ดอยแม่สลอง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรี
เดิมชื่อบ้านแม่สลองนอก เป็นชุมชนผู้อพยพจากกองพล ๙๓ ซึ่งอพยพจากประเทศพม่าเข้ามาในเขตไทย
จำนวนสองกองพันคือ กองพันที่ ๓ เข้ามาอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
และกองพันที่ ๕ อยู่ที่บ้านแม่สลองนอก ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุด สีชมพูอมขาว
จะบานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง เป็นพันธุ์ไม้ที่หาชมได้ยากในเมืองไทย
เพราะเจริญเติบโตอยู่แต่เฉพาะในภูมิอากาศหนาวจัดเท่านั้น
การเดินทาง ใช้เส้นทางเชียงราย-แม่จัน เลยจากอำเภอแม่จันไป
๑ กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไป ๑๒ กิโลเมตร ถึงศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา
เลยจากศูนย์ฯ ไปอีก ๑๑ กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านผาเดื่อ ซึ่งเป็นจุดแวะชมและซื้อหัตถกรรมชาวเขา
จากนั้นเดินทางจากบ้านเย้าถึงบ้านอีก้อสามแยก ทางขวาไปหมู่บ้านเทอดไทย
ส่วนแยกซ้ายไปดอยแม่สลอง ระยะทาง ๑๘ กิโลเมตร รวมระยะทางจากเชียงราย
๔๒ กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอดสาย และจากดอยแม่สลองมีถนนเชื่อมต่อไปถึงบ้านท่าตอน
อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง ๔๕ กิโลเมตร ในกรณีไม่ได้ขับรถมาเองให้ขึ้นรถประจำทางจากตัวเมืองเชียงรายไปต่อรถสองแถวที่ปากทางขึ้นดอยแม่สลอง
จุดน่าสนใจบนดอยแม่สลอง : ชมไร่ชาและศึกษาวิธีการผลิตชา
ขี่ม้าชมทิวทัศน์รอบหมู่บ้านอาข่า(หมู่บ้านเจียงจาใส) และอนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ
ประเทศไทย ศึกษาเรื่องราว ประวัติของชาวดอยแม่สลอง มีไกด์นำชม
เปิดบริการทุกวัน เวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. ค่าเข้าชม ๒๐ บาท โทร.
๐ ๕๓๗๖ ๕๑๗๐, ๐ ๕๓๗๖ ๕๑๘๐
บ้านเทอดไทย เดิมเรียกว่า
บ้านหินแตก อยู่ห่างจากเชียงราย ๖๖ กิโลเมตร ใน พ.ศ. ๒๕๑๑
ขุนส่าเคยเข้ามาใช้เป็นฐานที่มั่นในฐานะผู้นำกองทัพกู้ชาติไต
ขุน เป็นคำที่ประชาชนรัฐฉานเรียกบุคคลที่ให้ความเคารพนับถือ
แต่ชาวโลกรู้จักขุนส่าดีในชื่อ ราชาเฮโรอีน ระหว่าง พ.ศ.
๒๕๑๙-๒๕๒๕ ขุนส่าได้ใช้บ้านหินแตกเป็นฐานที่มั่นอย่างถาวรและกระทำการผิดกฎหมาย
จนทางรัฐบาลไทยต้องใช้กำลังผลักดันให้ออกไปจากประเทศไทย คงทิ้งไว้แต่อดีตที่เหลืออยู่
เช่น บ้านพักที่ขุนส่าใช้เป็นศูนย์บัญชาการ นอกจากนี้บ้านเทอดไทยยังเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวเขาหลายเผ่าซึ่งสามารถพบเห็นได้ในตลาดยามเช้า
ดอยหัวแม่คำ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล
๑,๘๕๐ เมตร จากเชียงรายใช้เส้นทางเดียวกับทางขึ้นดอยแม่สลองสายเก่า
ทางหลวงหมายเลข ๑๑๓๐ แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยกอีก้อ ผ่านบ้านเทิดไทย
ไปจนถึงบ้านแม่คำ ห่างจากตัวเมืองเชียงราย ๑๐๐ กิโลเมตร บ้านหัวแม่คำอยู่เกือบสุดชายแดน
เส้นทางเป็นทางลูกรังคดโค้งไปตามทิวเขา ใช้เวลาเดินทางราว
๓ ชั่วโมง ดอยหัวแม่คำเป็นที่ตั้งหมู่บ้านชาวเขาขนาดใหญ่ ประกอบด้วยเผ่าลีซอ
เป็นกลุ่มชนส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีอีก้อ ม้งและมูเซอ ในช่วงเวลาซึ่งตรงกับตรุษจีนของทุกปี
ชาวลีซอจะจัดงานประเพณีกินวอ ซึ่งเปรียบเสมือนวันขึ้นปีใหม่
ในวันนั้นชาวลีซอแต่งกายสวยงาม มีการกินเลี้ยง เต้นระบำ ๗
วัน ๗ คืน และในเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ดอยหัวแม่คำงดงามไปด้วยดอกบัวตองสีเหลืองสดใสสะพรั่งอยู่ทั่วไปตามแนวเขา
เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก บนดอยมีบริการบ้านพักติดต่อเกษตรที่สูงหัวแม่คำ
โทร. ๐ ๕๓๙๑ ๘๑๐๑ หรือคุณมาลี ๐ ๕๓๖๐ ๙๑๐๖, ๐ ๖๑๙๒ ๐๑๗๐, ๐
