บริษัททัวร์ โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์
ทัวร์ซีหนิง ชิงไห่







 
• สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอียิปต์
• ประวัติศาสตร์อียิปต์ และลำดับเหตุการณ์สำคัญ
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พิพิธภัณฑ์อิมโฮเทป
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พิพิธภัณฑ์อิมโฮเทป
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พิพิธภัณฑ์อิมโฮเทป
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พิพิธภัณฑ์อิมโฮเทป
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พิพิธภัณฑ์อิมโฮเทป
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พิพิธภัณฑ์อิมโฮเทป
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พิพิธภัณฑ์อิมโฮเทป
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พิพิธภัณฑ์อิมโฮเทป
พิพิธภัณฑ์เมืองเมมฟิส
ประวัติศาสตร์อียิปต์
• อียิปต์ อารยธรรมแห่งลุ่มน้ำไนล์
• ชาวอียิปต์เป็นหนึ่งในกลุ่มชนโบราณพวกแรกๆที่ประสบความสำเร็จในการสร้างและพัฒนาอารยธรรมของตน เนื่องจากมีปราการธรรมชาติอย่างทะเลทรายซาฮารา ทำให้อียิปต์ปราศจากการคุกคามจากศัตรูทางบกและความสมบูรณ์ของแม่น้ำไนล์ก็ทำให้ปัญหาความอดอยากแทบไม่ปรากฏด้วย เหตุนี้พวกเขาจึงสามารถ พัฒนาอารยธรรมได้โดยปราศจากอุปสรรคใดๆ
• นักประวัติศาสตร์แบ่งช่วงเวลาสามพันปีของอียิปต์ออกเป็นช่วงต่างๆ โดยเริ่มจาก
• ปลายยุคก่อนราชวงศ์ (3100 ปี ก่อนค.ศ.) เป็นยุคที่ยังไม่ได้ตั้งเป็นอาณาจักร
• ยุคอาณาจักรเก่า (เริ่มตั้งแต่ 2950 - 2150 ปีก่อน ค.ศ.) ประกอบด้วยราชวงศ์ที่หนึ่งถึงราชวงศ์ที่แปด
• ยุครอยต่อของอาณาจักร (2125 - 1975 ปี ก่อน ค.ศ.) ประกอบด้วยราชวงศ์ที่เก้าถึงสิบเอ็ด
• ยุคอาณาจักรกลาง (เริ่มตั้งแต่ 1975 - 1520 ปีก่อน ค.ศ.) ประกอบด้วยราชวงศ์ที่สิบสองถึงสิบเจ็ด
• ยุคอาณาจักรใหม่ (เริ่มตั้งแต่ 1539 - 1075 ปี ก่อน ค.ศ.) ประกอบด้วยราชวงศ์ที่สิบแปดถึงยี่สิบ
• ยุคปลายของอาณาจักร (เริ่มตั้งแต่ 1075 - 332ปี ก่อน ค.ศ.) ราชวงศ์ที่ยี่สิบเอ็ดถึงสามสิบเอ็ด ยุคนี้อียิปต์ถูกปกครองโดยชาวต่างชาติ ตั้งแต่พวกลิเบีย นูเบีย และพวกเปอร์เซีย (ปีที่ 332 ก่อนคริสตกาล) อียิปต์ถูกปกครองโดยราชวงศ์ปโตเลมี อดีตขุนศึกของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช จนมาถึงความพ่ายแพ้ของพระนางคลีโอพัตราที่แอคติอุม (Actium) ในราวก่อนคริสตกาล อียิปต์ก็สิ้นสุดความเป็นอาณาจักรโดยสิ้นเชิง
• ปลายยุคก่อนราชวงศ์ (3100 ปี ก่อนค.ศ.) เป็นยุคที่ยังไม่ได้ตั้งเป็นอาณาจักร
• เมื่อราวเจ็ดพันปีก่อนการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทำให้ซาฮาราค่อยๆแห้งแล้ง และกลายเป็นทะเลทราย เหลือแต่เพียงพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำไนล์ที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่ และเนื่องจากทุกปีแม่น้ำไนล์จะพัดเอาตะกอนหน้าดินมาถมฝั่ง ทำให้พื้นดินแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก ผู้คนเริ่มอพยพเข้ามาจับจองพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำและเริ่มมีการเพาะปลูกขึ้น แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ เรียกว่าโนมส์
• ในแต่ละโนมส์จะปกครองโดยกลุ่มนักบวชหรือหมอผี ต่อมามีการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ การจัดระบบชลประทาน ชุมชนก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พัฒนาเป็นนครรัฐขนาดเล็กๆกระจัดกระจายตามริมฝั่งแม่น้ำดินแดนของแม่น้ำไนล์
• ดินแดนของแม่น้ำไนล์ถูกแบ่งตามสภาพภูมิศาสตร์เป็นอียิปต์บนและอียิปต์ล่าง เนื่องจากแม่น้ำไนล์ไหลจากทางใต้ขึ้นสู่ทางเหนือ ดังนั้นอียิปต์บนจะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำไนล์ พื้นที่ส่วนนี้มีทุ่งหญ้าและเขตป่าละเมาะที่เหมาะแก่การล่าสัตว์และทำปศุสัตว์ ส่วนอียิปต์ล่างจะตั้งบริเวณทิศเหนือซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำไหลลงทะเลและมีพื้นที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ที่สมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก การค้าขายและศูนย์กลางที่สำคัญชื่อว่า บูโท ส่วนทางอียิปต์บนพลเมืองจะอาศัยอยู่หนาแน่นบริเวณเมืองนากาดาและเฮียราคอนโพลิส ในราวสี่พันปีก่อนคริสตกาลชาวอียิปต์เริ่มพัฒนารูปแบบอักษรจากรูปภาพ และกลายเป็นอักษรเฮียโรกลิฟฟิคในเวลาต่อมา
