แม่น้ำหวงเหอ แม่น้ำเหลือง อนุสาวรีย์แม่น้ำเหลือง : มาตุธารแห่งประชาชาติจีน
สะพานแห่งแรกแม่น้ำเหลือง หรือ
สะพานเหล็กจงซาน หวงเหอตี้อิ๊เฉียว แปลว่า สะพานแห่งแรกแม่น้ำเหลือง
เป็นสะพานข้ามแม่น้ำหวงเหอ แรกสร้างตั้งแต่ราชวงศ์หมิ
ปี ค.ศ. 1372 โดยซ่งกั๋วกง(เทียบตำแหน่งเจ้าพระยา) นามเฝิงเสิ้ง
อยู่ห่างจากตัวเมืองหลานโจวสมัยนั้น ไปทางทิศตะวันตก เป็นสะพานแบบพาดบนเรือที่ร้อยติดกันด้วยเชือกและโซ่
หรือสะพานแบบลอยน้ำนั่นเอง ต่อมาในปี ค.ศ. 1376 เว่ยกั๋วกง
นามเติ้งอวี้ ได้ย้ายตัวสะพานออกไปอีก กลายเป็นห่างจากตัวเมืองหลานโจวไปทางทิศตะวันตก
จึงตั้งชื่อสะพานว่า เจิ้นเหวี่ยนเฉียว
ครั้นถึงปี ค.ศ. 1385 แม่ทัพแห่งเมืองหลานโจวนามว่า
หยางเหลียน ได้ย้ายสะพานลอยน้ำ มาอยู่ในที่ตั้งสะพานปัจจุบัน
ซึ่งปัจจุบัน เวลานี้ ก็ยังเหลือเสาสะพานลอยน้ำเหล็กหล่อยาว
5.8 เมตร จำนวน 3 ต้น น้ำหนัก 10 ตันเป็นอนุสรณ์
ปี ค.ศ. 1907 รัฐบาลชิงในสมัยนั้น พร้อมกับความเห็นชอบของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ประจำท้องถิ่น
และความช่วยเหลือของพ่อค้าชาวเยอรมัน ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือทางเทคนิคจากเยอรมันและอเมริกา
รัฐบาลชิงได้ใช้งบประมาณเป็นเงินกว่าสามแสนตำลึง สร้างสะพานเหล็กเส้นแรกของแม่น้ำเหลืองหรือหวงเหอ
โดยสะพานมีความยาว 233.33 เมตร กว้าง 7.5 เมตร
ต่อมาในปี ค.ศ. 1942 เปลี่ยนชื่อสะพาน เป็นสะพาน จงซานเฉียว
เพื่อเป็นการระลึกถึ ง ดร.ซุนยัตเซ็น บิดาแห่งจีนใหม่
แพหนังแกะแห่งแม่น้ำหวงเหอ
การข้ามแม่น้ำนี้ในสมัยก่อน จะใช้หนังแกะทั้งตัวมาตัดหัวและเท้าออก
จากนั้นแล่เนื้อ กระดูกแลและโกนขนออกหมดแล้วมัดเท้าทั้ง
3 ข้าง คงเหลือไว้ 1 ข้าง เพื่อใช้เป่าลม จากนั้นผูกเชือกตรงบริเวณที่มีรูทุกแห่ง
เว้นขาหน้าไว้ที่เดียวเอาไว้เป่าลมเข้าไป เมื่อเป่าลมเข้าได้ที่แล้ว
หนังแกะจะพองเหมือบลูกบอลลูน แล้ว นำมายึดติดกับไม้ไผ่
โดยเว้นระยะห่างให้พอดีเพื่อทำเป็น แพหนังแกะ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
แพลูกบวบ
แพขนาดเล็กอาจต้องใช้หนังแกะราว 12-13 ตัว แต่ถ้าเป็นแพขนาดใหญ่ต้องใช้หนังแกะมากกว่าเป็นจำนวนเท่าตัว
ซึ่งนอกจากใช้ข้ามฟากแม่น้ำเหลืองแล้ว ในสมัยก่อน ยังใช้แพหนังแกะในการสัญจรตามแม่น้ำเหลืองอีกด้วย
ซึ่งการล่องแพหนังแกะสามารถไปได้วันหนึ่งถึง 200 กิโลเมตร
แต่ข้อเสียคือ แม่น้ำหวงเหอ หรือแม่น้ำเหลือง ไหลไปไม่ไหลกลับ
