|
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง |
ข้อมูลอำเภอเมือง
อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง |
อำเภอเมือง
พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ
หรือที่เรียกกันว่า พระสี่มุมเมือง เป็นพระพุทธรูปประจำภาคใต้
และปูชนียวัตถุคู่เมืองของพัทลุง ประดิษฐานอยู่ภายในศาลาจตุรมุข
บริเวณด้านหน้าระหว่างศาลากลางจังหวัด กับศาลจังหวัดพัทลุง
เป็นพระพุทธรูปหล่อสัมฤทธิ์ปางสมาธิ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน
โปรดเกล้าฯ พระราชทานไว้ที่จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๑๑
วัดคูหาสวรรค์ ตั้งอยู่เชิงเขาคูหาสวรรค์
ใกล้ๆ ตัวตลาดพัทลุง เป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดพัทลุง
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๕ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่
พระเจดีย์ พระพุทธรูปและยังพบพระพิมพ์ดินดิบสมัยศรีวิชัย บริเวณหน้าถ้ำมีจารึกพระปรมาภิไธยย่อของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีถ้ำนางคลอด ซึ่งภายในถ้ำตกแต่งด้วยภาพปูนปั้นเกี่ยวกับเรื่องราวพื้นบ้านอีกด้วย
เขาอกทะลุ จากวัดคูหาสวรรค์ไปตามทางหลวงหมายเลข
๔๐๔๗ จะพบเขาอกทะลุ ตั้งตระหง่านอยู่ทางด้านตะวันออกของสถานีรถไฟ
เขาอกทะลุเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพัทลุง มีความสูงประมาณ ๒๕๐
เมตร มีบันไดสำหรับขึ้นยอดเขาเพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองพัทลุงได้
ลักษณะพิเศษของภูเขาลูกนี้คือ มีโพรงทะลุมองเห็นอีกด้านหนึ่ง
อยู่บริเวณเกือบตอนปลายของยอดเขา
วัดวัง อยู่ตำบลลำปำ ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข
๔๐๔๗ ประมาณ ๖ กิโลเมตร (ใช้เส้นทางเดียวกับเขาอกทะลุ) เป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดพัทลุง
เดิมเป็นวัดโบราณ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
ต่อมาได้สร้างขึ้นใหม่โดยพระยาพัทลุง (ทองขาว) ในสมัยรัชกาลที่
๓ และเคยเป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาในสมัยรัตนโกสินทร์
ต่อมาเมื่อย้ายเมืองพัทลุงไปตั้งที่ตำบลคูหาสวรรค์ วัดวังก็ชำรุดทรุดโทรมลง
และได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ สิ่งสำคัญของวัดวังคือ
พระอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ ประดับด้วยช่อฟ้าใบระกา
ด้านหน้ามีมุขเด็จยื่นออกมาภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสีฝุ่น
สันนิษฐานว่าเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ กล่าวกันว่าเป็นฝีมือช่างคณะเดียวกับที่เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและเทพชุมนุม บริเวณระเบียงคดโดยรอบมีพระพุทธรูปปูนปั้น
๑๐๘ องค์ นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์ วิหารและธรรมาสน์ลายทองสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์เช่นเดียวกับพระอุโบสถ
เหมาะสำหรับผู้สนใจศึกษาทางด้านสถาปัตยกรรมไทย
วังเจ้าเมืองพัทลุง (วังเก่า-วังใหม่)
ตั้งอยู่ใกล้กับวัดวัง เดิมเป็นที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุง
ปัจจุบันยังเหลืออยู่ส่วนหนึ่งคือ วังเก่า สร้างในสมัยพระยาพัทลุง
(น้อย จันทโรจวงศ์) เป็นผู้ว่าราชการ ต่อมาวังได้ตกทอดมาจนถึงนางประไพ
มุตามะระ บุตรีของหลวงศรีวรฉัตร ส่วนวังใหม่ สร้างเมื่อ พ.ศ.