พีรามิดขั้นบันได เมืองซัคคาร่า
ประวัติศาสตร์อียิปต์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พีรามิดขั้นบันได ซัคคาร่า
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พีรามิดขั้นบันได ซัคคาร่า
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารที่พีรามิดซัคคาร่า
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารที่พีรามิดซัคคาร่า
• กำเนิดแห่งอาณาจักรอียิปต์โบราณ
• กำเนิดแห่งอาณาจักร ในราว 3200 ปีก่อนคริสตกาล ราชาแมงป่อง (Scorpion king) ผู้ครองนครธีส (This) อันตั้งอยู่บริเวณตอนกลางแห่งลุ่มน้ำไนล์ได้กรีฑาทัพ เข้ายึดครองนครรัฐต่างๆในอียิปต์บนและตั้งตนเป็นฟาโรห์แห่งอาณาจักรบน ราชาแมงป่องปรารถนาจะรวมอียิปต์เข้าด้วยกันแต่พระองค์สิ้นพระชนม์เสียก่อน โอรสของพระองค์(ข้อนี้นักประวัติศาสตร์ยังไม่แน่ใจนักแต่จากหลักฐานที่มีแสดงว่าทั้งสองพระองค์น่าจะเกี่ยวดองกัน) นามว่า นาเมอร์ (Namer)ได้สานต่อนโยบายและกรีฑาทัพเข้าโจมตีอียิปต์ล่าง จนกระทั่งมาถึงสมัยของฟาโรห์เมเนส(Menese) พระองค์สามารถผนวกทั้งสองอาณาจักรเข้าด้วยกันได้สำเร็จและสถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นฟาโรห์พระองค์แรกของอียิปต์โดยตั้งเมืองหลวงที่ เมมฟิส (Memphis) ซึ่งอยู่ตอนกลางของลุ่มน้ำไนล์ ฟาโรห์เมเนสเป็นฟาโรห์องค์แรกแห่งราชวงศ์ที่หนึ่งของอียิปต์โบราณ
• ยุคอาณาจักรเก่า (เริ่มตั้งแต่ 2950 - 2150 ปีก่อน ค.ศ.) ราชวงศ์ที่หนึ่งถึงราชวงศ์ที่แปด
• ยุคนี้เมืองหลวงของอียิปต์คือ นครเมมฟิส (Memphis) โดยมีพระเจ้าเมเนส (Menes) เป็นฟาโรห์พระองค์แรกที่ปกครองอียิปต์ทั้งหมด ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า องค์ฟาโรห์คือร่างประทับของสุริยเทพ ที่ลงมาปกครองมนุษย์
• การเมืองการปกครอง : ในสังคมอียิปต์มีการแบ่งออกเป็นสามชนชั้น คือ ชนชั้นสูงได้แก่ เชื้อพระวงศ์ นักบวช ขุนนาง ชนชั้นกลางได้แก่ พ่อค้า เสมียน ช่างฝีมือ และชนชั้นล่างคือพวกชาวนาและผู้ใช้แรงงาน นอกจากฟาโรห์แล้ว บุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดคือหัวหน้านักบวชของสุริยเทพ รา ซึ่งเป็นจอมเทพสูงสุด ในการบริหารงาน ฟาโรห์จะมีคณะเสนาบดีที่นำโดย วิเซียร์ (Vizier) ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางสำคัญ เป็นผู้ช่วย และส่งข้าหลวง (Nomarch) ไปทำหน้าที่ปกครองหัวเมืองต่างๆ โดยขึ้นตรงต่อองค์กษัตริย์ ในยุคอาณาจักรเก่านี้ อียิปต์ไม่มีกองทหารประจำการ แต่จะเกณฑ์พลเมืองเข้ากองทัพเมื่อเกิดสงคราม
• ความเชื่อ : เดิมทีก่อนการรวมแผ่นดิน หัวเมืองต่างๆทั้งในอียิปต์บน และ ล่าง ต่างนับถือเทพต่างๆกันต่อมาเมื่อรวมแผ่นดินแล้วก็ยังคงความเชื่อแบบพหุเทวนิยม อยู่ โดยมี เทพเจ้ารา (RA) เป็นเทพสูงสุด ชาวอียิปต์เชื่อว่าพระองค์เป็นผู้สร้างโลกและสวรรค์รวมทั้งสิ่งมีชีวิตทั้งปวง นอกจากเทพเจ้าราแล้ว เทพที่ชาวอียิปต์นับถือกันมากได้แก่ เทพเจ้าโอซิริส เทพแห่งยมโลกผู้มีหน้าที่ตัดสินดวงวิญญาณ, เทพีไอซิสเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์, เทพเจ้าเซ็ท เทพแห่งสงคราม, เทพีฮาธอร์เทพีแห่งความรัก และเทพเจ้าฮอรัส เทพผู้เป็นตัวแทนของฟาโรห์ทุกพระองค์ นอกจากนี้ยังมีเทพอื่นๆที่ถือเป็นเทพเจ้าประจำแต่ละเมือง
• วิถีชีวิต : ชาวอียิปต์โบราณดำรงค์ชีวิตด้วยการกสิกรรม โดยเฉพาะในเขตที่ราบน้ำท่วมถึงหรือที่เรียกว่าเขตดินสีดำที่ชื่อว่า เคเมต เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ การเพาะปลูกได้ผลดี พืชผลที่ได้จะถือเป็นสมบัติของฟาโรห์และจะมีการแจกจ่ายแก่ประชาชนอย่างเหมาะสม พืชที่นิยมปลูกกันคือข้าวสาลีและข้าวบาเล่ย์ โดยพวกเขาจะใช้ข้าวสาลีทำขนมปังและทำเบียร์จากข้าวบาเล่ย์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นอาหารหลัก ของชาวอียิปต์โบราณ และพืชผลเหล่านี้ยังใช้เป็นสินค้าส่งออกไปยังดินแดนอื่นๆอีกด้วยนอกจากการเพาะปลูกแล้วชาวอียิปต์ยังทำการจับปลา ล่านกน้ำและฮิปโปโปเตมัสในแม่น้ำไนล์โดยใช้เรือที่ผูกจากต้นกก ส่วนในเขตดินสีแดงที่เรียกว่า เชเครต ซึ่ง อยู่ในเขตอียิปต์บนพวกเขาจะทำการล่าสัตว์ป่าอย่าง แอนทีโลป และแพะป่า ซึ่งมีอยู่มากมาย บ้านเรือนของชาวอียิปต์สร้างจากอิฐตากแห้งและใช้ไม้ทำส่วนประกอบอย่างกรอบประตูเนื่องจากในอียิปต์ไม้ค่อนข้างหายาก บ้านแต่ละหลังจะมีบันไดขึ้นดาดฟ้าเนื่องจากชาวอียิปต์จะใช้ดาดฟ้าเป็นที่ทำงานต่างๆเช่นการทำขนมปัง หรือแม้แต่เป็นที่พักผ่อนนั่งคุย