หากไปส่งผู้โดยสารไกลออกไปถึงสองร้อยกิโลเมตร เจ้าของแพอาจต้องใช้เวลาแรมเดือน
กว่าจะนำแพกลับสู่บ้านเดิมได้
อนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง หวงเหอหมู่ชิน มารดาแม่น้ำเหลือง
เป็นผลงานของศิลปินหญิงชาวจีน ชื่อ เหอเอ้อ ตั้งอยู่ช่วงกลางถนนปินเหอลู่
สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1986 ประติมากรรมนี้ สลักจากหินแกรนิต
มีความยาว 6 เมตร กว้าง 2.2 เมตร และสูง 2.6 เมตร มีน้ำหนักกวา
60 ตัน เป็นรูปสลักที่เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของชนชาวจีน
ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรูปหนึ่ง
อนุสาวรีย์เป็นรูปนอนตะแคง ศอกดันศรีษะขันมองลูกน้อยที่นอนอิงแอบอยู่ข้างๆ
มารดาสายตาที่นางมองดูลูกน้อยนั้น เป็นแววตาที่ช่างอบอุ่นด้วยความรักเป็นที่สุดรูปปั้นนี้เปรียบเสมือนแม่น้ำหวงเหอ
เป็นมารดาที่หล่อเลี้ยงมวลประชาชาวจีนหลายร้อยล้านคนที่ประดุจดังหนึ่งเป็นบุตรน้อยของนางมายาวนานกว่า
4,000 ปี ต้นธารแห่งประวัติศาสตร์ชาติจีน ที่มีความผูกพันกับสายน้ำหวงเหออย่างลึกซึ้ง
มิแห่งแต่ปฐมกษัตริย์ในยุคตอนต้น ทรงเกรงต่ออิทธานุภาพของลำน้ำหวงเหอ
ในตอนกลางของมณฑลชิงไห่ ตาน้ำไหลเป็นสายธารน้อยๆลงสู่ทะเลซิงซู่ไห่
หรือทะเลประดับดาว อันเป็นบึงเล็กบึงน้อยนับร้อยแห่ง แล้วไหลลงสู่ทะเลสาบใหญ่
2 แห่ง ที่อยู่เรียง เคียงกันคือ เอ๋อหลิงหูและจาหลิงหู
ที่จุดกำเนิด ที่ชาวทิเบตเรียกขานหวงเหอว่า หม่าซิว
แปลงว่า แม่น้ำที่สวยที่สุดในโลก
แม่น้ำฮวงโห แม่น้ำเหลือง แม่ของลูกหลานชาวจีน
แม่น้ำหวง, หวงเหอ หรือ ฮวงโห
(Huang he) แปลว่า แม่น้ำเหลือง เป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับสองของประเทศจีน
รองจากแม่น้ำแยงซี มีความยาว 5,464 กิโลเมตร สูงเหนือระดับน้ำทะเล
ถึง 4,500 เมตร พัดเอาตะกอนดินเหลือ หรือ เลิศ(Loess)
จากที่ราบสูงลงมามหาศาล ถึงปีละ 1,600 ล้านตัน จำทำให้อันเป็นที่มาของสมญานาม
แม่น้ำเหลือง ไหลจากฝั่งตะวันตกมาทางตะวันออก ผ่านมณฑล
ชิงไห่ เสฉวน กานซู หนิงเซี่ย มองโกเลียใน ซานซี เหอหนาน
และซานตง ออกสู่ทะเลโป๋ (โป๋ไห่) มณฑลซันตง ซึ่งเป็นทะเลในอ่าวทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน
แม่น้ำหวงเหอเป็นเสมือน แม่ ของลูกหลานชาวจีน ผู้ให้ชีวิต
ผู้สร้างจิตวิญญาณ สั่งสมอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของชาวจีน
เนื่องจากตอนกลางของสายน้ำไหลเข้าสู่เขตที่ราบสูงที่ เป็นดินเหลือง
ประกอบกับแม่น้ำสาขาหลายสายยังเต็มไปด้วยดินเลนและดินทรายจำนวนมาก
นับเป็นสายน้ำที่มีปริมาณของเลนและทรายจำนวนมากที่สุดในโลก
เฉลี่ย 37 กิโลกรัม / ลูกบาศก์เมตร จนมีคำกล่าวว่า 'น้ำ(จากแม่น้ำเหลือง)
1 ชาม เป็นเลนอยู่เสียครึ่งชาม' ด้วยพลังมหาศาลของมาตุธารผู้ยิ่งใหญ่
หวงเหอยังบันดาลที่ราบลุ่มกว้างขวางกว่า 7.5 แสนตารางกิโลเมตร
สำหรับทำการเกษตรเลี้ยงปากเลี้ยงท้องประชาชาติจึนหลายร้อยล้านคนใน
9 มณฑล จนมีคำกล่าวว่า ใครควบคุมหวงเหอ คนนั้นครอบครองจีน
แม่น้ำหวงเหอหรือแม่น้ำวิปโยค แต่ด้วยความเกรี้ยวกราดในบางเวลา
มาตุธารสายนี้จึงมีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ ในแต่ละปี
สายน้ำหวงเหอตอนกลางจะพัดพาโคลนเลนและทรายลงสู่สายน้ำตอนปลาย
คาดว่ามีปริมาณเลนและทรายสูงถึง 400 ล้านตัน/ปีใต้ก้นแม่น้ำเหลืองตอนล่าง
นานวันเข้าทำให้ลำน้ำตื้นเขิน น้ำเอ่อล้นตลิ่งและทลายเขื่อนกั้นน้ำจนเกิดอุทกภัยร้ายแรงหลายครั้ง
ซึ่งอุทกภัยที่ร้ายแรงที่สุดลุกลามไปถึงนครเทียนจินทางทิศเหนือ
ส่วนทางใต้น้ำเคยท่วมไปถึงมณฑลเจียงซูและอันฮุย รวมพื้นที่เสียหายกว้างขวางถึง
250,000 ตร.กม. ชาวจีนจึงเหมือนลูกที่ทั้งรักและกลัวแม่
แม่น้ำเหลืองกำเนิดขึ้นจากร่องน้ำสามสาย ได้แก่ ข่ายื่อชีว์
เยียว์กู่จงเลี่ยฉีว์ และจาชีว์ บริเวณเชิงเขาทางทิศเหนือของเทือกเขาปาเหยียนคาลาซัน
ณ ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 5,400 เมตร ที่ซึ่งล้อมรอบด้วยยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปีทั่วทั้งสี่ทิศ
หวงเหอ ไหลไปไม่ไหลกลับ
หวงเหอช่วงต้นน้ำเป็นช่วงที่มีเส้นทางการไหลคดเคี้ยวมากที่สุด
เริ่มตั้งแต่บึงน้ำซิงซู่ไห่ ในมณฑลชิงไห่ ที่ซึ่งเป็นแหล่งรวมน้ำจากทะเลสาบเล็กๆจำนวนมาก
เมื่อไหลออกจากบึงน้ำซิงซู่ไห่ก็ไหลเข้าสู่ทะเลสาบเอ้อหลิงหู
และจาหลิงหู จนไหลเรื่อยมาถึงเมืองหม่าตัว อ้อมภูเขาจีสือซัน
และเทือกเขาซีชิงซัน มาทะลุผ่านหุบเขาหลงหยังเสีย และมาออกที่เมืองกุ้ยเต๋อของมณฑลชิงไห่
หลังจากนั้นไหลเข้าสู่ดินแดนอดีตมณฑลสุยหย่วน และกันซู่
น้ำในบริเวณต้นน้ำที่ไหลจากมณฑลชิงไห่ผ่านเข้ามาในมณฑลกันซู่บริเวณที่เป็นหุบเขาและหน้าผาจำนวนมากยังใสบริสุทธิ์และไม่เป็นสีเหลือง
ต่อเมื่อไหลเข้าสู่ช่วงตอนกลางของสายน้ำซึ่งเริ่มตั้งแต่ในเขตมองโกเลียในจนถึงมณฑลเหอหนัน