๒๔๓๒ โดยพระยาอภัยบริรักษ์จักราวิชิตพิพิธภักดี (เนตร จันทโรจวงศ์)
บุตรชายของพระยาพัทลุงซึ่งเป็นเจ้าเมืองพัทลุง ปัจจุบันทายาทตระกูล
จันทโรจวงศ์ ได้มอบวังนี้ให้เป็นสมบัติของชาติและกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานวังเก่า
เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ และวังใหม่ เมื่อวันที่
๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันจันทร์
วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐๑๖.๐๐
น. เสียค่าเข้าชมคนไทย ๕ บาท ชาวต่างประเทศ ๓๐ บาท
อนุสาวรีย์พระยาทุกขราษฎร์ (ช่วย)
ประดิษฐานอยู่ที่สามแยกท่ามิหรำ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ตามประวัติกล่าวว่าพระยาทุกขราษฎร์
เดิมเป็นพระ ชื่อพระมหาช่วย จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าเลไลยก์ ในรัชกาลที่
๑ ซึ่งขณะนั้นเกิดสงคราม ๙ ทัพ พระมหาช่วยได้ช่วยพระยาพัทลุงนำชาวบ้านเข้าต่อต้านกองทัพพม่าจนแตกพ่าย
ต่อมาจึงลาสิกขาบทแล้วได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยาทุกขราษฎร์
ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยทำราชการเมืองพัทลุง มีตำแหน่ง พระยา
เทียบเท่าเจ้าเมือง
หาดแสนสุขลำปำ อยู่เลยวัดวังไปตามทางหลวงหมายเลข
๔๐๔๗ อีกประมาณ ๒ กิโลเมตร เป็นหาดทรายที่มีทิวสนร่มรื่นริมฝั่งทะเลสาบสงขลา
มีศาลากลางน้ำ ชื่อ ศาลาลำปำที่รัก สำหรับชมทิวทัศน์บริเวณทะเลสาบ
และจากบริเวณชายหาดมีสะพานเชื่อมไปยังเกาะลอย ซึ่งเป็นเกาะที่เกิดจากการทับถมของตะกอนปากน้ำลำปำ
ศูนย์รวมหัตถกรรมกะลามะพร้าวเมืองพัทลุง
อยู่ที่หมู่ ๑ ตำบลชัยบุรี ห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางที่แยกไสยวน
ประมาณ ๖ กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมผลิตภัณฑ์กะลาที่มีชื่อเสียง
จนได้ชื่อว่า หมู่บ้านกะลาเงินล้าน จากแนวความคิดของนายปลื้ม
ชูคง ผู้นำชุมชนเป็นผู้ริเริ่ม โดยมีการนำกะลามะพร้าวมาออกแบบเป็นภาชนะสำหรับใช้ในครัวเรือน
เครื่องประดับ เช่น ช้อน ถ้วยกาแฟ ถ้วยน้ำ กระบวยตักน้ำ ทัพพี
โคมไฟและเครื่องประดับ ซี่งจะส่งจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สนใจชมวิถีชีวิตชาวบ้านและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ติดต่อนายปลื้ม
ชูคง โทร. ๐ ๗๔๖๑ ๔๕๑๒, ๐ ๑๔๖๕ ๕๗๕๑
อำเภอควนขนุน
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย
เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๘ แต่ประชาชนมักเรียกกันว่า
อุทยานนกน้ำทะเลน้อย ซึ่งนับเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย
สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพรรณพืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รอบๆทะเลน้อย บริเวณพรุควนขี้เสียน เป็นแรมซาร์ไซต์แห่งแรกของประเทศไทย
เขตห้ามล่าสัตว์ป่านี้มีเนื้อที่ประมาณ ๒๘๕,๖๒๕ ไร่ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญของประเทศ
ครอบคลุมพื้นที่ ๓ จังหวัดคือ พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช
ส่วนที่เป็นพื้นน้ำ (ทะเลน้อย) ประมาณ ๑๗,๕๐๐ ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลน้อยเป็นพื้นที่ราบริมทะเลสาบ
ประกอบด้วย นาข้าว ป่าพรุ ทุ่งหญ้า ตัวทะเลน้อยกว้างประมาณ
๕ กิโลเมตร ยาวประมาณ ๖ กิโลเมตร มีพืชน้ำปกคลุม เช่น ผักตบชวา
กง กระจูดหนู บัวต่างๆ และพืชลอยน้ำ ความลึกเฉลี่ย ๑.๒๕ เมตร
สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่แบ่งออกเป็น นกน้ำ ๒๘๗ ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน
๒๖ ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ๖ ชนิด นกน้ำมีทั้งนกที่ประจำถิ่นและนกอพยพ
เช่นนกกาบบัว นกกุลา นกกระสานวล นกกระสาแดง นกกาเล็กน้ำ นกแขวก
เป็นต้น สิ่งที่น่าสนใจในการเที่ยวชมอุทยานนกน้ำทะเลน้อยคือ
พระตำหนักทะเลน้อย ทะเลบัวยามเช้า ฝูงนกน้ำนานาชนิด แหล่งทำรังวางไข่ของนกน้ำบริเวณอ่าวหม้อ
หน่วยพิทักษ์ป่าควนขี้เสียน แหล่งทำรังวางไข่ของนกน้ำบริเวณควนทะเลมอง
และจุดชมธรรมชาติบริเวณศาลานางเรียม
การเดินทาง จากตัวเมืองพัทลุงใช้เส้นทางหลวงหมายเลข
๔๐๔๘ (พัทลุง-ควนขนุน) ประมาณ ๓๒ กิโลเมตร ทางลาดยางตลอดสายมีป้ายบอกตลอดทาง
หรือทางรถไฟ ลงที่สถานีปากคลอง จากนั้นต่อรถโดยสารไปทะเลน้อย
ประมาณ ๘ กิโลเมตร นอกจากนี้ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ร้านค้าสวัสดิการ บ้านพักรับรอง ๕ หลัง และเรือนำเที่ยว ๖๐
ลำ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๗๔๖๘ ๕๒๓๐
|
|
พัทลุง โรงแรมพัทลุง จังหวัดพัทลุง
เมืองหนังโนราห์
อู่นาข้าว พราวน้ำตก แหล่งนกน้ำ ทะเลสาบงาม เขาอกทะลุ น้ำพุร้อน
|
ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดพัทลุง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทัวร์โปรโมชั่น
โปรแกรมทัวร์อื่นๆ |
 |
โปรแกรมจอยทัวร์ |
|
| |
|