บริษัททัวร์ โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์
ทัวร์หุบเขาเทวดา







 
• ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
• ปราสาทนครวัด : สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
รูปปราสาทนครวัด
นครวัด
รูปนครวัด

ปราสาทนครวัด
• ปีที่สร้าง : พุทธศตวรรษที่ 17 (พ.ศ. 1650 – 1693)
• รัชสมัย : รัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2
• ศิลปะ : ศิลปะแบบนครวัด
• ศาสนา : ศาสนาฮินดู ไวษณพนิกาย
• ปราสาทนครวัด ก่อสร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในพุทธศตวรรษที่ 17 (พ.ศ. 1650 – 1693) จุดประสงค์เพื่อสร้างอุทิศถวายแก่พระวิษณุเทพในศาสนาฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์ และยังใช้เป็นราชสุสานเก็บพระศพของพระองค์ ด้วยเหตุนี้มหาปราสาทนครวัดจึงถูกสร้างให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ต่างจากปราสาทอื่นๆ ที่จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเสียเป็นส่วนใหญ่
• อาณาขอมโบราณนั้นได้รับอิทธิพลความเชื่อจากอินเดียผ่านมาทางขวา ศาสนาฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์นั้นยกย่องกษัตริย์ว่าเป็นเทพเจ้า เรียกว่า “ลัทธิเทวราชา” กษัตริย์คือตัวแทนของเทพเจ้าในโลกมนุษย์ ซึ่งมีการสร้างเทวสถานถวายให้ และเชื่อว่าเมื่อสวรรคตแล้ววิญญาณจะประทับอยู่ที่ปราสาท ซึ่งเป็นคติเทวราชาที่เชื่อว่ากษัตริย์คือเทวเจ้าอวตารลงมา
• ด้วยความเชื่อเช่นนี้เอง ที่ทำให้กษัตริย์ขอมเมื่อขึ้นครองราชย์ จึงตั้งหน้าตั้งตาสร้างปราสาทตลอดรัชกาลของแต่ละพระองค์ เป็นศาสนสถานสัญลักษณ์ของระบบสุริยะจักรวาลตามคติฮินดูหรือความหมายก็คือศูนย์กลางของโลกและจักรวาลนั่นเอง
• พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ทรงครองอาณาจักรขอมระหว่างปี พ.ศ. 1656 – 1693 รวม 37 ปี หลังสิ้นรัชกาลของพระองค์ กษัตริย์ขอมองค์ต่างๆ ที่ขึ้นครองราชย์ยังคงมีการก่อสร้างปราสาท แต่ไม่มีปราสาทใดเลยจะยิ่งใหญ่ไปกว่ามหาปราสาทนครวัดแห่งนี้
• นครวัดไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสูงส่งเลิศเลอในบรรดาปราสาทขอมทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองในตัวของมันเองด้วย นั่งคือมีฐานะเป็นทั้งเมืองหลวง และศาสนสถานประจำรัชกาลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ที่สร้างอุทิศถวายแก่พระวิษณุ
ส่วนนอกสุดของนครวัดกั้นด้วยคูเมืองขนาดใหญ่ ยาว 1.5 กิโลเมตร กว้าง 1.3 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 2 ตารางกิโลเมตร การวางผังของปราสาทที่ไม่เหมือนปราสาทอื่น สังเกตได้จากโคปุระทางทิศตะวันตกของกำแพงนอกสุดจะมีขนาดใหญ่ที่สุดและใหญ่กว่าโคปุระอีก 3 ทิศ
