อำเภอบางระจัน
วัดพระปรางค์
(ชัณสูตร) ตั้งอยู่หมู่ ๗ บ้านโคกหม้อ ตำบลเชิงกลัด
ไปตามเส้นทางสายสิงห์บุรี-บางระจัน-สรรค์บุรี ประมาณ ๑๖ กิโลเมตร
ห่างจากตลาดชัณสูตรประมาณ ๑ กิโลเมตร ภายในบริเวณวัดมีพระปรางค์ศิลปแบบอยุธยา
สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชองค์ปรางค์สูงประมาณ
๑๕ เมตร ก่อด้วยอิฐแบบปรางค์ไทยสูงชะลูดคล้ายฝักข้าวโพด ฐานเตี้ยภายในกลวงมีคูหาสี่เหลี่ยมจตุรัสบนผนังคูหา
และร่องรอยภาพจิตรกรรมฝาผนัง ด้านหลังมีวิหารเก่าแก่แบบอยุธยา
หน้าบันเป็นลายแกะสลักไม้รูปตัวสิงห์และคันทวยต่างๆ มีภูเขาและรอยพระพุทธบาทจำลองบนยอดเขา
นอกจากนั้นยังปรากฎร่องรอยของเตาเผาแม่น้ำน้อยประมาณ ๓-๔ เตา
วัดพระปรางค์ถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวัดที่ ๘ มีนาคม
๒๔๗๘
แหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย
ตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระปรางค์ (ชัณสูตร) เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาขนาดใหญ่ที่สุดในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ลักษณะตัวเตาเป็นแบบระบายความร้อนเฉียงขึ้น ก่อด้วยอิฐ ตัวเตาบางส่วนคล้ายเรือประทุนจึงเรียก
เตาประทุน ตัวเตาเผาที่นับว่ามีขนาดใหญ่ มีความยาวถึง ๑๔
เมตร กว้าง ๕.๖๐ เมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางของปล่องควันไฟยาว
๒.๑๕ เมตร เคยใช้เป็นที่ผลิตภาชนะดินเผา เช่น ไห อ่าง ครก
กระปุก ช่อฟ้า กระเบื้องปูพื้น เป็นต้น ตัวอย่างเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ
ที่ขุดได้บริเวณแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย สามารถชมได้ในกุฏิของท่านเจ้าอาวาส
แหล่งโบราณคดีแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งแหล่งหนึ่งแล้ว
ยังเป็นศูนย์ศึกษาทางวิชาการเซรามิค อันยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย
อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์
อยู่ห่างจากอำเภอเมืองไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
๓๐๙ ประมาณ ๙ กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายไปบ้านเชิงกลัด
เข้าไปอีกประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานแม่ลา คำว่า แม่ลา
เป็นชื่อลำน้ำสายหนึ่งในท้องที่จังหวัดสิงห์บุรี ไหลผ่านพื้นที่
๓ อำเภอ คือ อำเภออินทร์บุรี อำเภอบางระจัน และอำเภอเมืองสิงห์บุรี
เป็นลำน้ำธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารของปลา ฉะนั้นปลาที่จับได้จากลำน้ำแม่ลาจึงมีรสชาติอร่อย
อ้วน เนื้อนุ่ม มัน โดยเฉพาะปลาช่อนแม่ลา ซึ่งเป็นอาหารและของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสิงห์บุรี
ปัจจุบันปลาช่อนแม่ลาหายากขึ้นทุกวัน ทางราชการจึงหาทางอนุรักษ์และฟื้นฟู
โดยขุดลอกแม่ลามหาราชานุสรณ์ขึ้นริมฝั่งแม่น้ำลา โดยรอบ ๆ
บริเวณอาคารทางการได้จัดให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนผู้แวะเข้ามาเยี่ยมชม
อำเภอท่าช้าง
วัดพิกุลทอง
อยู่ในเขตตำบลวิหารขาว อยู่ห่างจากวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหารไปประมาณ
๙ กิโลเมตร ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่อแพ (พระเทพสิงหบุราจารย์
เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี) ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง
๑๑ วา ๒ ศอก ๗ นิ้ว สูง ๒๑ วา ๑ คืบ ๓ นิ้ว ภายในเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
ประดับด้วยโมเสดทองคำธรรมชาติชนิด ๒๔ เค รอบ ๆ พระวิหารใหญ่มีวิหารคด
ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางประจำวันต่าง ๆ ด้านหนึ่งของวัดมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติ
และเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อแพตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีสวนธรรมะ
และสิ่งก่อสร้างที่สวยงามน่าสนใจ แวดล้อมด้วยบรรยากาศสงบร่มรื่น
กิจกรรมที่น่าสนใจ
ปัจจุบันมีการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ
การล่องเรือไปตามลำน้ำน้อย ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเคยเสด็จ
เส้นทางล่องเรือเริ่มจากวัดน้อยนางหงษ์ วัดพิกุลทอง ใช้เวลาไปกลับประมาณ
๔ ชั่วโมง และเส้นทางระยะสั้นจากวัดกลางท่าข้าม วัดพิกุลทอง
ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่งโมง ผ่านไปตามชุมชนหมู่บ้านที่สงบร่มรื่น
สามารถมองเห็นวิถีชีวิตและธรรมชาติที่สวยงามสองฟากฝั่งคลอง
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณวรรณพร เสมสมาน โทร.
๐ ๓๖๕๙ ๑๓๖๐, ๐ ๑๙๔๖ ๘๓๖๘ และเส้นทางเลียบแม่น้ำน้อยเส้นนี้ยังเป็นเส้นทางจักรยานอีกด้วย |