ถูกใจหน้านี้ กด "ถูกใจ"
แชร์ข้อมูลให้เพื่อนๆด้วยนะครับ... |
|
|
|
ปักกิ่ง |
สนามกีฬาโอลิมปิก |
สนามกีฬารังนก ปักกิ่ง |
กรุงปักกิ่ง |
สนามกีฬาโอลิมปิก
ปักกิ่ง |
|
ราตรีที่ปักกิ่ง
ประเทศจีน |
|
ราตรีที่ปักกิ่ง |
ช้อปปิ้งถนนหวังฟูจิ่ง |
ถนนหวังฟูจิ่ง ปักกิ่ง |
ถนนหวังฟูจิ่ง |
วัดลามะยงเหอกง |
วัดลามะยงเหอกง ปักกิ่ง |
พระราชวังต้องห้ามกู้กง |
พระราชวังต้องห้ามกู้กง |
ท่องเที่ยวปักกิ่ง
วัดลามะหย่งเหอกง |
|
พระราชวังต้องห้ามกู้กง
แหล่งท่องเที่ยวปักกิ่ง |
|
จัตุรัสเทียนอันเหมิน
ปักกิ่ง |
|
ท่องเที่ยวปักกิ่ง
พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน |
|
รู้จักกรุงปักกิ่ง
ปัจจุบันปักกิ่งมีประชากรทั้งสิ้นราว 11 ล้านคน โดยที่
7 ล้านคนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นแออัดในเขตตัวเมือง ทำให้ปักกิ่งกลายเป็นมหานครที่ใหญ่เป็นอันดับ
12 ของโลก รายได้ต่อคนของชาวปักกิ่งเฉลี่ยเดือนละ 4,000
บาท ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 40 บาท เป็นเมืองหลวงที่มีรถจักรยานมากที่สุดในโลกคือประมาณ
8 ล้านคัน รถยนต์กว่า 1 ล้านคัน รถแท๊กซี่ประมาณ 80,000
คัน(มีมากยิ่งกว่าเมืองใดในโลก) ช่วงกลางคืนจะคิดค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากมิเตอร์อีกร้อยละ
20
วัด วัง และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีขอทานมากขึ้นๆ (สมัยคอมมิวนิสต์ปกครองอยูนั้นไม่มีเลย)
พวกเขาเป็นชาวชนบทที่หลบหนีเข้ามาหางานทำในเมือง เพราะต้องการรายได้เพิ่ม
ส่วนใหญ่ต้องร่อนเร่อยู่ตามริมถนน หางานทำสารพัดอาชีพที่ได้เงินค่าจ้าง
เนื่องจากปักกิ่งเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดในประเทศ
ค่าครองชีพจึงสูงมาก
ปักกิ่งมีชนชั้นกลางเป็นปัญญาชนกับนักธุรกิจเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างรวดเร็ว
มีเศรษฐีเกิดขึ้นอยู่ไม่ขาดสาย ชาวปักกิ่งมองโลกในแง่ดี
มีความพึงพอใจกับสภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่ายุคคอมมิวนิสต์ที่เคร่งครัดในอดีต
และยังมองอนาคตข้างหน้าด้วยความหวัง ทำให้ปักกิ่งเป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยความกระฉับกระเฉง
มุ่งมั่น และวาดหวังจะสร้างอนาคตที่สดใสเรืองรอง
ปักกิ่ง เดิมมีชื่อว่า เป่ยผิง (Beiping) หมายถึง
สันติภาพแห่งทิศเหนือ ต่อมาเปลี่ยนเป็น เป่ยจิง (Beijing)
แต่คนไทยสะดวกเรียกว่าปักกิ่งมากกว่าชื่ออื่นๆ
เป่ยจิง แปลว่า เมืองหลวงแห่งทิศเหนือ ซึ่งตรงกับตำแหน่งที่ตั้งของเมือง
เมื่อราว 3,000 ปีมาแล้วปักกิ่งเคยเป็นเมืองสำคัญทางการค้าของชาวมองโกล
เกาหลี จีนภาคกลาง และมณฑลชานตง เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเหงียนเมื่อ
2,500 ปี มาแล้ว รวมทั้งยังเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ต่างๆ
ดังนี้
1.ราชวงศ์เหลียว (ค.ศ. 907 1125)
2.ราชวงศ์จิน (ค.ศ. 1115 1234)
3.ราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1279 1368)