ตัวปราสาท
• ประกอบด้วยโครงสร้างหลักที่เด่นๆ ของสถาปัตยกรรมขอม 2 ส่วน คือ ปิรามิดปราสาทและระเบียงคติที่เชื่อมติดกัน ในส่วนของปิรามิดปราสาทสร้างยกระดับขึ้นสูง 3 ชั้น แต่ละชั้นแบ่งเป็นสัดส่วนด้วยระเบียงคต มีโคปุระอยู่ทั้งสี่ทิศหลักและศาลาที่มุมทั้งสี่มุม หรือปราสาทบริวารล้อมรอบของปรางค์ประธาน
• ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของนครวัด สัญลักษณ์ต่างๆที่แทนในสิ่งก่อสร้างทั้งหลายตามคติความเชื่อในศาสนาฮินดูก็ให้ภาพและความรู้สึกที่คล้ายจริง คูเมืองหมายถึงมหาสมุทรที่ล้อมรอบโลก ระเบียงคตที่เชื่อมกันล้มรอบปราสาท หมายถึงเทือกเขาน้อยใหญ่ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุที่ประทับของเทพเจ้า และตัวปราสาทชั้นบนสุดหรือปรางค์ประธานหมายถึงยอดเขาพระสุเมรุ การได้ขึ้นไปถึงปรางค์ประธานอันสูงชันก็เหมือนการจำลองการขึ้นเขาพระสุเมรุจริงๆ
• จุดเด่นที่สุดจุดหนึ่งของมหาปราสาทนครวัด นอกจากสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ คือภาพสลักบนผนังด้านในของระเบียงคตชั้นล่างของตัวปราสาทแม้เรื่องราวส่วนใหญ่จะมาจากมหากาพย์และคัมภีร์พระเวทของศาสนาฮินดู แต่ก็ไม่ลืมกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ผู้สร้างไว้ด้วยโดยสลักเป็นรูปกระบวนทัพของพระองค์ ส่วนหนึ่งในภาพสลักนี้มักเป็นที่สนใจหยุดชมของนักท่องเที่ยวเสมอ คือภาพกองทัพชาวสยาม ซึ่งปัจจุบันยังหาข้อสรุปแน่ชัดไม่ได้ว่าเป็นชาวสยามกลุ่มใด โดยมีลักษณะเด่นที่การแต่งกาย การเดินทัพที่ดูไม่เป็นแถว ไม่เป็นระเบียบ
ปราสาทชั้นนอก
• ทางดำเนินเข้าสู่มหาปราสาทนครวัดมี 5 ประตู ประตูใหญ่อยู่ตรงกลางสำหรับพระมหากษัตริย์ดำเนินเข้าสู่นครวัด ส่วนทางเข้าที่เล็กกว่าถัดออกไปสำหรับเสนาบดี และที่ไกลสุดอีกสองแห่งมีขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับประชาชนทั่วไปรวมทั้งสัตว์พาหนะ
• ภาพสลัก : ภาพสลักที่มหาปราสาทนครวัดนับเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของศิลปะขอม จนได้ชื่อว่าเป็นศิลปะยุคนครวัด ปรากฏอยู่ที่ผนังด้านในระเบียงคตชั้นนอกสุดของตัวปราสาท พื้นที่รวมของภาพสลักมีนาดใหญ่มาก ยาวเกือบ 600 เมตร เนื้อหาของภาพส่วนใหญ่มาจากคัมภีร์พระเวท และมหากาพย์ของสาสนาฮินดู
• การชมภาพแกะสลัก : การชมภาพสลักภาพที่ไม่ควรพลาดมี ภาพการรบที่ทุ่งกุรุเกษตรในมหาภารตะยุทธ ภาพขบวนทัพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ภาพการตัดสินความคดีและความชั่วของพญายม ภาพการกวนเกษียรสมุทร และยังมีภาพอื่นๆอีกมากมายหลายร้อยภาพให้ได้ชมกัน
