ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
มูลเหตุของการสร้างปราสาทเขมร
ปราสาทนครวัด
ปราสาทบายน
ปราสาทบันทายสรี
ปราสาทนาคพัน
ปราสาทบันทายสรี สร้างใน พ.ศ. 1510 เพื่อบูชาพระศิวะ
ปราสาทบันทายสรี สร้างใน พ.ศ. 1510 เพื่อบูชาพระศิวะ
ปราสาทบายน สร้างใน พ.ศ. 1720 เพื่อบูชาศาสนาพุทธนิกายมหายาน
มูลเหตุต่างๆของการสร้างปราสาท
มูลเหตุของการสร้างปราสาท มาจากอิทธิพลความเชื่อต่างๆทางศาสนาเป็นแรงบันดาลใจให้พระเจ้าแผ่นดินเขมร ได้ก่อสร้างปราสาทที่ใหญ่โตและงดงามไว้มากมาย คำว่า ปราสาท ไม่ได้หมายความว่าเป็นปราสาทพระราชวัง และก็ไม่ใช่ที่ประทับของพระมหากษัตริย์ แต่เป็นที่อยู่ของเทพเจ้า โดยรูปแบบของปราสาทนั้นจะมีลักษณะแบบ ศาสนาสถาน มีคูน้ำล้อมรอบ และยังมีการแกะสลักหินให้มีลวดลายเป็นพญานาค เพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ที่มีอยู่ในอาณาจักรนั่นเอง
วัตถุประสงค์ในการสร้างปราสาทแยก
ได้ดังนี้คือ
1.สร้างปราสาทขึ้นเพื่อเป็นพระราชสุสาน โดยมีความเชื่อว่า เมื่อพระมหากษัตริย์สวรรคต ดวงวิญญาณของพระมหากษัตริย์ก็จะหลอมรวมกับเทพเจ้าที่พระองค์เคยนับถือ
2.สร้างปราสาทขึ้นเพื่อต้องการจะให้เป็นสถานที่เคารพสักการะในทางศาสนา
3.สร้างปราสาทขึ้นเพื่อต้องการให้เป็นศูนย์กลางของเมือง ได้แก่ ปราสาทบายน ปราสาทปาปวน และปราสาทพนมบาแค็ง
4.สร้างปราสาทขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ดวงวิญญาณของพระอดีตมหากษัตริย์ ได้แก่ ปราสาทแม่บุญ ปราสาทตาพรหม และปราสาทพระขรรค์
ปราสาทตาพรหม สร้างใน พ.ศ. 1729 เพื่อบูชาศาสนาพุทธนิกายมหายานและอุทิศบุญกุศลให้แม่
ปราสาทนครวัด สร้างใน พ.ศ. 1650 เพื่ออุทิศถวายแก่พระวิษณุเทพ
ความเชื่อทางศาสนาของอาณาจักรขอม
ในช่วงพุทธศักราชที่ 500 ศาสนาพราหม์ที่ได้มีการนับถืออยู่ในประเทศอินเดีย ได้มีการเริ่มแผ่กระจายขยายอิทธิพลไปยังดินแดนกัมพูชา โดยเข้ามาตามเส้นทางของการค้าขาย และใน ช่วงเวลาไม่นานชาวกัมพูชาต่างก็ยอมรับศาสนาพราหมณ์ และศาสนาพราหมณ์จะมีความโดเด่นและรุ่งเรืองในกัมพูชาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 6-16 จากนั้นก็มีการสร้างปราสาทและรูปเคารพขึ้นมากมาย
ลัทธิเทวราชา
ลัทธิเทวราชา
คือ เป็นความเชื่อตามคติพราหมณ์หรือฮินดูที่ได้มีการยกย่องให้กษัตริย์เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนแห่งเทพเจ้าที่อวตารลงมาสู่โลกมนุษย์ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการสร้างเทวสถาน อีกทั้งยังมีความเชื่อกันอีกว่า หลังจากที่กษัตริย์สวรรคต ก็จะกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเทพเจ้า ส่วนวิญญาณก็จะประทับอยู่ในเทวสถานหรือปราสาท ด้วยความเชื่อนี้กษัตริย์ขอมที่มีความเชื่อศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย หลังจากที่ได้ขึ้นครองราชย์ก็ได้ทำการก่อสร้างเทวสถานขึ้นมาเพื่อประดิษฐานศิวลึงค์ เพราะถือว่าเป็นตัวแทนของพระศิวะ และยังเปรียบเสมือนเป็นทิพย์วิมานของเทพเจ้าที่อยู่บนโลกมนุษย์อีกด้วย