4.ราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 1644)
5.ราชวงศ์ชิง (ค.ศ.1644 1911)
ต่อมามีการปฏิวัติล้มล้างระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เมื่อปี
ค.ศ. 1949 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รับชัยชนะ ประกาศก่อตั้งรัฐบาลและให้กรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ
ปัจจุบันกรุงปักกิ่งมีฐานะเป็นเขตปกครองพิเศษ เรียกว่า
มหานคร ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง มีพื้นที่ทั้งหมด 16,800
ตารางกิโลเมตร เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอันเป็นองค์กรสูงสุดของประเทศรัฐบาลกลาง
หน่วยงานบริหารระดับสูง องค์กรนานาชาติ สถานทูตต่างๆ
ปักกิ่งแบ่งเป็น 6 เขตคือ ตะวันออก ตะวันตก เชี่ยนอู่
เฉาหยาง ฉงเหวิน และไห่เตี้ยน
ความน่าสนใจของปักกิ่งคือ เนื้อแท้ที่แตกต่าง แม้ว่ามองจากภายนอกอาจเห็นได้ว่าปักกิ่งยอมรับวัฒนธรรมของตะวันตก
มีนโยบายต่างประเทศและธุรกิจแบบตลาดเสรี ชื่นชอบสินค้านำเข้าต่างๆ
เช่น ฟาสต์ฟู้ด รถยนต์ ภาพยนตร์ เสื้อผ้า แฟชั่น โทรศัพท์มือถือ
เครื่องสำอางและคอมพิวเตอร์ สักแค่ไหน แต่เนื้อในของปักกิ่งก็ยังคงความเป็นจีน
มีวิถีแบบจีนแฝงเร้นอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ทำการปรับปรุงฟื้นฟูกรุงปักกิ่งด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับมาจากรัสเซีย
มีการเวนคืนบ้านเรือน ทุบกำแพงเมืองเก่าเพื่อตัดขยายถนนอย่างมากมาย
จนทำให้ตัวเมืองถูกแบ่งออกคล้ายตารางสี่เหลี่ยม มีการก่อสร้างอนุสรณ์สถาน
ตึกสูงระฟ้า ช้อปปิ้งมอลล์ อาคารสำนักงาน อพาร์ทเมนต์ทันสมัย
และสถานทูตประเทศต่างๆ ในขณะที่อีกด้านหนึ่งยังคงดำรงสภาพบ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆ
แคบๆ มุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีเทา เรียกว่า ผิงฝาง ให้กลิ่นอายวัฒนธรรมของเมืองอันเก่าแก่เอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ปักกิ่งในปัจจุบันมีโฉมหน้าของความทันสมัยที่ยังคงเสน่ห์ดั้งเดิมเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม
ถนนหนทางมีเอกลักษณ์ของความเป็นจีนปรากฎให้เห็น บ้านเรือนสร้างล้อมลานบ้านเปิดโล่งในตรอกซอยแคบๆ
ที่เรียกกันว่า หูท่ง (Hutong) ซึ่งมองดูแล้วไม่ต่างไปจากบ้านในสมัยราชวงศ์ชิงเลย
ย่านหูท่งและย่านการค้า ไม่ว่าจะอยู่ในตัวเมืองซีกตะวันออกหรือตะวันตกต่างก็มีชีวิตชีวาและคึกคักจอแจเป็นที่สุด
ตามขั้นบันไดหน้าร้านทำผมหรือบูติกแบบยุโรป ก็มีซินแสผู้อาวุโสนั่งตั้งโต๊ะดูดวง
มีพ่อค้าขายผลไม้ตามทางเท้า และข้างหน้าประตูร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด
เช่น แมคโดนัลด์หรือเคนตั๊กกี้ ก็มีแม่ค้าเดินเร่ขายมันเผาและเกาลัดกันอย่างขวักไขว่
ปักกิ่ง หรือเป่ยจิงมีฐานะเป็นเมืองหลวงของจีนยุคใหม่
เป็นศูนย์รวมความเป็นจีนในทุกๆ ด้าน ที่มีมรดกของฮ่องเต้จากยุคราชวงศ์ต่างๆ
ตกทอดกันมามากมายอยู่เหลือคณานับ เมืองต้องห้าม (Forbidden
