|
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดตราด |
ข้อมูลท่องเที่ยว
อำเภอเมือง จังหวัดตราด |
วัดบุปผาราม หรือเรียกอีกชื่อว่า
วัดปลายคลอง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓ บ้านปลายคลอง ถนนพัฒนาการปลายคลอง
ตำบล วังกระแจะ เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในจังหวัด สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา
ราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. ๒๑๙๑) ท่านพระครูคุณสารพิสุทธิ์
(หลวงพ่อโห) อดีตเจ้าอาวาสในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้บูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะถาวรวัตถุในวัด
จวบจนปัจจุบันท่านพระครูสุวรรณสารวิบูลพร้อมทั้งชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดตั้งพิพิธภัณฑ์
และดูแลภูมิทัศน์โดยรอบวัดให้สะอาดเรียบร้อย วัดนี้จึงเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติศาสนกิจ
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่
พิพิธภัณฑ์
เป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าไว้มากมายโดยเฉพาะพระบรมสารีริกธาตุ
ซึ่งเป็นมงคลสูงสุดคู่บ้านเมือง มีพระพุทธรูปทองบุเงิน พระพุทธรูปปางต่าง
ๆ รวมทั้งเครื่องถ้วยจีน เครื่องถ้วยยุโรป กลองมโหรทึก แสดงให้เห็นถึงการเดินทางแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างเมืองท่าชายฝั่งตะวันออก
กับเมืองท่าโพ้นทะเลในแถบเอเชียอาคเนย์ข้ามไปไกลถึงซีกโลกตะวันตก
พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น.
ภาพจิตรกรรม
ฝาผนังในโบสถ์ และวิหารพระพุทธไสยาสน์เขียนขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์เป็นฝีมือช่างท้องถิ่นแต่ล้วนแล้วผสมกลมกลืนด้วยศิลปจีน
และวรรณคดีจีน แสดงให้เห็นว่าวัดแห่งนี้อาจได้รับการอุปถัมภ์จากชาวจีนที่มาค้าขายแถบชายฝั่งทะเลตะวันออก
(พ่อค้าชาวจีนอพยพทางเรือมาที่เมืองตราดตั้งแต่สมัยอยุธยา
บ้างอพยพจากอยุธยา กรุงเทพฯ เวียดนาม บ้างก็มาจากมาเลเซีย
สิงคโปร์)
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่น่าชมภายในวัด
คือ หมู่กุฏิเล็กทรงไทย ที่สร้างได้ถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติมีขนาดพอแค่ภิกษุอยู่ได้รูปเดียวเท่านั้น
คนในท้องถิ่นเมื่อให้ลูกหลานบวชเรียนที่วัดก็จะสร้างกุฏิให้พร้อม
เสร็จแล้วช่วยกันหามแห่มาที่วัดในวันทำพิธีบวช หอสวดมนต์ เป็นศาลาไม้ยกพื้นสูง
หลังคามุงกระเบื้องเคลือบชั้นเดียว ชายคาปีกนก หน้าบันไม้จำหลักปิดทองลายเทพนม
ฝาประกน เสาไม้แปดเหลี่ยม เจดีย์ เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง
ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส วิหารฝากระดาน ก่ออิฐ
ถือปูน รูปเรือสำเภา เช่นเดียวกับฐานโบสถ์วิหาร สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
หลังคาชั้นเดียว ฝาผนังไม้ เป็นต้น สอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. ๐ ๓๙๕๑ ๒๖๓๖
การเดินทาง
จากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข
๓ (ถนนสุขุมวิท) ตรงข้ามโรงพยาบาลตราด เลี้ยวแยกซ้ายเข้าไปประมาณ
๒ กิโลเมตร
วัดโยธานิมิตร
หรือเรียกอีกชื่อว่า วัดโบสถ์
ตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล ๔ ตรงสามแยกใกล้กับศาลหลักเมือง เป็นวัดหลวงเพียงแห่งเดียวในจังหวัดตราด
สร้างขึ้นเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมารวบรวมไพร่พลที่เมืองตราด
