อำเภอเขาพนม
อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา
เป็นอุทยานฯ ทางบกแห่งเดียวของจังหวัดกระบี่
มีเนื้อที่ ๓๑,๓๒๕ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมือง อำเภออ่าวลึก
และอำเภอเขาพนม มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนในแนวเหนือจรดใต้
มียอดเขาพนมเบญจาซึ่งสูง ๑,๓๙๗ เมตร จากระดับน้ำทะเลสูงที่สุดในกระบี่
มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามทั้งลำธาร น้ำตก ถ้ำ และมีสัตว์ป่านานาชนิด
เช่น สมเสร็จ เลียงผา หมีควาย เสือปลา มีนกที่สามารถพบเห็นกว่า
๒๑๘ ชนิด เช่น นกอินทรี นกเงือก นกหัวขวาน เป็นต้น
สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ
ได้แก่
น้ำตกห้วยโต้
ต้นกำเนิดจากเขาพนมเบญจา มี ๕ ชั้น คือ
วังสามหาบ วังจงลอย วังดอยปรง วังเทวดา และวังโตนพริ้ว สายน้ำของน้ำตกห้วยโต้ไหลมารวมกันที่คลองกระบี่ใหญ่
อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่
น้ำตกห้วยสะเด
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ ๓๐๐
เมตร เป็นน้ำตกจากหน้าผาสูง มี ๓ ชั้น มีแอ่งน้ำใสสะอาด
น้ำตกสายนี้ไหลมารวมกันที่คลองโตนและไหลลงสู่คลองกระบี่ใหญ่
การเดินขึ้นยอดเขาพนมเบญจา เป็นอีกกิจกรรมของอุทยานฯ
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจะเดินขึ้นได้ ๒ เส้นทาง คือ
เส้นทางแรก ใช้เวลาในการเดินทาง ๔ วัน
๓ คืน โดยการเริ่มต้นจากน้ำตกห้วยโต้ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ
๓๐๐ เมตร นักท่องเที่ยวจะต้องปีนข้ามน้ำตกทั้ง ๕ ชั้น ขึ้นไปชั้นบนสุดแล้วเดินต่อไปยังลำธาร
เลี้ยวซ้ายทางต้นยางใหญ่พักค้างคืนที่เขาลูกช้าง ๑ คืน รุ่งขึ้นจึงเดินต่อไปค้างคืนที่ควนน้ำค้างอีก
๑ คืน จากนั้นเดินต่อไปจนถึงเชิงเขาพนม รุ่งเช้าอีกวันหนึ่งจึงเริ่มขึ้นยอดเขา
พักค้างบนยอดเขาอีก ๑ คืน
เส้นทางที่สอง เดินทางโดยรถยนต์ไปที่ฐานปฏิบัติการบางสร้าน
ระยะทางประมาณ ๖๐ กิโลเมตร เส้นทางนี้ใช้เวลาในการพักค้าง
และเดินทาง ๓ วัน ๒ คืน โดยเดินจากฐานปฎิบัติการบางสร้านไปสู่ยอดเขาพนมเบญจา
เป็นเวลา ๑ วัน และพักค้างบนยอดเขาพนมเบญจา ๑ คืน จากนั้นเดินลงจากยอดเขามาพักค้างคืนที่ควนน้ำค้างอีก
๑ คืน และในวันรุ่งขึ้นเดินจากควนน้ำค้างลงมาที่ทำการอุทยานฯ
ทั้งสองเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามของพันธุ์ไม้
สัตว์ป่า ถ้ำ เพิงผา น้ำตก ธารน้ำ ทะเลหมอก จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองกระบี่
และอากาศที่เย็นสบายตลอดปี นักท่องเที่ยวที่สนใจควรสอบถามข้อมูลก่อนการเดินทาง
อุทยานฯ มีเต็นท์ให้บริการ สำหรับ ๒-๓
คน ราคาหลังละ ๕๐ บาท/คืน/หลัง หรือจะนำเต็นท์มาเอง เสียค่าธรรมเนียม
๓๐ บาท/คืน/หลัง รายละเอียดติดต่ออุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา
ตู้ ป.ณ.๒๖ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ๘๑๐๐๐ โทร. ๐ ๗๖๖๒
๙๐๑๓ หรือ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. ๐ ๒๕๗๙ ๗๒๒๓,
๐ ๒๕๗๙ ๕๗๓๔
การเดินทาง จากอำเภอเมืองกระบี่ ไปยังสามแยกบ้านตลาดเก่าตามถนนเพชรเกษม
๑ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตามเส้นทางตลาดเก่า-บ้านห้วยโต้
ระยะทาง ๒๐ กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ
อำเภออ่าวลึก
อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี
มีพื้นที่ ๑๒๑ ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขาหินปูน
ป่าดิบ ป่าชายเลน และเกาะต่าง ๆ อุทยานฯ มีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าพรุ ป่าชายหาด ป่าชายเลน รวมถึงสังคมพืชน้ำใต้ท้องทะเล
ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
๒ เส้นทาง คือ เส้นทางที่เดินภายในอุทยานฯ ระยะทาง ๑ กิโลเมตร
และ เส้นทางเดินจากอุทยานฯ ไปป่าชายเลน ระยะทาง ๓-๔ กิโลเมตร
ผู้สนใจเข้าชมอุทยานฯ จะเสียค่าเข้าอุทยานฯ
ผู้ใหญ่ ชาวไทย ๒๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๒๐๐ บาท เด็ก ชาวไทย