• อักษรอียิปต์ : ชาวอียิปต์ใช้อักษรภาพที่เรียก ว่าเฮียโรกลิฟฟิค (Hieroglyphic) ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็นรูปภาพและแบบที่เป็นสัญลักษณ์ประกอบเป็นคำ โดยจะบันทึกลงในแผ่นหินและม้วนกระดาษปาปิรัสซึ่งทำจากต้นกก ตัวอักษรอียิปต์มีประมาณ 1000 ตัว ในสมัยก่อน ผู้ที่สามารถอ่านเขียนอักษรเฮียโรกลิฟฟิคได้คล่องแคล่วจะมีโอกาสได้ทำงานเป็นอาลักษณ์ ซึ่งจะทำให้มีโอกาสที่จะเลื่อนขึ้นเป็นขุนนาง หรือนักบวชสำคัญได้ สำหรับอักษรของอียิปต์นั้น นับแต่อารยธรรมล่มสลายลงไปก็ไม่มีใครสามารถตีความได้ จนกระทั่งได้มีการค้นพบ ศิลาจารึก โรเซทต้า (ROSETTA) ในปี ค.ศ. 1799 ที่มีจารึกอักษรเฮียโรกลิฟฟิคกับอักษรกรีกโบราณเอาไว้ ฟรองซัวส์ ชองโพลียอง ใช้วิธีการค้นคว้าโดยอ่านเทียบกับอักษรกรีกโบราณ และสามารถตีความได้สำเร็จในปี 1822
• การทำมัมมี่ : ถูกทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ที่4 และมีเรื่อยมาจนถึงค.ศ.641 ชาวอียิปต์เชื่อว่าหลังจากที่มนุษย์ ตายไปแล้วดวงวิญญาณจะกลับมาเกิดใหม่ในร่างเดิมจึงต้องเก็บร่างเอาไว้เพื่อรอรับการเกิดใหม่ในยุค อาณาจักรเก่าเชื่อว่ามีเพียงฟาโรห์เท่านั้นที่จะกลับมาคืน ร่างเดิมแต่ในสมัยต่อมาการทำมัมมี่ได้แพร่หลายสู่ขุนนางและสามัญชนแม้กระทั่งสัตว์ที่เป็นสัญลักณ์ ของเทพเจ้าในการทำมัมมี่ชาวอียิปต์จะนำสมองและอวัยวะภายในออกจากศพและนำศพไปชำระล้างใน แม่น้ำไนล์จากนั้นจะนำไปแช่ในน้ำยานาตรอน(Natron)ซึ่งเป็นสารพวกsodium Carbonate โดยเปลี่ยนน้ำยาทุกสามวันและแช่ประมาณหกสิบวันจนศพแห้งและนำมาพันด้วยผ้าลินิน ส่วนอวัยวะภายในและสมองจะนำไปผสมกับเครื่องหอมและทำให้แห้งด้วยสมุนไพรจากนั้น จึงนำไปดองในน้ำยานาตรอนประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะนำมาเก็บในโถคาโนปิก (Canopic) สี่ใบและนำไปเก็บรวมกับหีบศพในสุสานพร้อมข้าวของเครื่องใช้และสมบัติเพื่อรอการกลับมาของวิญญาณ
• พีระมิดยักษ์ของฟาโรห์คูฟู
• พีระมิดยักษ์ : เป็นสิ่งก่อสร้างที่มหัศจรรย์ที่สุด เดิมทีฟาโรห์จะสร้างห้องเก็บพระศพขนาดใหญ่เป็นสุสาน ต่อมาในสมัยของฟาโรห์โซเซอร์ แห่งราชวงศ์ที่สาม (2650ปีก่อน ค.ศ.) อิมโฮเทปที่ปรึกษาของฟาโรห์ ซึ่งเป็นนักปราชญ์และสถาปนิกที่มีความสามารถ ได้ทำการออกแบบ พีระมิดขั้นบันไดที่เรียกว่า มาสตาบา (Mastaba) ที่เมืองซักคาร่าขึ้น นอกจากเป็นผู้ออกแบบพีระมิดแล้ว อิมโฮเทปยังมีผลงานประพันธ์ต่างๆมากมายทั้งวรรณคดีและตำราเภสัชศาสตร์ ชาวอียิปต์รุ่นหลังนับถือเขาในฐานะเทพแห่งความรู้ หลังจากยุคของฟาโรห์โซเซอร์ ก็ได้มีการสร้างพีระมิดขั้นบันไดต่อมาและค่อยๆพัฒนากลายเป็นแบบสามเหลี่ยม โดยพีระมิดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ พีระมิดยักษ์ของฟาโรห์คูฟูที่เมืองกีซา ซึ่งมีความสูงถึง 147 เมตรและได้ชื่อว่าเป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
• การต่างประเทศ :ในยุคอาณาจักรเก่าอียิปต์มีการค้าขายกับเพื่อนบ้านทั้งในเมโสโปเตเมีย (อยู่ในตะวันออกกลาง)และอาณาจักรนูเบียทางภาคใต้(ปัจจุบันคือซูดาน)ในยุคนี้ไม่มีการใช้เงิน การค้าจะทำในแบบของแลกของ โดยสินค้าออกสำคัญของอียิปต์คือพืชผลทางการเกษตร แลกกับสินค้าพวกไม้หอม งาช้าง เครื่องแกะสลัก เป็นต้น แทบไม่มีหลักฐานของการสงครามขนาดใหญ่ในยุคนี้นอกจากหลักฐานการรบกับพวกเรร่อนเบดูอิน ในพรมแดนปาเลสไตน์สมัยฟาโรห์เปปิที่1 แห่งราชวงศ์ที่6 กล่าวได้ว่าสงครามใหญ่เพียงครั้งเดียวของยุคนี้คือสงครามรวมชาติตอนต้นราชวงศ์ที่หนึ่งเท่านั้น
มหาพีระมิดกีซ่า สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ประวัติศาสตร์อียิปต์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พีระมิดกีซ่า อียิปต์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พีระมิดกีซ่า อียิปต์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
พีระมิดกีซ่า อียิปต์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
สฟิงซ์ยักษ์กีซ่า
ประวัติศาสตร์อียิปต์
เที่ยวมหาพีระมิดกีซ่า
ประวัติศาสตร์อียิปต์
สฟิงซ์ยักษ์กีซ่า
ประวัติศาสตร์อียิปต์
สฟิงซ์ยักษ์กีซ่า
ประวัติศาสตร์อียิปต์
สฟิงซ์ยักษ์กีซ่า
สฟิงซ์ยักษ์ เมืองกีซ่า
ประวัติศาสตร์อียิปต์
• ยุครอยต่อของอาณาจักร (2125 - 1975 ปีก่อนคริสตกาล)