ภาพการรบที่ทุ่งกุรุเกษตร
• เป็นเรื่องราวในมหาภารตยุทธ กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างพี่น้องสองตระกูล คือตระกูลปาณฑพ และเการพ ทั้งสองตระกูลยกทัพมารบกันขั้นแตกหักที่ทุ่งกุรุเกษตรทางตอนเหนือของอินเดีย ภาพสลักมีความยาว 49 เมตร เล่าเรื่องขณะสู้รบกัน ตระกูลเการพอยู่ทางด้านซ้ายและตระกูลปาณฑพอยู่ทางด้านขวา ขอบภาพทั้งสองด้านเป็นภาพของทหารแต่ละฝ่ายยืนเรียงแถวกันเป็นระเบียบ มีนายทหารบนรถม้าศึกและหลังช้างการรบถึงขั้นตะลุมบอนรุนแรงที่บริเวณที่บริเวณกลางภาพ มีตัวละครเด่นๆ คือ ภีษมะ แม่ทัพของฝ่ายเการพอรชุน แม่ทัพฝ่ายปาณฑพ และพระวิษณุ ที่อวตารลงมาเป็นพระกฤษณะ ซึ่งเป็นผู้ขับรถศึกให้อรชุน การรบดำเนินมาจนวันที่สิบ อรชุนก็สังหารภีษมะ จะเห็นภาพภีษมะนอนตายบนลูกธนูที่ถูกยิงทั่วทั้งตัว การรบสิ้นสุดลงในวันที่สิบแปด โดยตระกูลปาณฑพเป็นฝ่ายชนะและถือเป็นวันสิ้นสุดของยุค
ภาพขบวนทัพของพระเจ้าสุรยวรมันที่ 2
• นับเป็นภาพสลักที่ต่างจากทุกภาพ คือเป็นภาพจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ มีความยาวถึง 94 เมตร โดยแบ่งภาพออกได้เป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นช่วงที่ยังไม่จัดตั้งขบวนทัพ ส่วนที่สองเป็นภาพขบวนทัพ ในส่วนแรกนั้นแบ่งเป็นสองชั้น ชั้นบนเป็นภาพพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ประทับบนราชบัลลังก์ ล้อมรอบด้วยเหล่ารัฐมนตรี และแม่ทัพนายกองที่มาเฝ้า
• ชั้นล่างเป็นภาพขบวนของเจ้าหญิง พระธิดาบนเสลี่ยง เมื่อสิ้นสุดภาพในส่วนแรกก็เริ่มเป็นภาพขบวนทัพของทหารเดินเรียงไปตลอดแนว พร้อมกับแม่ทัพนายกองของแต่ละกองทัพบนหลังช้าง เกือบหน้าสุดของขบวนทัพเป็นกองทัพที่มีลักษณะแตกต่างจากทัพอื่นทหารมีใบหน้าที่โค้งมน สวมเสื้อลายดอก นุ่งผ้าคล้ายกระโปรง ชายผ้ายาว สวมหมวกทรงสูงเป็นชั้นๆ ที่ปลายมีภู่ยาว แม่ทัพอยู่บนหลังช้างเช่นกัน สันนิษฐานว่าเป็นทัพของชาวสยาม
นรก สวรรค์ การพิพากษาของพญายม (ระเบียงคตทิศใต้ ด้านทิศตะวันออก)
• ภาพสลักนี้นักโบราณคดีหลายท่านเชื่อว่าหลังจากที่พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เสด็จสวรรคตแล้ว ลักษณะของภาพแบ่งเป็นสองตอน แต่ละตอนแบ่งออกเป็นสองถึงสามชั้น ซึ่งชั้นบนจะเป็นบนโลก และสวรรค์ ชั้นล่างสุดเป็นรก ในตอนแรกซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายของภาพ เป็นภาพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เสด็จนำเหล่าข้าราชบริพารที่ดีขึ้นสวรรค์ พวกอสูรและคนไม่ดีตกนรก ในตอนที่สองชั้นกลางเป็นภาพพญายมสิบแปดมือนั่งพิพากษาความดี-ชั่ว ของคนตายบนหลังควายซึ่งเป็นสัตว์พาหนะ และภาพที่นับเป็นจุดเด่นของภาพสลักนี้คือภาพชั้นล่างของนรกขุมต่างๆ ที่มีการทรมารคนชั่วคนบาปตามคติขอมเชื่อว่านรกภูมิแบ่งเป็นชั้นถึง 32 ชั้น
