บริษัททัวร์ โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์
ทัวร์ซินเจียงกลาง







 
• ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดน่าน
• ประวัติวัดหนองบัวและหมู่บ้านหนองบัว อ.ท่าวังผา จ.น่าน
(คัดลอกจากเอกสารประวัติวัดหนองบัว ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน โทร. 054-799594)

วัดหนองบัว

วัดหนองบัว

วัดหนองบัว

วัดหนองบัว
ประวัติวัดหนองบัว
   วัดหนองบัวเป็นวัดที่เก่าแก่ประจำหมู่บ้านหนองบัว ต. ป่าคา อ. ท่าวังผา จ. น่าน จากคำบอกเล่าไว้เดิมวัดหนองบัวตั้งอยู่ที่ริมหนองบัว (หนองน้ำประจำหมู่บ้าน) ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งวัดปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 500 เมตร ปัจจุบันไม่มีซากโบราณสถานเหลืออยู่เลย ต่อมาได้มีการย้ายวัดมาที่ปัจจุบันนี้ วัดหนองบัวสันนิษฐานว่า สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2405 โดยการนำของครูบาหลวงสุนันต๊ะร่วมกับชาวบ้านหนองบัวสร้างขึ้น จึงทำให้วิหารหนองบัวแห่งนี้ เป็นสถาปัตยกรรมไทยล้านนาที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งหาดูได้ยากมากในสมัยนี้ และพระวิหารหนองบัวแห่งนี้ยังมีจิตรกรรมฝาผนังแบบโบณาณที่สวยงามอีกด้วย ประวัติวัดหนองบัวและประวัติจิตรกรรมไม่มีหลักฐานบันทึกไว้ การสืบประวัติจะต้องอาศัยข้อมูลจากสองทางด้วยกันคือ สืบจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่และสืบจากการสังเกตจากรายละเอียดที่แสดงไว้ในภาพเขียน
การสืบประวัติจากคำบอกเล่า ท่านพระครูมานิตย์บุญการ หรือ ครูบาปัญญา ผู้เป็นชาวบ้านหนองบัวโดยกำเนิดถือว่าเป็นผู้รู้ท่านหนึ่งได้เล่าไว้ว่านายเทพผู้เป็นบิดาของท่านได้เป็นทหารของเจ้าอนันต๊ะยศ เจ้าผู้ครองนครน่านในขณะนั้น( เจ้าอนันต๊ะยศ ครองเมืองน่านเมื่อ พ.ศ.2395 –2434 )ต่อมานายเทพได้ติดตามทัพไปรบที่เมืองพวนซึ่งเป็นเมืองในแคว้นหลวงพระบาง หลังจัดการศึกเรียบร้อยแล้วจึงยกทัพกลับเมืองน่าน นายเทพได้นำช่างเขียนลาวพวนชื่อว่า ทิดบัวผัน มาเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่วัดหนองบัวแห่งนี้ โดยมีพระภิกษุวัดหนองบัวชื่อ แสนพิจิตร และนายเทพเป็นผู้ช่วยเขียนเสร็จ
การสืบประวัติจากรายละเอียดของจิตรกรรม ภาพเรือกลไฟและรูปทหารชาวฝรั่งที่ผนังด้านทิศเหนือเป็นสิ่งที่สามารถ นำมาประเมินอายุของจิตรกรรมได้ ตามประวัติของเรือกลไฟว่าเรือกลไฟมีแหล่งกำเนิดในยุโรปและอเมริกา ในประเทศไทยมีหลักฐานในจดหมายเหตุหลายแห่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีเรือกลไฟใช้ตั้งแต่ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงสันนิษฐานว่าช่างเขียนคงเห็นและนำแบบมาเขียนไว้ และยังมีรูปปืนยาวแบบฝรั่งคือมีดาบติดปลายปืนด้วย เดิมคนไทยรู้จักใช้ปืนมาตั้งแต่สมัยอยุธยา รูปแบบปืนมีปลายกระบอกยาวแต่ไม่ปรากฏว่ามีดาบปลายปืน ปืนที่ตัดดาบปลายปืนเป็นแบบฝรั่งที่นำมาใช้แพร่หลายในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 4 ถึง รัชการที่ 5 เป็นต้นมา จึงประเมินอายุจิตรกรรมว่าคงอยู่ในราวสมัย รัชการที่ 4 ถึง รัชการที่ 5
เรื่องราวในจิตรกรรม ได้แก่เรื่อง จันทคาธชาดก และเรื่องพุทธประวัติ ซึ่งเรื่องจันทคาธชาดกนี้ เป็นนิยายคติธรรมเก่าแก่อันดับที่ 11 ในหนังสือ ปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค ชาวบ้านในภาคเหนือเรียกว่า ค่าวธรรม จันทคาชาดก เป็นนิทานธรรมที่สอนให้กุลบุตรและกุลธิดาเอาแบบอย่างจริยธรรมที่ดีงามเช่น การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ความกตัญญูกตเวที ความซื่อสัตย์สุจริต และความเมตตากรุณาเป็นต้น
สิ่งสะท้อนจากภาพจิตรกรรม จิตรกรรมฝาผนังทุกแห่งย่อมมีคุณค่าในแง่ของการเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยนั้น โดยเฉพาะความเป็นชาวบ้าน ซึ่งมีลักษณะเรียบง่าย โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังวัดหนองบัวแห่งนี้ได้ทำหน้าที่สะท้อนความเป้นอยู่ของผู้คนสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี ภาพจิตรกรรมฝาผนังจึงเสมือนเปิดโอกาศให้คนดูได้จินตนาการได้อย่างกว้างไกลทำให้รู้สึกเพลิดเพลินสนุกสนาน ใจคอเบิกบานชอบกล สิ่งสะท้อนจากภาพเขียนที่เห็นได้ชัดคือการแต่งกาย โดยเฉพาะการแต่งกายของผู้หญิงที่นุ่งผ้าซิ่นลายน้ำไหล หรือผ้าซิ่นตีนจกที่สวยงาม และปัจจุบันยังเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงของชาวไทลื้ออีกด้วย

