อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ประกอบด้วยพื้นที่ชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะน้อยใหญ่ในทะเลอันดามันมากกว่า 22 เกาะครอบคลุมพื้นที่ 494.38 ตารางกิโลเมตร โดยได้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2527 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 49 ของประเทศไทย ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติประกอบด้วยพื้นที่ชายฝั่งทะเลซึ่งส่วนใหญ่เป็นหาดทราย ป่าชายเลนผสมบ้าง ส่วนพื้นที่ที่เป็นเกาะอยู่กลางทะเลอันดามันจะเป็นภูเขาหินปูน มีพรรณไม้ป่าดงดิบขึ้นหลายชนิด บางเกาะก็ไม่มีต้นไม้ขึ้นอยู่เลย จะมีก็แต่ไม้เลื้อยเล็กๆขึ้นปกคลุมอยู่ ลักษณะภูมิอากาศ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตั้งอยู่ในเขตโชนร้อน ลักษณะลมฟ้าอากาศคล้ายคลึงกันตลอดปีความแตกต่างระหว่างฤดูกาลไม่เด่นชัด มีฤดูฝนอันยาวนานจนกล่าวได้ว่ามีฝนกระจายตลอดทั้งปี แต่ระยะที่มีฝนหนักจริงๆ จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมต่อกันไปจนถึงเดือนตุลาคม สิ้นเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมปริมาณฝนจะลดลงสำหรับฤดูร้อนจะปรากฏเป็นช่วงสั้น ๆ ในเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นระยะการเปลี่ยนแปลงฤดูมรสุม จากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนช่วงการเปลี่ยนแปลงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ในเดือนตุลาคมนั้นทำให้สภาพภูมิอากาศของพื้นที่แตกต่างกันไปบ้างแต่ไม่เด่นชัดนัก พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า สภาพป่าไม้โดยทั่วไปของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สามารถแบ่งพืชพรรณออกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้ ป่าดงดิบ พบกระจายอยู่ตามเกาะต่างๆ เป็นป่ารกทึบ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ตะเคียนหิน กระโดน ส้มเสี้ยว ฯลฯ ส่วนไม้พื้นล่างประกอบด้วย หวาย เฟิน มอส และพืชในวงศ์ขิงข่า ป่าชายหาด พบอยู่เฉพาะหาดทรายที่เป็นที่ราบตามอ่าวของเกาะต่างๆ สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่ง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ สนทะเล กระทิง ปอทะเล โพทะเล หูกวาง กาหยี จิกเล ไม้พื้นล่างเป็นพวกเตยทะเลหรือลำเจียก ป่าชายเลน พบขึ้นอยู่ในดินเลนบริเวณริมทะเล และตามปากคลองซึ่งน้ำทะเลท่วมถึง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก โปรง ตะบูนดำ ตะบูนขาว ถั่วดำ และถั่วขาว สังคมพืชน้ำพบมากจำพวกสาหร่ายและแพลงก์ตอนพืช สัตว์ป่า สัตว์จำพวกนก ที่มีลักษณะเด่นและควรจะสงวนไว้คือ นกออก เหยี่ยวแดง เหยี่ยวรุ้ง ฯลฯ เป็นต้น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ได้แก่ ลิงลม ค่างกระจง กระรอก หมู่ป่า และค้างคาวชนิดต่างๆ สัตว์เลื้อยคลาน ได้แก่ งูเหลือม ตะกวดและอื่น ๆ ปลา พบปลาทะเลมากมายหลายชนิดที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ ปักเป้าทะเล ปลากระทงแดง ม้าน้ำ ปลาตีนและปลาผีเสื้อ เป็นต้น บ้านพัก-บริการ ที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณอ่าวนุ่น (ที่ทำการกลางอุทยานแห่งชาติ) ประเภทบ้านพัก ได้แก่ บ้านทิวสน บ้านสาวดำ บ้านร่มไทร ร้านอาหาร อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ แหล่งท่องเที่ยว เกาะบุโหลน อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือปากบาราประมาณ 22 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีธรรมชาติที่สวยงามมาก