ภาพกวนเกษียรสมุทร
• การกวนเกษียรสมุทรมีจุดประสงค์เพื่อผลิตน้ำอมฤต โดยใช้เวลาถึง 1,000 ปี น้ำอมฤตนั้นมีฤทธิ์ทำให้ผู้ที่ได้ดื่มกินเป็นอมตะ บางตำรากล่าวถึงสาเหตุของการกวนเกษียรสมุทรว่าเนื่องมาจากเทวดาและอสูรมักจะสู้รบ ยกทัพมาปราบอีกฝ่ายบ่อยครั้ง ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอยู่เรื่อยมา ฝ่ายเทวดาจึงไปขอคำปรึกษากับพระวิษณุว่า ทำอย่างไรจึงจะรบชนะเหล่าอสูรได้ตลอดทุกครั้งพระวิษณุจึงแนะนำเรื่องการกวนเกษียรสมุทรเพื่อผลิตน้ำอมฤต ซึ่งเป็นงานที่ใหญ่และต้องใช้พละกำลังมาก โดยใช้ภูเขามันทระเป็นแกนหมุน ใช้นาควาสุกรีแทนเชือกพันรอบเขามันทระแล้วแบ่งเป็นสองฝ่ายผลัดกันดึงสลับไป-มา เทวดาได้ยินดังนั้นก็ออกอุบายยืมแรงอสูรให้มาช่วยดึงนาคเพื่อกวนทะเลน้ำนม และให้สัญญาว่าจะแบ่งน้ำอมฤตที่ได้ให้ ฝ่ายอสูรเห็นดีก็ตอบตกลง จึงแบ่งด้านกันกวน ฝ่ายเทวดาอยู่ดึงนาควาสุกรีด้านหาง ฝ่ายอสูรให้ดึงด้านหัว
• การกวนครั้งนั้นใช้เวลานาน เขามันทระก็ค่อยๆ เจาะโลกลึกลงๆ พระวิษณุเป็นห่วงว่าโลกจะทะลุหรือแตกสลาย จึงได้อวตารเป็นเต่า (ปางกูรมาวตาร) เอากระดองรองรับเขามันทระไว้ (ซึ่งเป็นตอนที่ปรากฏบนฝาผนัง)
• จากขอบภาพด้านซ้ายจะเป็นภาพกองทัพเหล่าอสูรเตรียมตัวพร้อมรบ เพื่อแย่งน้ำอมฤตมาเป็นของตนฝ่ายเดียว ถัดไปจึงเป็นหัวแถวกวนเกษียรสมุทรด้านอสูร ตนแรกที่เป็นผู้ถือหัวนาควาสุกรีคือทศกัณฑ์ จากจุดนี้บ่งบอกได้ว่า ขอมโบราณได้รวมเอามหากาพย์รามายณะรวมกับคัมภีร์พระเวท ถัดไปเป็นแถวอสูรอีก 91 ตน ไปจนถึงกลางภาพ จะเห็นพระวิษณุสี่กร คอยควบคุมการกวนอยู่หน้าเขามันทระ ใต้เขามันทระเป็นเต่าเอากระดองรองเขา เหนือเขามันทระมีพระอินทร์คอยจับเขาให้ตรง ถัดไปด้านขวาเป็นแถวของเทวดา 88 องค์ ท้ายสุดผู้ถือหางคือหนุมาน ช่วงท้ายของภาพเป็นกองทัพของเหล่าเทวดาเตรียมตัวแย่งน้ำอมฤตจากอสูรเช่นเดียวกัน

รูปปราสาทนครวัด
รูปนครวัด
รูปพระวิษณุเทพ หรือพระนารายณ์
รูปนางอัปสรา
นางอัปสรา เที่ยวนครวัด
นางอัปสรา เที่ยวนครวัด
กวนกเษียรสมุทร
กวนกเษียรสมุทร
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัด
นางอัปสรา เที่ยวนครวัด
นางอัปสรา เที่ยวนครวัด
รูปนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด
รูปนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด
ภาพสลัก ปราสาทนครวัด
ภาพสลัก ปราสาทนครวัด
ภาพสลัก ปราสาทนครวัด
ภาพสลัก ปราสาทนครวัด