หากเสร็จสมบูรณ์ในสมัย รัชกาลที่ ๓ วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของบรรดาข้าราชการตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ จึงได้เปลี่ยนมาทำพิธีที่วัดไผ่ล้อม
ในส่วนของพระอุโบสถเป็นศิลปะแบบอยุธยา มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก
ปัจจุบันกลายเป็นพระวิหาร เรียกว่า วิหารโยธานิมิตร และเป็นที่เก็บโบราณวัตถุ
อาทิ หนังสือใบลาน คัมภีร์เทศน์ และรอยพระพุทธบาท พระวิหารนี้ได้รับการบูรณะครั้งล่าสุดเมื่อ
พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยซ่อมแซมหลังคา เสา ประตู หน้าต่าง ฝาผนังภายนอกที่ชำรุด
แต่ยังคงรักษารูปทรงเดิมไว้
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
ตั้งอยู่บนถนนหลักเมือง ใกล้วัดโยธานิมิตร
ศาลนี้มีลักษณะแปลกจากศาลหลักเมืองอื่น ๆ คือ ตัวอาคารก่อสร้างในลักษณะเป็นเก๋งจีน
เมื่อครั้งมารวบรวมรี้พลกอบกู้เอกราชที่ตราด สมเด็จพระเจ้าตากสินโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้นตามความเชื่อแบบจีนเพื่อให้ปกป้องคุ้มครองเมืองตราดให้รอดพ้นจากอันตราย
ชาวเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ศาลหลักเมืองเป็นดั่งศูนย์กลางเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-จีน
ในวันขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๖ ของทุกปี มีงานฉลองที่เรียกว่า วันงานพลีเมือง
หรือที่ชาวจีนเรียกว่า วันเซี่ยกงแซยิด หมายถึง วันเกิดเจ้าพ่อหลักเมืองมีพิธีทำบุญตักบาตรแบบไทย
และมีงานประจำปีศาลปุงเถ้าม้าแบบจีน ช่วงก่อน และหลังตรุษจีน
๑ เดือน
มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อฝรั่งเศสยึดเมืองตราดนั้นสังเกตเห็นชาวเมืองตราดพากันไปไหว้เจ้าพ่อหลักเมืองอยู่เป็นประจำ
จึงจะถอนเสาหลักเมืองทิ้งโดยให้คนไปขุดแต่ถอนเสาหลักเมืองไม่ขึ้น
ครั้นเอาช้างมาดึงเสาหลักเมืองก็ไม่ล้มเพียงแต่เอนไปเล็กน้อย
ซึ่งต่อมาชาวเมืองตราดได้บูรณะให้คงสภาพดี
วัดไผ่ล้อม
ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง เป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการศึกษาของจังหวัดตราด
โดยวัดแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของบิดาแห่งการศึกษาจังหวัดตราด
คือท่านเจ้าคุณพระวิมลเมธาจารย์ วรญาณนุรักษ์ สังฆปราโมก ภายในบริเวณวัดยังมีสวนพุทธธรรมสำหรับให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม
และมีเจดีย์พิพิธภัณฑ์สามท่านเจ้าคุณ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของคนในจังหวัดตราด
นอกจากนี้ยังเป็นที่พึ่งของชาวบ้านมาทุกยุคสมัยที่มีการพัฒนาอย่างสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม
สำหรับสภาพแวดล้อมภายในคือ วัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดของภิกษุ
สามเณรควรแก่การเคารพศรัทธา นอกจากนั้นยังยึดมั่นแนวทางแห่งความกตัญญู
ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงในการดำรงชีวิตของพุทธศาสนิกชน
โบราณสถานจวนเรสิดังกัมปอร์ต
ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้
๓ ชั้น หลังคาทรงปั้นหยาลดชั้น เคยใช้เป็นที่พำนักของข้าหลวงฝรั่งเศส
ผู้ได้รับการมอบหมายจากรัฐบาลฝรั่งเศสให้ปกครองจังหวัดตราด
ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๕๓-๒๔๖๔ ได้กลายเป็นจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเมื่อปี