City) ที่เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิองค์ต่างๆ ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี
กำแพงเมืองจีนยาวหมื่นลี้ ช่วงที่ซ่อมแซมให้มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดก็อยู่ทางเหนือไปไม่ไกล
หลังระบอบกษัตริย์ล่มสลาย ปักกิ่งทำหน้าที่สืบทอดประวัติศาสตร์
ทั้งช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมก็ยังรับภาระในการปกปักรักษาศิลปะนานาชนิดเอาไว้
ทรัพย์สมบัติที่สั่งสมไว้ถูกนำมาเปิดเผยต่อสายตาของชาวโลก
ในฐานะเมืองหลวงเศษเสี้ยวสุดท้ายของจีนยุคโบราณ
เมืองหลวงแห่งนี้มิได้มีเพียงงิ้วปักกิ่งให้ชม มีเป็ดปักกิ่งต้นตำรับให้ลิ้มลอง
หรือกายกรรมอันโด่งดังไปทั่วโลกให้สัมผัสกับตา แต่ยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่
รถไฟฟ้าใต้ดิน อาหารฝรั่งเศส อาหารญี่ปุ่น รวมไปถึงสปอร์ตบาร์ให้นั่งชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลหรือบาสเก็ตบอลอาชีพจากสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ชาวต่างชาติคุ้นเคยกับอาหารจีน (ที่หารับประทานได้ง่ายเพราะมีร้านอาหารจีนอยู่ทั่วโลกเกือบทุกประเทศ)
มากกว่าภาษาจีนที่คนทั้งประเทศพูดเขียนกันอยู่โดยทั่วไป
โดยไม่ใช้ภาษาอื่นๆ เลย ซึ่งก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่รู้ภาษาจีน
ประเทศจีนมีภาษาท้องถิ่นหลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่
ชาวปักกิ่งพูดภาษาถิ่น ซึ่งมีความใกล้เคียงกับภาษาผู่ทงฮั่ว
หรือแมนดาริน ที่ทางราชการกำหนดให้เป็นภาราชการ
อาหารปักกิ่งก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจากอาหารจีนทั่วไป
มีรสชาติแบบอาหารจีนภาคเหนือ ซึ่งไม่เหมือนอาหารจีนแมนดารินตามร้านอาหารจีนในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
ไม่เหมือนอาหารกวางตุ้ง เสฉวน และเซี่ยงไฮ้ในเอเซีย
รูปลักษณ์ของเมืองที่เปลี่ยนไปเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ภายในเวลาแค่เพียงหนึ่งชั่วคน ปักกิ่งก็พุ่งทะยานจากก้นเหวแห่งความยากจนและด้อยความเจริญ
ขึ้นมาเป็นศูนย์กลางด้านการปกครองของตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เป็นผลสำเร็จ
ปักกิ่งเป็นหนึ่งในเมืองไม่กี่แห่งของจีนที่ได้ติดต่อสัมพันธ์กับโลกภายนอก
เป็นที่ตั้งของสถานทูตต่างชาติมาแต่ครั้งอดีต ปักกิ่งได้ต้อนรับนักการทูต
นักปราชญ์ ผู้เชี่ยวชาญ ศิลปิน นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าเมืองใดๆ
ในจีน
ปัจจุบันมีชาวปักกิ่งกว่า 100,000 คน ที่เกิดในต่างประเทศ
และส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างของบริษัทต่างชาติ นอกจากนี้ปักกิ่งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำ
หน่วยงานรัฐบาล และออฟฟิศทำงานของบริษัทต่างชาติมากมาย แต่อย่างไร
ปักกิ่งก็ยังมีความเป็นปักกิ่ง มีโบราณสถาน อุทยาน ย่านเก่าแก่
และศาสนสถานที่น่าสนใจกระจายอยู่ทั่วเมือง การเที่ยวชมเมืองต้องใช้รถเมล์