• นับแต่ก่อตั้งอาณาจักร ดินแดนอียิปต์มีแต่ความสงบสุขและรุ่งเรือง ปราศจากจากสงครามและการคุกคามจากชนต่างชาติ จนถึงปีที่ 2200 ก่อนคริสตกาล ความวุ่นวายและการนองเลือดก็เริ่มเกิดขึ้น สาเหตุมาจากฟาโรห์จะพระราชทานที่ดินให้แก่ขุนนางที่ทำความดีความชอบ โดยที่ดินดังกล่าวจะต้องกลับคืนเป็นของราชสำนักอีกครั้ง เมื่อขุนนางสิ้นชีวิตลง แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าขุนนางเริ่มท้าทายอำนาจฟาโรห์ โดยการแอบโอนถ่ายที่ดินให้แก่ลูกหลาน จนในที่สุดก็กลายเป็นธรรมเนียมว่า ขุนนางสามารถโอนถ่ายที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์สู่ลูกหลานได้ และนำไปสู่การสร้างเขตอิทธิพลของแต่ละตระกูลเหล่าขุนนางต่างสะสมที่ดินและกำลังคนมากขึ้น อำนาจของฟาโรห์ถูกกัดกร่อนลงเรื่อยๆและกลุ่มอิทธิพลที่ทรงอำนาจมากที่สุดก็คือเหล่าหัวหน้านักบวชในอารามสุริยเทพรา
• ปีที่ 2180 ก่อน ค.ศ. อำนาจรัฐของฟาโรห์ที่เมมฟิสสิ้นสุดลง บรรดานครรัฐต่างตั้งตนเป็นอิสระและทำสงครามรบพุ่งกันเอง ดินแดนแม่น้ำไนล์ที่เคยอุดมสมบูรณ์เกิดภัยแล้งติดต่อกันเป็นเวลานาน ฟาโรห์อ่อนแอเกินกว่าที่จะสร้างระบบชลประทานขึ้นมา แก้ปัญหาได้ความอดอยากและภัยสงครามแพร่กระจายทั่วแผ่นดินในที่สุดอิยิปต์ถูกแบ่งเป็นสองเขต คืออิยิปต์ต่ำ ซึ่งอยู่ทางเหนือของเมมฟิสถูกปกครองโดยตระกูลหนึ่งจากเมืองเฮรักลีโอโพลิส (Herakleopolis) ส่วนอีกเขตหนึ่งคืออียิปต์สูงที่อยู่ทางใต้ของเมมฟิสถูกปกครองโดยตระกูลจากเมืองธีบีส (Thebes) และแล้วในปีที่ 1975ก่อนค.ศ.เจ้าชายนักรบจากธีบีสได้ทำสงครามผนวกอียิปต์ทั้งหมด และ ขึ้นครองราชย์เป็นฟาโรห์ ทรงพระนามว่า มอนตูโฮเทปที่ 2 (Montuhotep)
• ยุคอาณาจักรกลาง1975 - 1640 ปีก่อนคริสตกาล
• พระเจ้ามอนตูโฮเทปที่2 ได้สร้างเมืองหลวงใหม่ที่ ธีบีส ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงสร้างโบสถ์ใหญ่อันสวยงามที่ เดียร์ เอล-บาฮารี (Deir el-Bahari) โบสถ์นี้ยังเป็นที่ฝังพระศพของพระองค์อีกด้วย ต่อมาในสมัยของมอนตูโฮเทปที่ 4 พระองค์ถูกแย่งชิงราชสมบัติ โดยขุนศึกนาม อาเมเนมฮัท (Amenamhat) ซึ่งได้ตั้งราชวงศ์ที่12 ขึ้น ราชวงศ์ที่12 นี้ได้นำความมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองกลับมา สู่อียิปต์อีกครั้ง มีการทำเหมืองแร่และอู่ต่อเรือ นอกจากนี้มีการสร้างพีระมิดขนาดใหญ่ขึ้นหลายแห่งการเพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ อำนาจของฟาโรห์กลับมายิ่งใหญ่และมั่งคั่งอีกครั้งหนึ่ง
• ชาวอียิปต์ได้ฟื้นฟูเส้นทางการค้าต่างประเทศขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่หยุดชะงักไปมีการส่งกองเรือสินค้า ไปค้าขายกับชาวต่างชาติเช่น ครีทและเลบานอน ในยุคนี้ อียิปต์ยังทำศึกกับพวกนูเบียทางใต้ (ปัจจุบันคือ ซูดาน) และแผ่อิทธิพลไปทางภาคตะวันตกเพื่อป้องกันเส้นทางการค้ามีการส่งกองเรือสินค้า ไปค้าขายกับชาวต่างชาติ
• นอกจากนี้เครื่องบรรณาการเช่นทองคำและทาสเชลย ที่ชาวอียิปต์ได้จากการทำสงคราม ก็ทำเศรษฐกิจของอียิปต์เจริญรุ่งเรืองขึ้น อำนาจของฟาโรห์กลับมายิ่งใหญ่และมั่งคั่งอีกครั้งหนึ่ง
• นักรบนูเบีย : พวกนูเบียนเป็นกลุ่มชนผิวดำ ดินแดนนูเบียนั้น ตั้งอยู่ดินแดนทางตอนเหนือของแม่น้ำไนล์ (ทางใต้ของอียิปต์) แต่เดิมทีอียิปต์ ทางอียิปต์ได้ส่งคณะเดินทางไปยังนูเบีย เพื่อนำงาช้าง หินสำหรับก่อสร้างและสินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ กลับมาอียิปต์ ในสายตาของชาวอียิปต์นั้นถือว่าพวกนูเบียเป็นชนป่าเถื่อนที่มีอารยธรรมด้อยกว่าตน ในช่วงยุคมืดพวกนูเบียคุกคามพรมแดนด้านใต้ของอียิปต์
• ต่อมาในยุคอาณาจักรกลางและได้เกณเชลยศึกชาวนูเบียเข้ามาเป็นทหารในกองทัพ นอกจากนี้ยังมีนักรบนูเบียบางที่มีความสามารถ ได้รับตำแหน่งนายพลของกองทัพอียิปต์ด้วย ชาวนูเบียนรับอารยธรรมต่างๆของอียิปต์มาใช้ รวมทั้งความเชื่อทางศาสนาและการสร้างพีระมิดด้วย
• การรุกรานของชนต่างชาติ {The invasion from Asia} 1630 - 1520 ก่อนคริสตกาล