สายน้ำได้หักตัวไหลลงทิศใต้ทะยานเข้าสู่ ที่ราบสูงดินเหลือง
ผ่านที่ลาดชันและเพิ่มความแรงขึ้นจนตกจากหน้าผากลายเป็นน้ำตกหูโขว่
น้ำจึงเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเพราะตะกอนดินทรายและเลนจากที่ราบสูงดังกล่าว
สายน้ำบริเวณตั้งแต่เมืองเมิ่งจิน ในมณฑลเหอหนันเรื่อยมาจนถึงมณฑลซันตงเป็นช่วงที่ไหลราบเรียบที่สุด
ไหลผ่านบริเวณที่เป็นโตรกผาซันเหมินเสียและที่ราบภาคเหนือของจีน
ที่หวงเหอช่วงปลายน้ำนี้เองเป็นจุดที่เธอจะกระโจนลงสู่ห้วงทะเลลึกที่บริเวณ
เกือบเหนือสุดของอ่าวไหลโจว ในมณฑลซันตง
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำหวงเหอ อารยธรรมจีน
แม่น้ำเหลืองนับเป็นอู่อารยธรรมอันทรงคุณค่าแห่ง หนึ่งบนแผ่นดินใหญ่
มีหลักฐานการขุดพบซากฟอสซิลที่ระบุว่า มีมนุษย์วานรอายุ
5-6 แสนปีก่อนในยุคดึกดำบรรพ์อาศัยอยู่ เรียก มนุษย์วานรหลันเถียน
หรือ มนุษย์วานรที่เป็นบรรพบุรุษของชนชาติจีนที่อาศัยอยู่ในอำเภอหลันเถียนของมณฑลส่านซี
และเนื่องจากบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเหลืองเป็นแหล่งที่ดินดี
และอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุสำคัญต่อพืชจึงเหมาะแก่การเพาะปลูก
กอปรกับสภาพอากาศอบอุ่นชุ่มชื้นเหมาะแก่การตั้งบ้านสร้างเมือง
ถิ่นนี้จึงเป็นแหล่งที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางประเพณีวัฒนธรรม
เช่น บริเวณสายน้ำตอนกลางและตอนปลายเป็นแหล่งกำเนิด 'วัฒนธรรมหยั่งเสา'
ที่มีอายุเก่าแก่ราว 3,000 - 5,000 ปี
ทั้งนี้ ตามหลักฐานที่มีการค้นพบซากโบราณสถานและเครื่องเคลือบสีโดยเฉพาะเครื่องเคลือบสีแดงซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
'วัฒนธรรมเครื่องเคลือบสี' กระจายอยู่ในอาณาบริเวณมณฑลเหอหนัน
ซันซี ส่านซี กันซู่ ชิงไห่ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการขุดพบเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินและกระดูกสัตว์อีกด้วย
ริมฝั่งแม่น้ำเหลืองยังเป็นแหล่งตั้งเมืองหลวงของราชวงศ์ต่างๆในประวัติศาสตร์จีน
เช่น นครอันหยัง นครฉางอัน(ซีอัน) นครลั่วหยัง เสียนหยัง
และไคเฟิง
อารยธรรมจีน ในบริเวณลุ่มแม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำเหลืองทางตอนเหนือของประเทศจีน
เป็นดินแดนที่มีการอาศัยอยู่รวมกัน และประกอบอาชีพเกษตรกรรมคือการเลี้ยงไหม
การทอผ้าไหม การทำภาชนะสำริด