รถแท๊กซี่ รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถจักรยานเช่า แม้จะมีถนนวงแหวนอยู่ถึง
6 วง แต่รถก็ยังติดมากเพราะรถยนต์ขายดี
ศูนย์กลางของปักกิ่งยังคงอยู่ที่เดิมคือ เมืองต้องห้ามบนถนนฉางอาน
ตรงข้ามกับจัตุรัสเทียนอันเหมิน หอเทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้
พระราชวังฤดูร้อนอยู่ทางตะวันตก และกำแพงเมืองจีนอยู่ทางทิศเหนือ
ปักกิ่งได้ชื่อว่าเป็นขุมคลังที่รวบรวมเอามรดกจากยุคราชวงศ์ต่างๆ
เข้าไว้ด้วยกันมากที่สุดในประเทศ พร้อมกันนั้น เมืองหลวงแห่งนี้ก็พัฒนาจนเกิดความเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว
เร็วเสียจนบางครั้งก็ทำให้วิตกถึงการอนุรักษ์มรดกจากยุคโบราณ
มีโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ ผุดขึ้นมากมาย โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การสร้างภาพลักษณ์แห่งความทันสมัยและความเป็นสากลเอาไว้ต้อนรับศตวรรษที่
21 สำหรับกีฬาใหญ่ระดับโลกคือ โอลิมปิก ปี 2008 |
พระราชวังต้องห้ามกู้กง |
จัตุรัสเทียนอันเหมิน |
จัตุรัสเทียนอันเหมิน |
พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน |
พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน |
ทะเลสาปคุนหมิง |
จัตุรัสเทียนอันเหมิน |
Under Water World |
โชว์เจ้าแม่กวนอิมพันมือพันตา |
โชว์เจ้าแม่กวนอิมพันมือพันตา |
ปักกิ่ง |
ปักกิ่ง |
ประวัติศาสตร์ปักกิ่ง ประเทศจีน |
กำแพงเมืองจีน ปักกิ่ง |
กำแพงเมืองจีน ปักกิ่ง |
กำแพงเมืองจีน ปักกิ่ง |
วัดลามะหย่งเหอกง |
ปักกิ่ง
เที่ยวกำแพงเมืองจีน |
|
หอฟ้าเทียนถาน
หอไหว้ฟ้าดินจักรพรรดิ
เที่ยวปักกิ่ง |
|
|
ประวัติปักกิ่งโดยย่อ
250,000 400,000 ปีก่อนคริสตกาล มีมนุษย์ถ้ำอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านโจวโข่วเตี้ยนทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปักกิ่งห่างออกไป
50 กิโลเมตร เป็นหลักฐานเชื่อว่าเอเชียกับแอฟริกาเป็นถิ่นกำเนิดของมนุษย์ยุคแรกเริ่ม
เรียกว่า โฮโมอิเรกตัส จึงเรียกซากโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ที่ค้นพบในปี
ค.ศ. 1959 ว่า มนุษย์ปักกิ่ง
20,000 ปีก่อนคริสตกาล มีชุมชนของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตั้งอยู่ห่างจากพระราชวังต้องห้ามเพียง
1 กิโลเมตร มีการนำเครื่องมือหินและซากโครงกระดูกมนุษย์ที่ขุดค้นพบมาจัดแสดงที่หอศิลป์ชั้นใต้ดินของห้างโอเรียนตัลพลาซ่า
ค.ศ. 916 1125 ราชวงศ์เหลียวตั้งเมืองหลวงขึ้นที่เมืองปักกิ่ง
ค.ศ. 1279 เจงกิสข่านตั้งราชวงศ์หยวน ในช่วงของกุบไลข่าน
(หลานของเจงกิสข่าน) มาร์โคโปโลได้มาเยือนเมืองข่านบาลิก
(เมืองของท่านข่าน) ริมทะเลสาบเป๋ยไห่ของกรุงปักกิ่งในปัจจุบัน
ค.ศ. 1402 1420 จักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิงทรงสร้างเป่ยจิง
(นครหลวงแดนเหนือ) พระราชวังต้องห้าม และหอเทียนถาน รวมทั้งซ่อมแซมกำแพงเมืองจีนด้วย
ค.ศ. 1644 พวกแมนจูก่อตั้งราชวงศ์ชิง สถาปนาปักกิ่งเป็นเมืองหลวงเช่นเดิม