• ในช่วงเวลานี้ได้เกิดเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้น นั่นคือการรุกรานของพวก ฮิกโซส (Hyksos) ซึ่งในฦาษาอียิปต์แปลว่า " กษัตริย์ต่างชาติ " ชนเผ่านี้อพยพมาจากทุ่งหญ้าในเอเชียและทำสงครามโค่นล้มราชวงศ์อียิปต์ พวกฮิกโซสมีชัยชนะเหนืออียิปต์ได้ด้วย รถศึกและม้า ซึ่งชาวอียิปต์ไม่เคยรู้จักมาก่อน รถศึกเป็นการผสมผสานระหว่างความเร็วกับอานุภาพการยิง โดยมือธนูจะอยู่บนรถศึกและยิงทำลายแนวรบของศัตรู ทหารอียิปต์ที่มีเพียงพลเดินเท้าเป็นหลักไม่อาจต้านทานอานุฦnbsp;าพของ รถศึกได้ ในที่สุดพวกฮิกโซสจึงสามารถก่อตั้งราชวงศ์ปกคริงอียิปต์ได้สำเร็จ โดยตั้งเมืองหลวงชื่อ อวารีส(Avaris) ขึ้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ และครอบครองดินแดนส่วนเหนือของประเทศ พวกฮิกโซสนำอียิปต์สู่โลกฦnbsp;ายนอกและนำวิทยาการใหม่ๆมาสู่อียิปต์ พวกฮิกโซสได้ปรับวัฒนธรรมและศาสนาของชาวอียิปต์เข้าด้วยกัน แม้จะใช้วัฒนธรรมอียิปต์ แต่ในสายตาชาวอียิปต์ พวกฮิกโซสก็ยังเป็นผู้รุกรานที่น่ารังเกียจ ในเวลาที่พวกฮิกโซสตั้งราชวงศ์นั้น พวกอียิปต์ก็ได้ตั้งราชวงศ์ที่17 อยู่ที่ธีบีส โดยยอมอ่อนข้อให้พวกฮิกโซส ในตอนแรก แต่หลังจากนั้นธีบีสก็ลุกขึ้นทำสงครามกับฮิกโซสในการสงครามฟาโรห์สอง พระองค์ของ ธีบีสคือฟาโรห์เซเกนองแร(Sequenenre) และฟาโรห์กาโมส(Kamose) สิ้นพระชนม์ในสนามรบและในที่สุดฟาโรห์อาห์โมซิส(Amosis) ก็สามารถขับไล่พวกฮิกโซสออกไปได้สำเร็จ และก่อตั้งราชวงศ์ที่18 ขึ้น
วิหารลักซอร์ (Luxor Temple) เมืองลักซอร์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารลักซอร์ Luxor Temple
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารลักซอร์ Luxor Temple
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารลักซอร์ Luxor Temple
ประวัติศาสตร์อียิปต์
เสาโอเบลิสก์ วิหารลักซอร์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารลักซอร์ Luxor Temple
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารลักซอร์ Luxor Temple
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารลักซอร์ Luxor Temple
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารลักซอร์ Luxor Temple
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคาร์นัค
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคาร์นัค เมืองลักซอร์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคาร์นัค
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคาร์นัค เมืองลักซอร์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคาร์นัค เมืองลักซอร์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคาร์นัค เมืองลักซอร์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคาร์นัค เมืองลักซอร์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคาร์นัค เมืองลักซอร์
มหาวิหารคาร์นัค (Great Temple of Karnak)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
• ยุคอาณาจักรใหม่ (New kingdom) 1539 - 1075 ปีก่อนคริสตกาล
• นักประวัติศาสตร์ต่างยอมรับกันว่ายุคนี้เป็นยุคที่อียิปต์รุ่งเรืองที่สุด โดยหลังจากพวกฮิกโซสถูกขับไล่ไปแล้ว อำนาจของฟาโรห์ เหนือนครต่างๆในลุ่มน้ำไนล์กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ ในยุคของฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 (Thutmosis) แห่งราชวงศ์ที่ 18 ในยุคนี้เมืองหลวงของอียิปต์คือนครธีบส์(Thebes) และฝั่งตรงข้ามของเมืองหลวงคือ หุบเขาแห่งกษัตริย์อันเป็นสถานที่ฝังพระศพฟาโรห์
• ในยุคอาณาจักร ใหม่นี้ ทั้งนี้ชาวอียิปต์ได้ยกเลิกประเพณีการสร้างพีระมิดไปตั้งแต่ตอนปลาย ของอาณาจักรเก่าเนื่องจากสิ้น เปลืองวัตถุดิบและหันมาใช้วิธีเจาะหน้าผาเป็นสุสานแทน นอกจากธีบส์แล้วทุตโมซิสที่1 ยังได้สร้างนครอบีดอส (Abidos)ให้เป็นเมืองสำคัญในสมัยของฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 นี้เมืองหลวงคือ กรุงธีบส์เจริญรุ่งเรืองมากมีการสร้างวิหารขนาดใหญ่เพื่อบูชาแด่เทพเจ้า ซึ่งก็รวมทั้งมหาวิหารคาร์นัค นอกจากนี้ อียิปต์ยังได้เริ่มการแผ่อำนาจเข้าไปในดินแดนเอเชียตะวันออกใกล้และนูเบีย อีกด้วย
• การมาถึงของชนทะเล (Sea people)
• การรุกรานของชนทะเล : หลังการครองราชย์ของรามเสสที่3 ทางด้านเมดิเตอเรเนียนได้เกิดความวุ่นวาย เนื่องจากภาวะแห้งแล้ง ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการรุกรานและการอพยพจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ประชาชนจากเมดิเตอเรเนียนต้องอพยพออกจากถิ่นฐานเดิม กลุ่มชนเหล่านี้ถูกเรียกว่าชาวทะเล (sea people) นักรบชาวทะเลเหล่านี้ประกอบด้วยคนเชื้อชาติต่างๆ เช่นไมซีเน่ อีเจียน ฟิลิสทีนแม้กระทั่งชาวซีเรียโดยพวกเขาได้เข้ารุกรานและทำลายบ้านเมืองต่างๆเรื่อยมา