ในช่วงยุคแรกๆเทวสถานจะสร้างอยู่บนภูเขาหรือเนินเขาที่เป็นธรรมชาติ ในการบูชาศิวลึงค์ที่ได้ประดิษฐานอยู่บนยอดเขานั้น เปรียบเสมือนกับการที่ได้บูชาพระศิวะที่ซึ่งประทับอยู่บนยอดเขาไกรลาศแล้วยังอยู่บนเขาพระสุเมรุ ซึ่งถูกจัดไว้เป็นศูนย์กลางจักรวาล หลังจากนั้นจึงได้มีการปรับเปลี่ยนโดยการสร้างเทวสถานขึ้นมาใหม่ในบริเวณพื้นที่ราบใจกลางเมือง ซึ่งลักษณะในการก่อสร้างนั้นอาจสร้างภูเขาจำลองขึ้นมาแทน จากนั้นก็ได้ประดิษฐานศิวลึงค์ไว้ในปราสาทที่มีความสูงที่สุด หรือเรียกว่าปรางค์ประธาน ซึ่งกษัตริย์กษัตริย์ขอมได้ทำพิธีเซ่นไหว้บูชา โดยมีการรดน้ำลงที่ศิวลึงค์ ลักษณะของน้ำต้องไหลออกมาทางช่องโยนี แล้วผ่านท่อโสมสูตร ดังนั้นศิวลึงค์ได้ถือเป็นต้นกำเนิดของชีวิตและมีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะได้ตั้งอยู่บนภูเขาธรรมชาติหรืออาจอยู่ใจกลางเมือง เปรียบเสมือนกับแกนหรือศูนย์กลางของจักรวาลนั่นเอง
ปราสาทพนมบาแคง สร้างใน พ.ศ. 1450 เพื่อบูชาพระศิวะ
ปราสาทแปรรูป สร้างใน พ.ศ. 1504 เพื่อบูชาพระศิวะ พระวิษณุ และพระพรหม
ปราสาทบายน สร้างใน พ.ศ. 1720 เพื่อบูชาศาสนาพุทธนิกายมหายาน
ศาสนาพุทธในอาณาจักรดินแดนขอม
ศาสนาที่รุ่งเรืองในอาณาจักรขอมมี 2 ศาสนาคือ ศาสนาฮินดู และ ศาสนาพุทธ โดยศาสนาพุทธมีอยู่ 2 นิกาย คือหินยานและมหายาน
1.พระพุทธศาสนานิกายหินยาน จะให้ความนับถือพระพุทธเจ้าแล้วยังต้องยึดถือตามพุทธโอวาทอีกด้วย ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 นิกายหินยานมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากจนถึงปัจจุบัน
2.พระพุทธศาสนานิกายมหายาน ได้มีการผสมผสานควบคู่กับการนับถือเทพเจ้าฮินดู มีความเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้ทรงสร้างโลกนี้ขึ้นมา และยังได้มีการนับถือพระโพธิ์สัตว์ เพราะเคยเป็นอดีตชาติของพระพุทธเจ้า ทางด้านพระโพธิ์สัตว์ที่เคารพก็คือ พระโลกิเตศวร และพระอวโลติเกศวร ในช่วงสมัยพระนครเมืองพระนครถือได้ว่า พระพุทธศาสนามหายานเป็นที่นับถือกันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1
ซึ่งในแต่ละยุคแต่ละสมัย ศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู ได้ผลัดกันเจริญรุ่งเรือง เพราะอยู่ที่ว่ากษัตริย์ที่ขึ้นปกครองเลือกนับถือศาสนาไหนเป็นหลัก
รูปเคารพของพุทธศาสนานิกายมหายาน
พระโพธิ์สัตว์
หมายถึงปางก่อนๆของพระพุทธเจ้า ผู้ซึ่งมีความเป็นใหญ่ในโลกแต่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา อีกทั้งเป็นผู้มองลงมายังเบื้องล่างเต็มไปด้วยความเมตตา กรุณา และมีความปรารถนาที่จะช่วยเหลือมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ เมื่อครั้งก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ โดยเฉพาะในชาดกของพุทธศาสนานิกายมหายาน พระโพธิ์สัตว์มีจำนวนมากมาย ซึ่งทรงฤทธิ์อำนาจเพื่อจะต้องคอยปกปักรักษาให้ความคุ้มครอง ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่มีความเคารพนับถือในพุทธศาสนานิกายมหายาน และที่สำคัญที่สุดคือจะต้องนำพาผู้ที่มีความเคารพนับถือที่มีอยู่มากมายไปสู่ปรินิพพานพร้อมพระองค์ด้วย
พระโพธิ์สัตว์โลเกศวร
หมายถึงพระโพธิ์สัตว์ที่ได้ตรัสรู้แล้ว แต่ยังไม่ยอมไปนิพพานเพราะมีความปรารถนาที่จะรอให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนและสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
นางปรัชญาปารมิตา
หมายถึง เทวีแห่งความฉลาดเฉลียวของพุทธศาสนานิกายมหายานในขณะเดียวกันจะเรียกว่า เป็นมารดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลายด้วยกัน
ปราสาทนครวัด สร้างใน พ.ศ. 1650 เพื่ออุทิศถวายแก่พระวิษณุเทพ
พระวิษณุเทพที่ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทบันทายสรี
ปราสาทบันทายสำเหร่
นครธม ปราสาทนครธม