๕ บาท ชาวต่างประเทศ ๑๐๐ บาท อุทยานฯ ไม่มีบ้านพักให้บริการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๕๖๘ ๑๐๗๑
สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ
ได้แก่
ธารโบกขรณี
อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ เดิมชื่อ ธารอโศก
เพราะมีต้นอโศกขึ้นอยู่ริมธาร สภาพทั่วไปเป็นธารน้ำธรรมชาติไหลลงมายังแอ่งน้ำน้อยใหญ่ซึ่งอยู่ต่างระดับกัน
รายรอบด้วยป่าไม้ร่มรื่น ด้านเหนือของธารโบกขรณี มีมณฑปพระพุทธบาทจำลองที่แกะสลักจากไม้
ประดิษฐานอยู่ใกล้กับศาลาบูชาเจ้าพ่อโต๊ะยวน-โต๊ะช่อง
ถ้ำลอดและถ้ำผีหัวโต
อยู่ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ ๖ กิโลเมตร เดินทางไปทางอำเภออ่าวลึกตามถนนอ่าวลึก-แหลมสัก
ประมาณ ๒ กิโลเมตร แยกขวาไปยังท่าเรือบ่อท่อ แล้วลงเรือหางยาวรับจ้างไปตามลำคลองท่าปรัง
ผ่านป่าชายเลนไปประมาณ ๑๕ นาที ถ้ำลอด เป็นอุโมงค์ใต้เขาหินปูน
บนเพดานถ้ำมีหินงอกและหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ กัน ส่วน ถ้ำผีหัวโตหรือถ้ำหัวกะโหลก
อยู่ห่างจากถ้ำลอดประมาณ ๕๐๐ เมตร แต่เดิมภายในถ้ำเคยมีหัวกะโหลกมนุษย์
มีขนาดโตกว่าปกติจึงมีชื่อว่า ถ้ำผีหัวโต และบนผนังถ้ำยังปรากฎภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก
อาทิ รูปคน รูปสัตว์ บนพื้นถ้ำมีเปลือกหอยทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังสามารถพายเรือแคนูชมทิวทัศน์ป่าชายเลนที่สงบร่มรื่นได้
ค่าเช่าเรือแคนู ๑,๒๐๐ บาท/คน รวมอาหารกลางวัน โดยสามารถเช่าเรือได้จากบริเวณท่าเรือบ่อท่อ
ถ้ำชาวเล
อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของแหลมสัก ในเวิ้งอ่าวที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงามของเกาะแก่งและภูผา
ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยและภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นรูปคน
รูปสัตว์ และรูปทรงเรขาคณิตต่าง ๆ หลายภาพด้วยกัน สันนิษฐานว่าจะมีอายุอยู่ในช่วงหลังภาพเขียนที่ถ้ำผีหัวโต
บริเวณถ้ำชาวเลสามารถพายเรือแคนูได้ สำหรับการไปเที่ยวชมสามารถโดยสารเรือประจำทางหรือเรือเช่าจากท่าเรือบ้านแหลมสัก
ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๐-๑๕ นาที
เกาะกาโรส อยู่ทางด้านตะวันออกของปลายแหลมสัก
เป็นบริเวณที่สามารถพายเรือแคนูได้
เกาะแดง
มีหาดทรายสวยงามยาว ๒๕ เมตร มีถ้ำลอดกว้าง
๗๐ เมตร สูง ๒๐ เมตร เป็นบริเวณที่ดำน้ำดูปะการังได้
หมู่เกาะห้อง
เป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่หลายเกาะ
อาทิ เกาะเหลาหรือเกาะซากา เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ เกาะเหลาลาดิง
เป็นต้น โดยมีเกาะห้องหรือเกาะเหลาปิเละ เป็นเกาะทางตอนใต้ที่ใหญ่ที่สุด
ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาหินปูน น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกเหมาะแก่การดำน้ำ
ตกปลา บนเกาะห้อง มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง ๔๐๐
เมตร รอบ ๆ เกาะห้องสามารถพายเรือแคนูได้ บนเกาะมีที่สำหรับกางเต็นท์
ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์พักแรมบนเกาะคนละ ๒๐ บาท โดยต้องนำเต็นท์มาเอง
นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นเกาะห้องจะต้องเสียค่าเข้าชมอุทยานฯ
ผู้ใหญ่ คนไทย ๒๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๒๐๐ บาท เด็ก คนไทย
๑๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๑๐๐ บาท การไปเที่ยวชมสามารถเช่าเรือหางยาวจากอ่าวนาง
ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง
การเดินทาง อุทยานฯ อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่
๔๖ กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ธารโบกขรณี ตำบลอ่าวลึกใต้ ห่างจากสี่แยกตลาดอ่าวลึก
มาตามถนนอ่าวลึก-แหลมสัก ประมาณ ๑ กิโลเมตร หรือจากอำเภอเมือง
สามารถนั่งรถสองแถวกระบี่-อ่าวลึกเหนือ-ใต้ ลงที่หน้าอุทยานฯ
ได้
|