• สิ่งที่พวกนี้ต้องการ คือดินแดนใหม่ที่ อุดมสมบูรณ์ซึ่งพวกเขาจะตั้งถิ่นฐานได้ นอกจากนี้ชาวทะเลเหล่านี้ยังได้เข้าโจมตีและทำลายนครฮัตตูซัสเมืองหลวงของจักรวรรดิฮิตไตท์จน ราบคาบจากนั้นชาวทะเลจึงมุ่งหน้ามายังอียิปต์ดินแดนอู่ข้าวอู่น้ำของโลกโบราณ และในปีที่1179 ก่อน ค.ศ. สงครามระหว่างชาวทะเลกับอียิปต์ก็เกิดขึ้น
• ฟาโรห์รามเสสที่3 สามารถพิชิตกองทัพชาวทะเลได้ทั้งทางบกและทางน้ำ ทำให้สามารถปกป้องจักรวรรดิได้สำเร็จชื่อเสียงของพระองค์เลื่องระบือ หลังสงครามพระองค์ยังปราบปรามพวกลิเบียที่ก่อกบฎลงได้ ทำให้จักรวรรดิเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งแต่ทว่าสงครามที่ยาวนานทำให้อียิปต์สูญเสียกำลัง คนไปมากการค้าก็หดหายไปทำให้อียิปต์ขาดรายได้และท่ามกลาง ปัญหานี้เองรามเสสที่3 ก็สวรรคตลง
มหาวิหารอาบูซิมเบล (ABU SIMBEL)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
มหาวิหารอาบูซิมเบล
ประวัติศาสตร์อียิปต์
มหาวิหารอาบูซิมเบล
ประวัติศาสตร์อียิปต์
มหาวิหารอาบูซิมเบล
ประวัติศาสตร์อียิปต์
มหาวิหารอาบูซิมเบล
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคอมออมโบ
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคอมออมโบ
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคอมออมโบ
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารคอมออมโบ
เทพฮอรัส (HORUS) มีเศียรเป็นเหยี่ยวที่วิหารคอมออมโบ (TEMPLE OF KOMOMBO)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
• บทสุดท้าย แห่งอาณาจักร
• วาระแห่งความเสื่อมสูญ : หลังการสวรรคตของรามเสสที่3 อียิปต์กลับสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง ทั้งจากปัญหาการเมืองและความอดอยาก ในที่สุดอียิปต์ก็แตกแยกกลายเป็นก๊กเป็นเหล่า บรรดาเมืองต่างๆตั้งตนเป็นอิสระ ชาวลิเบียซึ่งเป็นนักโทษสงครามของรามเสส ถือโอกาสตั้งตนเป็นอิสระผู้นำของพวกเขานามว่าโชชอง(Chochong) ได้เป็นฟาโรห์และรวบรวมแผ่นดินได้สำเร็จ แต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆและบ้านเมืองก็เข้าสู่สภาพแตกแยกอีกครั้ง
• ในปีที่663 ก่อนคริสตกาล กษัตริย์อัสซูบานิปาลแห่ง อัสสิเรีย ได้ยกกองทัพเข้ารุกรานอียิปต์ เมืองต่างๆถูกทำลาย ทรัพย์สมบัติถูกปล้นชิง และอียิปต์ก็ไม่อาจฟื้นตัวได้อีกต่อมาในปีที่525 ก่อน ค.ศ. อียิปต์ก็ถูกปกครองโดยชาวเปอร์เซียและเมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซีโดเนีย ซึ่งเป็นชนเชื้อชาติกรีกพิชิตเปอร์เซียลง อียิปต์ก็ตกเป็นของมาซีโดเนียในปีที่335 ก่อนคริสตกาล
• อียิปต์ตกเป็นของมาซีโดเนีย
• หลังการสวรรคตของอเล็กซานเดอร์จักรวรรดิมาซิโดเนียของพระองค์ล่มสลายลง เหล่าขุนศึกมาซีโดเนียต่างตั้งตนเป็นใหญ่ในดินแดนต่างๆที่พระองค์พิชิตมา นายพลปโตเลมีขุนศึกของพระองค์ก็ตั้งตนเป็นฟาโรห์และ ตั้งราชวงศ์ปโตเลมีซึ่งถือเป็นราชวงศ์สุดท้าย ขึ้นปกครองอียิปต์โดยมีเมืองหลวงที่อเล็กซานเดรีย
• ปีที่ 36 ก่อนคริสตกาล พระนางคลีโอพัตราแห่งราชวงศ์ปโตเลมีพ่ายแพ้กองทัพโรมันที่แอคติอุม (Actium) และได้ปลิดชีวิตตนเองลงจากนั้นจักรวรรดิโรมันจึงผนวกอียิปต์เข้าเป็นส่วน หนึ่งของโรมและ นั่นคือการล่มสลายลงโดยสิ้นเชิงจากนั้นมา อียิปต์กลายเป็นเพียงมณฑลหนึ่งของโรมและกลายเป็นของจักรวรรดิไบเซนไทน์ในเวลาต่อมา และได้ถูกพวกมุสลิมเข้ายึดครองในภายหลัง
• วันเวลาของฟาโรห์และอาณาจักรของพระองค์จบลงไปแล้วและนั่นก็คือชะตากรรมที่ไม่ว่าอาณาจักรใดๆจะยิ่งใหญ่ สักเพียงไหนก็ไม่อาจจะหลีกพ้น
วิหารเอ็ดฟู (TEMPLE OF EDFU OR TEMPLE OF HORUS) เมืองเอ็ดฟู
ประวัติศาสตร์อียิปต์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารเมืองเอ็ดฟู (EDFU)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารเมืองเอ็ดฟู (EDFU)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารเมืองเอ็ดฟู (EDFU)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารเมืองเอ็ดฟู (EDFU)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารเมืองเอ็ดฟู (EDFU)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารเมืองเอ็ดฟู (EDFU)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารเมืองเอ็ดฟู (EDFU)
ประวัติศาสตร์อียิปต์
วิหารเมืองเอ็ดฟู (EDFU)
อียิปต์ ประเทศอียิปต์ ทัวร์อียิปต์ เที่ยวอียิปต์
• สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมประเทศอียิปต์
อียิปต์
• อียิปต์ ประเทศอียิปต์ สิ่งแรกที่เรานึกถึงประเทศอียิปต์ เราจะนึกถึง พีระมิดและฟาโรห์ ข้อมูลท่องเที่ยวอียิปต์และสถานที่ท่องเที่ยวประเทศอียิปต์มาฝาก