๗๑๙๒ ๐๕๕๑ หลังละ ๓๐๐-๕๐๐ บาท มี ๔ หลัง
พระตำหนักดอยตุง
เคยเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทรา
บรมราชชนนี มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์
มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่าง
ๆ โดยฝีมือช่างชาวเหนือ รอบ ๆ พระตำหนักมีสวนดอกไม้หลากพันธุ์
หลายสี ให้ความสวยงามสดชื่น โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นหมอกจาง
ๆ บริเวณยอดเขารอบ ๆ พระตำหนัก มีเจ้าหน้าที่นำชมเป็นรอบ ๆ
ละ ๒๐ นาที เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา๐๗.๐๐-๑๗.๓๐ น. ค่าเข้าชม
๗๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐ ๕๓๗๖ ๗๐๑๕-๗ สวนแม่ฟ้าหลวง
อยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่ประมาณ ๑๐ ไร่ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว
อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่าง
ๆ ไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลี้อยอีกมากกว่า ๗๐ ชนิด รูปปั้นต่อเนื่อง
ฝีมือของคุณมีเซียม ยิบอินซอย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๐๖.๓๐-๑๘.๐๐
น. ค่าเข้าชม ๘๐ บาท และ หอพระราชประวัติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนี
เป็นอาคารแสดงพระราชประวัติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
มีห้องจัดแสดงนิทรรศการ ๘ ห้อง เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๐๗.๐๐-๑๗.๐๐
น. ค่าเข้าชม ๓๐ บาท นอกจากนั้นยังมีร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้าไหม
ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงทั้งผักผลไม้ ดอกไม้ พันธุ์ไม้ต่าง
ๆ ให้ซื้อกลับไปเป็นของฝาก นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมทั้ง
พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง และหอพระราชประวัติฯ จำหน่ายบัตรรวม
ราคา ๑๕๐ บาท ซุ้มจำหน่ายบัตรเปิดเวลา ๐๖.๓๐-๑๘.๐๐ น. หลังเวลา
๑๗.๐๐ น. จำหน่ายเฉพาะบัตรชมพระตำหนักและสวนแม่ฟ้าหลวง
สถูปดอยช้างมูบและสวนรุกขชาติช้างมูบ
บนดอยช้างมูบ ริมถนนสายพระธาตุดอยตุง บ้านผาหมี
ห่างจากทางแยกวัดน้อยดอยตุงประมาณ ๔ กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของดอยตุง
มีพระสถูปช้างมูบ เป็นเจดีย์ขนาดเล็กตั้งอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่มีลักษณะเหมือนช้างหมอบอยู่
สภาพโดยรอบเป็นต้นโพธิ์ใหญ่ ต้นสนซึ่งใช้ปลูกเพื่ออนุรักษ์ดินและต้นน้ำ
และภายในสวนรุกขชาติฯ ชมกุหลาบพันปีจากหลายทวีป ค่าเข้าชม
๕๐ บาท
พระธาตุดอยตุง
ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ ๑๗.๕ บนทางหลวงหมายเลข ๑๑๔๙ เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย
(กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้านำมาจากมัธยมประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่พระพุทธ
ศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ได้มาประดิษฐานที่ล้านนาไทย เมื่อก่อสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนี้
ได้ทำธงตะขาบ (ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า ตุง) ใหญ่ยาวถึงพันวา
ปักไว้บนยอดดอย ถ้าหากปลายธงปลิวไปไกลถึงเมืองไหน ก็จะกำหนดเป็นฐานพระสถูป
เหตุนี้ดอยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานปฐมเจดีย์แห่งล้านนาไทย จึงปรากฏนามว่า
ดอยตุง พระธาตุดอยตุงเป็นปูชนียสถานที่สำคัญ เมื่อถึงเทศกาลนมัสการพระธาตุดอยตุงจะมีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและเพื่อนบ้านจากประเทศใกล้เคียง
เช่น ชาวเชียงตุงในรัฐฉาน สหภาพพม่า ชาวหลวงพระบาง เวียงจันทน์
เดินทางเข้ามานมัสการทุกปี |