อำเภอสิงหนคร
เจดีย์พี่น้องยอดเขาแดง ประกอบด้วย
เจดีย์องค์ดำ ตั้งอยู่บนยอดเขาแดง
ตำบลเขาแดง เจ้าเมืองพระคลัง (ดิศ บุนนาค) สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่
หรือ สมเด็จพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ สร้างไว้เป็นที่ระลึกเมื่อครั้งปราบกบฏเมืองไทรบุรี
เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๓ เจดีย์องค์ขาว
พระยาศรีพิพัฒน์ (ทัด บุนนาค) สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย หรือสมเด็จพระยามหาพิชัยญาติ
สร้างไว้เป็นที่ระลึก เมื่อครั้งปราบกบฎเมืองไทรบุรี ปัตตานี
ปีนัง และมลายู เมื่อปราบกบฏได้แล้ว พระยาศรีพิพัฒน์รับราชการเมืองสงขลาอยู่
๒ ปี จึงได้สร้างเจดีย์ไว้บนยอดเขากลางเมืองสงขลาอีกองค์หนึ่งคู่กัน
แล้วจึงยกทัพกลับกรุงเทพฯ
อำเภอสทิงพระ
อุทยานนกน้ำคูขุด (เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา)
ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๔ ตำบลคูขุด ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองสงขลา
๕๕ กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๓ มีถนนแยกจากทางหลวงเข้าไปอีก
๓ กิโลเมตร ได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา
เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๑๙ มีพื้นที่ ๒๒๗,๙๑๖ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสงขลา
และพัทลุง อุทยานนกน้ำเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบสงขลา จากการสำรวจของกรมป่าไม้พบว่ามีนก
๔๔ วงศ์ ๑๓๗ สกุล ๒๑๙ ชนิด บริเวณที่จะชมนก คือเกาะโคบ และท่าหิน
ซึ่งนั่งเรือไปประมาณ ๑ ชั่วโมง ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับดูนก
คือเดือนธันวาคม-มีนาคม ของทุกปี บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีเรือบริการนำชมนก
ค่าบริการชั่วโมงละ ๒๐๐ บาท เรือนั่งได้ ๖-๗ คน อุทยานฯ มีบ้านพักบริการ
จำนวน ๑ หลัง ๔ ห้อง ๆ ละ ๒๐๐ บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา โทร. ๐ ๗๔๓๙ ๗๐๔๒
การเดินทาง สามารถนั่งรถโดยสารสายนครศรีธรรมราช-หาดใหญ่
หรือ อำเภอระโนด-หาดใหญ่ แล้วลงรถที่หน้าอำเภอสทิงพระ และต่อรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปยังอุทยานฯ
วัดจะทิ้งพระ ตั้งอยู่หมู่ที่
๔ ตำบลจะทิ้งพระ ห่างจากที่ว่าการอำเภอสทิงพระประมาณ ๒๐๐ เมตร
เดิมเรียกว่า วัดสทิงพระ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๕๔๒ ภายในวัดมีโบราณสถานซึ่งเป็นศิลปะสมัยศรีวิชัยที่น่าสนใจ
เช่น เจดีย์พระมหาธาตุ วิหารพระพุทธไสยาสน์ ที่ภายในวิหารมีภาพวาดฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก
หอระฆังโบราณ วัดจะทิ้งพระ จะมีงานสมโภชน์พระพุทธไสยาสน์และพระเจดีย์
เป็นประจำปีทุกปี ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖
วัดพะโคะ หรือ วัดพระราชประดิษฐาน
ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลชุมพร บริเวณเขาพัทธสิงค์ อยู่ห่างจากสงขลา
๔๘ กิโลเมตร เป็นวัดจำพรรษาของ สมเด็จพะโคะหรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
ซึ่งประชาชนให้ความนับถือเป็นอันมาก สร้างประมาณ พ.ศ.๕๐๐ เล่ากันว่า
วันหนึ่งมีโจรสลัดแล่นเรือเลียบมาตามฝั่ง เห็นสมเด็จพะโคะเดินอยู่มีลักษณะแปลกกว่าคนทั้งหลายจึงใคร่จะลองดี
โจรสลัดจอดเรือและจับสมเด็จพะโคะไป เมื่อเรือแล่นมาได้สักครู่เกิดเหตุเรือแล่นต่อไปไม่ได้
ต้องจอดอยู่หลายวัน จนในที่สุดน้ำจืดหมดลงโจรสลัดเดือดร้อน
สมเด็จพะโคะสงสาร จึงเอาเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเลเกิดเป็นประกายโชติช่วง
น้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืด โจรสลัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธากราบไหว้ขอขมา
และนำสมเด็จพะโคะขึ้นฝั่ง ตั้งแต่นั้นมาประชาชนจึงพากันไปกราบไหว้บูชากันเป็นจำนวนมาก
การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๗ ทางสะพานติณสูลานนท์ผ่านเกาะยอ
แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๓ (สงขลา-ระโนด) หลักกิโลเมตรที่
๑๑๐ ทางซ้ายมือ จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดพะโคะ
อำเภอกระแสสินธุ์
วัดเอกเชิงแส อยู่ที่ตำบลเชิงแส
ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๘ เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง ๔๑๙๖ เข้าอำเภอกระแสสินธุ์
เดิมชื่อวัดเอก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทำด้วยหินปะการัง
แต่ได้หล่อปูนครอบพระพุทธรูปองค์เดิมไว้ นับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์
พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดหน้าตักกว้าง ๗๐ เซนติเมตร สูง ๑๒๐
เซนติเมตร รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่โทร. ๐ ๗๔๓๙ ๙๐๗๕ |