ภาพสลัก ปราสาทนครวัด
ภาพสลัก ปราสาทนครวัด
เขมร นครวัด ภาษาเขมร กัมพูชา
• ข้อมูลท่องเที่ยว เขมร นครวัด นครธม 
นครวัด เขมร นครวัด นครธม
• นครวัด เขมร นครวัด นครธม เก็บรูปท่องเที่ยวนครวัด นครธม เสียมเรียบ ดินแดนแห่งอารยะธรรมขอมโบราณ ความอลังการที่ยิ่งใหญ่จริงๆ อยากแนะนำว่าน่าจะลองไปเที่ยวดูกัน
ปราสาทบันทายสรี
• ปราสาทบันทายสรี ปราสาทแห่งนี้สร้างใน พ.ศ. 1510 ก่อสร้างด้วยหินทรายสีชมพู มีความงามทางด้านลวดลายเป็นเลิศ สร้างเพื่อบูชาพระศิวะ
นครวัด เที่ยวนครวัด
• นครวัด เที่ยวนครวัด ปราสาทนครวัด ก่อสร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 พ.ศ. 1650 – 1693 จุดประสงค์เพื่อสร้างอุทิศถวายแก่พระวิษณุเทพในศาสนาฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์
พนมกุเลน ปราสาทพนมกุเลน
• พนมกุเลน ปราสาทพนมกุเลน ต้นกำเนิดของแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งปราสาทหินที่มีอายุพันกว่าปี สร้างก่อนนครวัด ชม ศิวลึงค์ใต้น้ำ ฐานโยนีใต้น้ำ จำนวนมาก และ รูปพระนารายณ์ใต้น้ำ
นครธม ปราสาทนครธม
• นครธม ปราสาทนครธม สร้างในปีพุทธศตวรรษที่ 18 รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พ.ศ. 1720-1780 เป็นช่วงเวลาที่อาณาจักรขอมโบราณมั่งคั่งและรุ่งเรืองที่สุด
ระบำอัปสรา ช้อปปิ้งของฝากเขมร
• ระบำอัปสรา ช้อปปิ้งของฝากเขมร ระบำอัปสรา ศิลปะแห่งเขมร แนะนำแหล่งช้อปปิ้งของฝากของที่ระลึกที่ ตลาดปซาจ๊ะ (PSA JA MARKET)
ปราสาทตาพรหม
• ปราสาทตาพรหม สร้างในปลายปีพุทธศตวรรษที่ 18 (พ.ศ. 1729) รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปราสาทตาพรหม จัดได้ว่าเป็นวัดในพุทธศาสนา
ภาษาเขมร ภาษากัมพูชา
• ภาษาเขมร ภาษากัมพูชา สวัสดี ซัวซไดย, ขอบคุณ ออกุน, ลาก่อน เรียนซันเฮย, ห้องน้ำ ต๊บตึ๊ก, อร่อย ชงัล, ขอให้มีสุขภาพดี สุขะเพียบละออ
• ข้อมูลท่องเที่ยวกัมพูชา
ทัวร์โปรโมชั่น

สอบถามทัวร์ทาง Line
• บริษัท โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์ จำกัด
23/121 ซอยนวมินทร์ 161 แยก1-4  ถนนนวมินทร์  แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม  กรุงเทพฯ  10230
โทร. 0-2969 3664, 02-949 5134-36  (ใบอนุญาตนำเที่ยวเลขที่ 11/5028)

• ID LINE : @oceansmiletour
• คุณเล็ก โทร.082-3656241
• ID Line : lekocean2
• คุณโจ้ โทร.093-6468915
• ID Line : oceansmile
• รับทำกรุ๊ปเหมา เที่ยวส่วนตัว ดูงาน
• ประเทศจีน (ทุกเมือง) อินเดีย (ทุกเมือง)
• เนปาล ภูฏาน บาหลี ศรีลังกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า
• โปรแกรมทัวร์