อเล็กซานเดรีย
• อเล็กซานเดรีย เมืองไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองแห่งพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เมืองแห่งตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของพระนางคลีโอพัตราและมาร์ค แอนโทนี
อารยธรรมอียิปต์
• อารยธรรมอียิปต์ อารยธรรมที่มีความยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก สถานที่ท่องเที่ยวเมืองเมมฟิส เมืองหลวงแรกของอาณาจักรอียิปต์โบราณ พีระมิดขั้นบันได ฟาโรห์รามเสสที่2
วิหารคาร์นัค
• มหาวิหารคาร์นัค มหาวิหารสี่พันปีแห่งเมืองลักซอร์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของเทพเจ้าอะมอนรา (สุริยะเทพ) และเพื่อเป็นสถานที่จัดพิธีกรรมเกี่ยวกับความเชื่อของอียิปต์โบราณ
ทัวร์อียิปต์
• ทัวร์อียิปต์ พีระมิดกีซ่า มหาพีระมิดกีซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ พีระมิดคูฟูหรือมหาพีระมิดแห่งกีซ่า พีระมิดคาเฟรและพีระมิดเมนคูเร สฟิงซ์ยักษ์เมืองกีซ่า
หุบเขากษัตริย์
• หุบเขากษัตริย์ สุสานฟาโรห์ หุบเขาแห่งสุสานที่ฝังหลุมศพของกษัตริย์และราชวงศ์ในราชของอียิปต์โบราณ รวมทั้งเป็นสถานที่ขุดพบสุสานและพระศพของฟาโรห์ตุตันคาเมนที่ก้องโลก
เที่ยวอียิปต์
• เที่ยวอียิปต์ สถานที่ท่องเที่ยวอียิปต์ ไคโร พีระมิดแห่งกีซ่า พีระมิดขั้นบันได เมืองอเล็กซานเดรีย วิหารอาบูซิมเบล วิหารคอมออมโบ วิหารเอ็ดฟู หุบเขากษัตริย์ สุสานฟาโรห์ มหาวิหารคาร์นัค เมืองลักซอร์
วิหารอาบูซิมเบล
• วิหารอาบูซิมเบล วิหารที่สวยงามที่สุดของอียิปต์โบราณ อยู่เมืองอัสวาน (ภาคใต้ของอียิปต์) สร้างโดยฟาโรห์รามเสสที่ 2 (Ramses II) สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 3260 ปีมาแล้ว
ของฝากจากอียิปต์
• ของฝากจากอียิปต์ แนะนำแหล่งช้อปปิ้ง ตลาดข่าน ของฝากจากอียิปต์ รูปวาดกระดาษปาปิรุส น้ำหอม พีระมิดจำลอง ฟาโรห์ เครื่องเซรามิค หนังสือ ผลไม้ ของกินต่างๆ
วิหารเอ็ดฟู
• วิหารคอมออมโบ วิหารเอ็ดฟู วิหารคอมออมโบ สร้างเพื่อถวายแด่เทพเจ้า 2 องค์ คือเทพโซเบ็กและเทพฮอรัส วิหารเอ็ดฟู เป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด
• ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศอียิปต์
ทัวร์โปรโมชั่น
• โปรแกรมทัวร์ 2567
• กรุ๊ปจอยทัวร์หน้าร้าน
ทัวร์ซีหนิง ชิงไห่ • XI-AN875 : BEAUTIFUL กานซู – ชิงไห่ ทะเลสาบเกลือ ทุ่ง Rapeseed flower ภูเขาสายรุ้ง ล่องเรือแม่น้ำเหลือง ล่องเรือทะเลสาบชิงไห่ เขาสุริยันจันทรา (8 วัน 7 คืน - FD)
• ชม ทะเลสาบเกลือฉาข่า เป็นทะเลสาบน้ำเค็ม และ ทะเลสาบชิงไห่
• ชม ทุ่งดอกRapeseed ทะเลดอกมัสตาร์ดที่สวยที่สุดในประเทศจีน
• ชม ทุ่งหญ้าแห่งเทือกเขาฉีเหลียนซาน 1 ใน 6 ทุ่งหญ้าที่สวยงามที่สุดในประเทศจีน
• พักโรงแรม 5 ดาว - อาหารดี - บินแอร์เอเชีย
• วันที่ 23 - 30 มิถุนายน 2567 :
ราคา 54,995.-บาท
• TIBET-51 : คุนหมิง ทิเบต ลาซา วังโปตาลา วัดโจคัง ทะเลสาบ เมืองซิกาท์เซ่ วัดเซร่า รถไฟหลังคาโลก ซีหนิง ซีอาน โชว์ทิเบต (8 วัน 7 คืน - TG)
• นั่งรถไฟสายหลังคาโลก ลาซา-ซีหนิง ห้องวีไอพี
• เที่ยวพระราชวังโปตาลา และเมืองซิกาท์เซ่ วัดปันเชนลามะ

• ไม่ลงร้านช้อป ไม่ขาย Option - บินการบินไทย
• วันที่ 19 - 27 พฤษภาคม 2567 : ราคา 77,995.-บาท
• TG-651 : คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า วัดซงจ้านหลิง ภูเขาหิมะมังกรหยก สวนดอกไม้ฮอบบิท เมืองโบราณลี่เจียง (6 วัน 5 คืน - TG)
• นั่งรถไฟความเร็วสูง คุนหมิง-แชงกรีล่า เที่ยวสวนดอกไม้ฮอบบิท
• นั่งกระเช้าใหญ่ขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก

• พัก 5 ดาว - ไม่ลงร้านช้อป ไม่ขาย Option - บินการบินไทย
• วันที่ 23 – 28 ตุลาคม : 5 – 10 ธันวาคม : ราคา 37,995.-บาท
• วันที่ 28 ธันวาคม - 2 มกราคม 2568 : ราคา 39,995.-บาท
• INDIA-871: แคชเมียร์ ทัชมาฮาล ดอกทิวลิปบาน อัคราฟอร์ท พาฮาลแกรม กุลมาร์ค โซนามาร์ค ทะเลสาบดาล (8 วัน 6 คืน - TG)
• เที่ยวแคชเมียร์ พาฮาลแกรม กุลมาร์ค โซนามาร์ค
• ชม ทัชมาฮาล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
• พักโรงแรม 4 ดาว บินการบินไทยและบินภายใน 2 ไฟลท์
• วันที่ 14 - 21 เมษายน 2567
• ID19 : แคชเมียร์  - เลห์ ลาดัก พาฮาลแกรม โซนามาร์ค ทะเลสาบพันกอง นูบราวัลเลย์ วัดมาลายูรู วัดเฮมิส วัดธิคเซย์ (10 วัน 8 คืน - TG)
• เที่ยวแคชเมียร์ พาฮาลแกรม โซนามาร์ค
