตะวันออกขององค์ปรางค์มีพระวิหารหลวง
ทิศตะวันตกเป็นพระอุโบสถ และมีเจดีย์กลมเรียง-รายหลายองค์
เป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบสมัยอยุธยาตอนปลาย ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่
๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘
ศาลากลางจังหวัดและศาลจังหวัดสิงห์บุรี
ตั้งอยู่บนถนนวิไลจิตต์ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นตึกก่ออิฐถือปูนชั้นเดียวทรงยุโรป สร้างขึ้นในปี ร.ศ.
๑๓๐ มีความสวยงามและมีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมมาก และศาลจังหวัดสิงห์บุรีสร้างขึ้นในปี
พ.ศ. ๑๒๙ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติ
เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๓
วัดสว่างอารมณ์
ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นโพธิ์ ห่างจากศาลากลางจังหวัดหลังเก่าไปทางลำน้ำเจ้าพระยาประมาณ
๒ กิโลเมตร วัดนี้เป็นศูนย์รวมของศิลปะหลายด้าน ได้แก่ การศึกษา
การก่อสร้างโบสถ์ วิหารศาลา และปั้นพระพุทธรูปเหมือน ที่สืบทอดวิชาปั้นพระพุทธรูปมาจากตระกูลบ้านช่างหล่อธนบุรี
วัดนี้ยังเป็นแหล่งเก็บรวบรวมตัวหนังใหญ่ที่สมบูรณ์และยังสามารถเล่นได้กว่า
๓๐๐ ตัว แบ่งเป็นชุดใหญ่ ๆ ได้ ๔ ชุด คือชุดศึกใหญ่ ชุดศึกมงกุฎ-บุตรลพ
ชุดนาคบาศ และชุดศึกวิรุญจำบัง นอกจากนี้ยังมีเรือหางยาวอันเก่าแก่ที่เคยมีชื่อเสียงเลื่องลือของจังหวัดสิงห์บุรี
เช่นเรือหงษ์ทอง ที่ทางวัดได้เก็บรักษาและอนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาและชื่นชมอีกด้วย
วัดประโชติการาม
ตั้งอยู่ที่ตำบลบางกระบือ อยู่ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีไปตามเส้นทางสิงห์บุรี
ชัยนาท (สายเก่า) ประมาณ ๕ กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ
พุทธลักษณะ งดงามศิลปแบบสุโขทัยขนาดใหญ่ ๒ องค์ คือ หลวงพ่อทรัพย์
และหลวงพ่อสิน ซึ่งมีพุทธลักษณะที่งดงาม เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป
วัดกระดังงาบุปผาราม
ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลบางกระบือ อยู่เลยจากวัดประโชติการามไปเล็กน้อย
มีโบสถ์รูปทรงสมัยใหม่ที่งดงามไม่เหมือนโบสถ์แห่งไหนสร้างอยู่บนฐานศาลาการเปรียญหลังเก่า
และวัดนี้ยังมีเจดีย์โบราณทรงระฆังคว่ำคล้ายเจดีย์สมัยอยุธยาตอนต้น
ฐานเป็นชั้น มีซุ้มทรงระฆังตั้งแต่ปล้องไฉนขึ้นไป เจดีย์องค์นี้นับว่ามีความสมบูรณ์ที่สุดที่มีอยู่ในสมัยเดียวกันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติแล้ว
นอกจากนี้ด้านหน้าเจดีย์ยังมีวิหารเก่าแก่หลังคามุมด้วยกระเบื้องดิน
บานประตูโบสถ์เป็นไม้แกะสลักลวดลายสวยงามมาก
อำเภอพรหมบุรี
วัดกุฎีทอง ตั้งอยู่หมู่
๓ในเขตตำบลบางน้ำเชี่ยว บริเวณกิโลเมตรที่ ๑๗ จากตัวเมืองบนเส้นทางสาย
๓๒ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ ๔๐๐ เมตร ในวัดมีมณฑปลักษณะเหมือนเจดีย์
ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนยอดและภายในมณฑปนั้น เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทโลหะจำลองไว้เป็นที่เคารพสักการะ
นอกจากนั้นในบริเวณวัดกุฎีทองยังมีศูนย์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านชาวไทยพวน
ซึ่งได้รวบรวมเครื่องใช้ไม้สอยในชีวิตประจำวันต่างๆ ของชาวไทยพวน
เครื่องมือทำนา ดักสัตว์ จับปลา ตลอดจนยวดยานพาหนะต่างๆ ทั้งทางบกทางน้ำเป็นของเก่าแก่ไว้ให้ชมอีกด้วย
ติดต่อขอเข้าชมได้ที่ พระครูเมตตานุศาสน์ เจ้าอาวาสวัดกุฎีทอง
และ น.อ. เถลิง อินทร์พงศ์พันธุ์ ผู้ดูและรักษาศูนย์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านวัดกุฎีทอง
ตำบลบางน้ำเชี่ยว อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี หรือ ติดต่อคุณวลัยวรรณ
สุทธิโพธิ์ ในเวลาราชการ โทร (๐๓๖) ๕๑๒๒๓๐ เสาร์-อาทิตย์ โทร
(๐๓๖) ๕๑๑๙๐๒
วัดพระปรางคมุนี
อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
๓๒ ประมาณกิโลเมตรที่ ๘ (ทางไปอำเภอพรหมบุรี) ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ฝีมือชาวบ้านเขียนโดยนายเพ็ง คนลาว เมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๖๒ แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนรก
สวรรค์ แต่ยังคงความงดงามไม่แพ้ที่อื่น
คูค่ายพม่า
ตั้งอยู่หมู่ ๑ บ้านเจดีย์หัก ตำบลบ้านแป้ง ห่างจากตัวเมืองประมาณ
๑๓ กิโลเมตร ตามหลวงหมายเลข ๓๒ เป็นแหล่งชุมชนโบราณมีลักษณะเป็นเนินดินแนวยาวรูปร่างคล้ายตัว
L กว้างประมาณ ๕-๑๕ เมตร ยาวประมาณ ๓ เมตร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อประมาณปี
พ.ศ. ๒๑๒๗ ครั้งที่พม่ายกกองทัพมาตั้งที่ปากน้ำบางพุทราเพื่อรวบรวมกำลังเข้าตีกรุงศรีอยุธยามาเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญ
ปัจจุบันได้ปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไป |
|
สิงห์บุรี บางระจัน โรงแรมสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
ถิ่นวีรชนคนกล้า
คู่หล้าพระนอน นามกระฉ่อนปลาแม่ลา ย่านการค้าภาคกลาง |
ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดสิงห์บุรี
|
|
|
|
|
|
|
|
ทัวร์โปรโมชั่น
โปรแกรมทัวร์อื่นๆ |
 |
โปรแกรมจอยทัวร์ |
|
| |
|