ทัวร์อู่ฮั่น หุบเขาเทวดา • WUHAN541 : อู่ฮั่น หุบเขาเทวดาวั่งเซียนกู่ ยุทธการผาแดง ล่องเรืออู้หลี่โจว หมู่บ้านหวงหลิ่ง พระใหญ่ตงหลิง (FD)
• วันที่ 17 – 21 พฤศจิกายน 2566
• วันที่ 24 - 28 พฤศจิกายน 2566
ทัวร์แชงกรีล่า • TG-651 : คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า วัดซงจ้านหลิง ภูเขาหิมะมังกรหยก เมืองโบราณลี่เจียง
• วันที่ 3 - 8 ธันวาคม 2566 (เปิดจอง)
• วันที่ 30 ธันวาคม - 4 มกราคม (เปิดจอง)
ทัวร์ซีอาน
ทัวร์ซีอาน
ทัวร์ทิเบต รถไฟหลังคาโลก • TIBET51 : ทิเบต ลาซา วังโปตาลา รถไฟหลังคาโลก ซีหนิง หลานโจว ซีอาน โชว์เส้นทางสายไหม (TG)
• วันที่ 3 - 10 ธันวาคม 2566
ทัวร์หุบเขาเทวดา • WUHAN659 : อู่ฮั่น จิ่วเจียง วัดตงหลิง หมู่บ้านหวงหลิ่ง หุบเขาเทวดาวั่งเซียนกู่ ภูเขาหลิงซาน ยุทธการผาแดง
• วันที่ 8 - 13 ธันวาคม 2566
• วันที่ 22 - 27 กุมภาพันธ์ 2567
ทัวร์พุทธคยา • INDIA-545 : พุทธคยา ราชคฤห์ นาลันทา พาราณสี คงคาอารตี สารนาท (บินตรงพุทธคยา 5 วัน B3)
• วันที่ 30 ธันวาคม - 3 มกราคม 2567
ทัวร์ฮาร์บิ้น • Habin659 : ฮาร์บิ้น เทศกาลแกะสลักน้ำแข็ง หมู่บ้านหิมะ SNOW TOWN เขาแกะหญ้า Yabuli Village
• วันที่ 30 ธันวาคม - 4 มกราคม 2567
• วันที่ 18 - 23 มกราคม 2567
ทัวร์อินเดีย • INDIA-877 : ทัวร์อินเดีย เนปาล พุทธคยา ราชคฤห์ กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี พารานสี (บินตรงพุทธคยา WE)
• วันที่ 30 ธันวาคม - 6 มกราคม 2567
• วันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2567
ทัวร์ถ้ำอชันต้า • INDIA-503 : ทัวร์ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า ไหว้พระพิฆเนศ ออรังกาบัด ถ้ำช้าง ถ้ำกัณเหรี มุมไบ
• วันที่ 7 - 12 ธันวาคม 2566
ทัวร์พุทธคยา • INDIA-879 : อินเดีย เนปาล พุทธคยา ราชคฤห์ กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี แม่น้ำคงคา พารานสี (บินตรงพุทธคยา B3)
• วันที่ 30 ธันวาคม - 6 มกราคม 2567
ทัวร์ถ้ำอชันตา ไหว้พระพิฆเนศ • INDIA-745 : เดลี ทัชมาฮาล อัคราฟอร์ท ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า ออรังกาบัด มุมไบ ไหว้พระพิฆเนศ
• วันที่ 21 - 27 กุมภาพันธ์ 2567
• วันที่ 3 - 9 เมษายน 2567
ทัวร์เนปาล • NEPAL545 : เนปาล กาฐมาณฑุ เมืองโปขรา เมืองปาทัน เมืองปักตะปูร์ ธุลิเขล สถูปสวะยัมภูนาถ ล่องเรือทะเลสาบเฟวา เจดีย์โพธินาถ เข้าวังขอพรกุมารี
• กรุ๊ปส่วนตัว 8 ท่านเดินทางได้ทุกวัน
ทัวร์นครวัด • KHM-1 : ปราสาทนครวัด นครธม พนมกุเลน ปราสาทตาพรหม ปราสาทบันทายสรี ล่องเรือโตนเลสาบ
• กรุ๊ปส่วนตัว 2 ท่านเดินทางได้ทุกวัน
น้ำตกเต๋อเทียน