ค.ศ. 1838 1842 สงครามฝิ่นครั้งแรก ชาติตะวันตกบีบบังคับให้ทำการค้ากับต่างชาติ
ค.ศ. 1860 สงครามฝิ่นครั้งที่ 2 กองทัพอังกฤษและฝรั่งเศสบุกเข้ายึดปักกิ่ง
บังคับให้จีนลงนามในสนธิสัญญาให้ต่างชาติเข้ามาตั้งสถานทูต
ค้าขาย และเผยแผ่ศาสนาได้
ค.ศ. 1900 เกิดกบฎนักมวย การเผาสถานทูต ขับไล่ชาวตะวันตก
8 ชาติ เผาพระราชวังฤดูร้อนจนพินาศสิ้น
ค.ศ. 1903 พระนางซูสีไทเฮา (ฉื่อซีไทโฮ่ว) สร้างพระราชวังฤดูร้อนขึ้นใหม่
ค.ศ. 1908 พระนางซูสีไทเฮาสิ้นพระชนม์
ค.ศ. 1911 ดร.ซุนยัดเซ็น นายแพทย์หนุ่มจากมณฑลกวางตุ้ง
นำกลุ่มแนวร่วมปฏิวัติโค่นล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของราชวงศ์ชิง
เปลี่ยนมาเป็นระบอบสาธารณรัฐ
ค.ศ. 1921 เหมาเจ๋าตุงร่วมก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนที่เซี่ยงไฮ้
ค.ศ. 1928 เจียงไคเชค ผู้นำกองทัพแห่งชาติคุมอำนาจได้ทั้งหมด
ค.ศ. 1931 1935 กลุ่มคอมมิวนิสต์ถอยร่นลงไปทางตอนใต้
เป็นการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ ผ่าน 11 มณฑล ระยะทางถึง 12,000
กิโลเมตร มีผู้ร่วมเดินทาง 130,000 คน
ค.ศ. 1937 กองทัพญี่ปุ่นบุกโจมตีจีนที่สะพานมาร์โคโปโลในกรุงปักกิ่ง
ค.ศ. 1945 ญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม กองทัพคอมมิวนิสต์ยึดกรุงปักกิ่ง
ขับไล่กองทัพก๊กมินตั๋งพร้อมประชาชนผู้ลี้ภัยราว 2 ล้านคนไปที่เกาะไต้หวัน
ค.ศ. 1949 เหมาเจ๋อตุงประกาศให้จีนเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ประตูเทียนอันเหมิน
ในวันที่ 1 ตุลาคม
ค.ศ. 1959 คนนับแสนๆ คนถูกกำจัดโดยขบวนการเรดการ์ด หรือขบวนการพิทักษ์แดง
ค.ศ. 1973 นายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลแต่งตั้งเติ้งเสี่ยวผิงให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี
เน้นนโยบายสภาพความเป็นจริง
ค.ศ. 1976 เกิดการประท้วงจากประชาชนต่อแก๊งสี่คนของนางเจียงชิง
(Jiang Qing) ซึ่งต้องการจะล้มล้างนโยบายของโจวเอินไหลและเติ้งเสี่ยวผิง
แต่ต่อมาแก๊งสี่คนก็ถูกจับกุมหลังการอสัญกรรมของเหมาเจ๋อตุง
ค.ศ. 1982 มีรัฐธรรมนูญให้พรรคคอมมิวนิสต์มีอำนาจปกครองประเทศสูงสุด
นายหูเหยาปังเป็นเลขาธิการพรรค และนายจ้าวจือหยางเป็นนายกรัฐมนตรี
ค.ศ. 1989 มีการปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยใน กรณีเทียนอันเหมิน
จ้าวจือหยางต้องลาออก เจียงเจ๋อหมิง (Jiang Zemen) เข้าดำรงตำแหน่งแทน
นโยบายปฏิรูป 4 ทันสมัย ของเติ้งเสี่ยวผิงยังได้รับการสืบสานต่อ
ค.ศ. 1997 เติ้งเสี่ยวผิงถึงแก่อสัญกรรม ฮ่องกงกลับคืนจากอังกฤษสู่จีน
ค.ศ. 1999 โปรตุเกสส่งคืนมาเก๊าให้กับจีน
ค.ศ. 2001 จีนเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (W.T.O.)
และปักกิ่งได้รับเลือกให้จัดกีฬาโอลิมปิกในปี ค.ศ. 2008 |
|
ช้อปปิ้งปักกิ่ง
ถนนหวังฟูจิ่ง |
|
หอบูชาเทียนถาน |
หอบูชาเทียนถาน ปักกิ่ง |
หอบูชาเทียนถาน |
เรือหินอ่อน |
พระราชวังต้องห้ามกู้กง |
พระราชวังต้องห้าม |
หอฟ้าเทียนถาน |
หอฟ้าเทียนถาน |
|