เกาะเขาใหญ่ เกาะเขาใหญ่เป็นปฏิมากรรมของธรรมชาติที่คล้ายกับปราสาทหิน มีสะพานธรรมชาติยื่นโค้งเข้าไปในทะเล เมื่อน้ำลดสามารถพายเรือลอดเข้าไปได้ บนเกาะมีอ่าว ชื่ออ่าวก้ามปู ภายในอ่าวมีน้ำตกไหลมาเป็นลำธารเล็กๆ เป็นอ่าวที่สงบปราศจากคลื่นลมตลอดปีเวลาน้ำลดระดับต่ำสุด แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลจะปรากฎให้เห็นตลอดแนวชายฝั่งนอกจากนี้บริเวณอ่าวก้ามปูจะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่อีกด้วย เกาะเภตราและเกาะเหลาเหลียง อยู่ในท้องที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง สามารถลงเรือได้จากอำเภอปะเหลียน หรือที่อำเภอกันตรังก็ได้ทั้งสองทาง เป็นเขตสัมปทานการเก็บรังนก เกาะลิดี มีเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร มีหน้าผาและถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของนกแอ่นกินรัง มีพื้นที่เหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเล เป็นมุมสงบที่น่าพักผ่อนของคนรักธรรมชาติ เป็นที่ตั้งแค็มป์ของคนรักธรรมชาติและเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ภต. 2 (เกาะลิดี) หาดทรายขาว บริเวณหาดน้ำใส สามารถมองเห็นปะการังใต้น้ำ และเมื่อยามน้ำลดเต็มที่สามารถสัมผัสกับปะการังเขากวางมากมาย หาดราไวย์ เป็นชายหาดซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัด สตูล ตามชายหาดเป็นแนวต้นสน เหมาะสำหรับผู้ที่ไปตั้งค่ายพักแรม การเดินทาง รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านเข้าจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง จากพัทลุงไปอำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 แล้วแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 406 ถึงจังหวัดสตูล เครื่องบิน ไม่มีเที่ยวบินตรงไปจังหวัดสตูล แต่สามารถใช้บริการเที่ยวบินกรุงเทพฯหาดใหญ่ แล้วต่อรถแท็กซี่หรือรถโดยสารประจำทางจากตัวอำเภอหาดใหญ่ เข้าจังหวัดสตูลอีกประมาณ 97 กิโลเมตร รถไฟ สามารถเดินทางไปกับขบวนรถกรุงเทพฯยะลา หรือกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ได้ โดยลงที่สถานีหาดใหญ่ จากนั้นนั่งรถแท็กซี่ รถจอดที่ใต้สะพานลอย หน้าที่ทำการไปรษณีย์ สาขารัถการ หรือรถตู้โดยสารประจำทางจังหวัดสตูล ระยะทาง 97 กิโลเมตร รถจอดที่บ้านพักรถไฟ มีบริการทุกวัน และรถจะออกทุกๆ 1 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น.-16.00 น.หรือรถโดยสารธรรมดา หาดใหญ่-ปากบารา-สตูล รถจอดที่หอนาฬิกาหาดใหญ่ มีบริการทุกวัน วันละ 3 เที่ยว เริ่มตั้งแต่ 07.00 น. และ 15.00 น. รถโดยสารประจำทาง จากกรุงเทพฯมายังจังหวัดสตูล ระยะทาง 980 กิโลเมตร ค่าโดยสารรถธรรมดา 450 บาท รถปรับอากาศ 580 บาท และจากสตูลมายังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ระยะทาง 60 กิโลเมตร ค่าโดยสารรถธรรมดา 33 บาท แท็กซี่ 50 บาท สถานที่ติดต่อ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา 298 หมู่ 4 บ้านตะโละใส ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล 91110
ISB104-TG : ปากีสถานเหนือ - ซินเจียงใต้ คาราโครัมไฮเวย์ เส้นทางสายไหมโบราณ อิสลามาบัด ตักศิลา สการ์ดู กิวกิต ฮุนซ่า คัชการ์ ทะเลสาบไป๋ซาหู ถนนผานหลง ซีอาน วันเดินทาง 10 - 19 ตุลาคม 2568 เที่ยว 2 ประเทศ ปากีสถานเหนือ สการ์ดู กิวกิต ฮุนซ่า ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เที่ยว ซินเจียงใต้ เมืองคัชการ์ ทะเลสาบไป๋ซาหู เมืองทัชเท่อร์กาน ด่านคุนจีราพ
Hotline 0-936468915, 0-823656241 ใบอนุญาตเลขที่ 11/05028