• เที่ยวเลห์ ลาดัก ทะเลสาบพันกอง นูบร้าวัลเลย์
• พักโรงแรม 4 ดาว บินการบินไทยและบินภายใน 2 ไฟลท์
• วันที่ 18 – 27 พฤษภาคม 2567 : ราคา 68,995.-บาท
• TG-659 : เฉิงตู จิ่วจ้ายโกว อุทยานหวงหลง ล่องเรือพระใหญ่เล่อซาน เมืองโบราณลั่วไต้ หมีแพนด้า เมืองโบราณหวงหลงซี โชว์เปลี่ยนหน้ากาก (6 วัน 5 คืน - TG)
• เที่ยวครบ 2 อุทยานที่สวยงามแห่งเสฉวน จิ่วจ้ายโกว-หวงหลง
• เที่ยวเมืองเล่อซาน ล่องเรือ ไหว้พระใหญ่เล่อซาน
• อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว – บินการบินไทย - ไม่ลงร้านช้อป กรุ๊ป 16 ท่าน

• วันที่ 11 - 16 ต.ค., 18 - 23 ต.ค., 23 - 28 ต.ค., 7 - 14 พ.ย. : ราคาเริ่มต้น 41,995.-บาท
• TG-879 : เฉิงตู จิ่วจ้ายโกว อุทยานหวงหลง ภูเขาง้อไบ้ ล่องเรือพระใหญ่เล่อซาน เมืองโบราณลั่วไต้ หมีแพนด้า โชว์เปลี่ยนหน้ากาก (8 วัน 7 คืน - TG)
• เที่ยวครบ 2 อุทยานที่สวยงามแห่งเสฉวน จิ่วจ้ายโกว-หวงหลง
• ขึ้นเขา ง้อไบ้ 1 ใน 4 พุทธคีรีแห่งประเทศจีน (เที่ยวเต็มวัน)

• เที่ยวเมืองเล่อซาน ล่องเรือ ไหว้พระใหญ่เล่อซาน
• อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว – บินการบินไทย - ไม่ลงร้านช้อป กรุ๊ป 16 ท่าน

• วันที่ 3 - 10 พฤศจิกายน : ราคา 49,995.-บาท
• CANAT19 : เจาะลึกเส้นทางสายไหม ซีอาน ลั่วหยาง หลงเหมิน วัดเส้าหลิน ถ้ำม่ายจีซาน จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ตุนหวง ขี่อูฐ ถ้ำโมเกาคู ทูรูฟาน อุรุมฉี (12 วัน 10 คืน - FD)
• เที่ยวชมเส้นทางสายไหมและเส้นทางพระถังซำจั๋งแบบเจาะลึกยาวๆ
• ชม 3 ถ้ำพระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
• ชม ถ้ำตุนหวง ขี่อูฐทะเลทราย ทะเลสาบวงพระจันทร์
• พักโรงแรม 5 ดาว - อาหารดี - บินแอร์เอเชียและบินภายใน
• วันที่ 11 - 22 ตุลาคม 2567 :
ราคา 80,995.-บาท
• INDIA877 : อินเดีย เนปาล พุทธคยา ราชคฤห์ กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี ล่องเรือแม่น้ำคงคา สารนาท พารานสี (8 วัน 7 คืน - TG)
• เที่ยวครบ 4 สังเวชนียสถาน พุทธคยา กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี พาราณสี
• ชม ล่องเรือแม่น้ำคงคา เที่ยวชม วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
• พักโรงแรม 4 ดาว - มีอาหารไทย - มีพระวิทยากร - บินการบินไทย
• วันที่ 8 - 15 ธันวาคม : วันที่ 28 ธันวาคม - 4 มกราคม : 9 - 16 กุมภาพันธ์
2568
• CSX651-FD : จางเจียเจี้ย ประตูสวรรค์ เมืองโบราณฟ่งหวง เมืองโบราณฝูหรงเจิ้น เขาเทียนเหมินซาน ภูเขาอวตาร ทะเลสาบเป่าฟงหู สะพานแก้ว โชว์จิ้งจอกขาว (6 วัน 5 คืน - FD)
• เที่ยวครบ 4 ไฮไลท์ ถ้ำประตูสวรรค์ ภูเขาอวตาร ทะเลสาบเป่าฟงหู และสะพานกระจก
• เที่ยวครบ 2 เมืองโบราณ เมืองโบราณฟ่งหวง และ เมืองโบราณฝูหรงเจิ้น
• พิเศษ นอนที่ เมืองโบราณฝูหรงเจิ้น ชมบรรยากาศยามเย็นและถ่ายรูปสวยๆแสงสีแสงไฟยามค่ำคืน
• ชม โชว์จิ้งจอกขาว ที่โด่งดังแห่งจางเจียเจี้ย - อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว

• วันที่ 18 - 23 ตุลาคม 2567 : ราคา 36,995.-บาท
ทัวร์คานาสือ • XIN-864 : ซินเจียง อูรูมูฉี หมู่บ้านเหอมู่ หุบเขาอัลไต อุทยานคานาสือ ธารน้ำห้าสี เข้าอุทยานคานาสือ 2 วัน (8 วัน 6 คืน - UQ)
• ชมดอกไม้ป่าบานปีและใบไม้เปลี่ยนสีปีละครั้งที่ อุทยานคานาสือ และ หมู่บ้านเหอมู่
• เที่ยวครบ ธารน้ำห้าสี แพะเมืองผี สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อบนเส้นทางซินเจียงเหนือ
• เข้า อุทยานคานาสือ 2 วัน เน้นถ่ายรูปสวยๆ
• บินตรงอูรูมูฉี - อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 4-5 ดาว
• วันที่ 17 – 24 พฤษภาคม, 21 – 28 มิถุนายน 2567 : ราคาเริ่มต้น 54,995.-บาท
   
• สอบถามทัวร์เพิ่มเติม   ID LINE : @oceansmiletour
• คุณเล็ก โทร.082-3656241   • ID Line : lekocean2
• คุณโจ้ โทร.093-6468915    • ID Line : oceansmile
• รับทำกรุ๊ปเหมา เที่ยวส่วนตัว ดูงาน
• ประเทศจีน (ทุกเมือง) อินเดีย (ทุกเมือง)
• เนปาล ภูฏาน บาหลี ศรีลังกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า
บริษัท โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์ จำกัด โทร. 0-2969 3664, 0-2949 5134-36
เลขที่ 23/121 ซอยนวมินทร์ 161 แยก1-4 ถ.นวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230

Hotline 0-936468915, 0-823656241 (ใบอนุญาตนำเที่ยวเลขที่ 11/5028)