พ.ศ. ๒๔๕๐-๒๔๗๑ ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้เป็นสำนักงานคุมประพฤติ
กรมราชทัณฑ์ แต่ยังคงรูปแบบและปฏิมากรรมเดิมไว้ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ในวันและเวลาราชการ
แหลมศอก จากถนนสายตราด-แหลมงอบ
ไปประมาณ ๓ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปบริเวณแหลมศอก ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข
๓๑๕๕ ระยะทาง ๒๔ กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
พระราชบิดาแห่งราชนาวีไทย และเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดตราด
ที่บริเวณแหลมศอกมีหาดทรายแดงอยู่ในบริเวณใกล้เคียง จุดเด่นของแหลมศอกคือ
ช่วงที่พระอาทิตย์ตกสวยงามมาก และมีหมู่บ้านชาวประมงที่น่าไปเยือน
คือ หมู่บ้านแหลมหิน และหมู่บ้านอ่าวช่อ
วัดคีรีวิหาร
เดิมชื่อว่า วัดท่าเลื่อน หรือวัดภูเขายวน
ตั้งอยู่ที่บ้านท่าเลื่อน เป็นวัดเก่าแก่มีอายุมากกว่า ๑๑๐
ปี แต่ได้รับการบูรณะจนดูใหม่ทั้งวัด ที่ตั้งอยู่บนภูเขาทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านล่างที่เป็นป่า
เขา และทะเล มีบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เป็นสวนป่าขนาดย่อม
ๆ มีต้นสักปลูกอย่างเป็นระเบียบ ลักษณะเด่นของวัด คือ การก่อสร้างด้านสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม
และมีการผสมผสานศิลปกรรมสมัยใหม่เข้าไว้ด้วย
ศาสนสถานที่สำคัญภายในบริเวณวัดประกอบด้วย อุโบสถหลังใหญ่
พระเจดีย์ เรือนรับรองสมเด็จพระเทพฯ กุฏิธรรมสารอุทิศ และกุฏินิรมิตสามัคคี
ศาลาการเปรียญ วิหารจีนที่ประดิษฐานพระพุทธอุดมสมบูรณ์ พระอวโลกิเตศวร
และพระสังกัจจายน์
การเดินทาง
จากตัวเมืองไปตามทางหลวง ๓๑๘ สายตราด-คลองใหญ่-บ้านหาดเล็ก
ไปประมาณ ๒๐ กิโลเมตร
หาดลานทราย
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีบรรยากาศที่เงียบสงบนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกัน
การเดินทาง แยกขวาตามเส้นทางไปคลองใหญ่ ทางหลวงหมายเลข ๓๑๘
ถนนตราด-คลองใหญ่ ตำบลแหลมกลัด เข้าไปประมาณ ๑๑ กิโลเมตร และเลี้ยวเข้าทางหลวง
๓๒๙๒ บริเวณหาดมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียว
ได้แก่ หาดลานทราย รีสอร์ท
แหลมกลัด เป็นชายหาดที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล
มีเม็ดทรายขาวละเอียด บริเวณหน้าหาดน้ำไม่ลึกมาก สามารถลงเล่นน้ำได้
บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน จากแหลมกลัดสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแหลมศอก
เกาะไม้ซี้ เกาะกระดาดและเกาะหมากได้ การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข
๓๑๘ แล้วเลี้ยวขวาเข้าบ้านแหลมกลัด
วัดสะพานหิน
ตั้งอยู่หลักกิโลเมตรที่ ๓๑-๓๒
ถนนตราด-คลองใหญ่ ทางหลวงหมายเลข ๓๑๘ ตามเส้นทางไปคลองใหญ่
มีทางแยกทางซ้ายมือจากถนนเข้าสู่วัด วัดนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใด
สันนิษฐานว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ปี กลางสระน้ำมีโบสถ์เก่าแก่
อยู่ห่างจากวัดประมาณ ๑ กิโลเมตร มีแนวหินเชื่อมสองฝั่งคลองใช้เป็นเส้นทางคมนาคม |
|
Untitled Document
เมืองเกาะครึ่งร้อย
พลอยแดงค่าล้ำ ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพา
|
ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดตราด
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทัวร์โปรโมชั่น
โปรแกรมทัวร์อื่นๆ |
 |
โปรแกรมจอยทัวร์ |
|
| |
|