วัดหนองบัว ท่าวังผา

บ้านหนองบัว ท่าวังผา

บ้านหนองบัว ท่าวังผา

บ้านหนองบัว ท่าวังผา
ประวัติบ้านหนองบัว
     บ้านหนองบัวเป็นชาวไทลื้อที่สืบเชื้อสายมาจากเมืองล้าแคว้น สิบสองปันนา มลฑล ยูนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีความเป็นมาโดยย่อดังนี้ จุลศักราช 1184 ( พ.ศ. 2365 ,ค.ศ. 1822,ร.ศ.41)แคว้นสิบสองปันนาเริ่มเกิดสงครามสู้รบแย่งชิงอำนาจกันระหว่างเจ้ามหาวังและเจ้าหม่อมน้อย ซึ่งเป็นอากับหลานทำให้แคว้นสิบสองปันนาได้แตกแยกเป็นสองฝ่าย เมืองทางฟากตะวันออกของแม่น้ำโขงประกอบด้วยเมืองล้า เมืองอูไต้ เมืองอูเหนือ เมืองเชียงของ เมืองบาง และเมืองลึง เป็นกำลังของฝ่ายเจ้าหม่อมน้อย เจ้าหม่อมน้อยหวั่นเกรงว่าจะพ่ายแพ้จึงขอรับการสนัยสนุนกำลังทหารจากพระเจ้าล้านช้างร่มขาวแห่งเมืองล้านช้าง พระเจ้าล้านช้างร่มขาวได้ส่งกำลังไปร่วมจำนวน 3,000 นาย และขอรับการสนับสนุนจากเมืองน่านอีกทางหนึ่ง ซึ่งไดรับการช่วยเหลือจากเมืองน่านเช่นกัน พระเจ้าอชิตวงศ์ขณะนั้นเป็นเจ้าราชบุตรและเจ้าราชายังเป็นเจ้าคำมน ทั้งสองท่านได้นำกำลังทหาร 70 นาย ไปตั้งหลักอยู่ที่ปากแงนในเมืองหลวงปูคา (สันนิษฐานว่าอยู่ในประเทศลาว)เพื่อเตรียมเข้าช่วยเหลือกองกำลังเจ้าหม่อมน้อย ขณะที่ตั้งหลักอยู่ที่ปากแงนนั้น เจ้าหม่อมน้อยได้มอบหมายให้พระยาอรินทร์และราชาไชยวงศ์ นำเงินจำนวนหนึ่งหมื่น ไปซื้อช้างจากพระเจ้าล้านช้างร่มขาว แต่เมื่อมาพบกับพระเจ้าราชบุตร และเจ้าคำมนเสียก่อน ท่านทั้งสองจึงอาสาป็นธุระจัดซื้อให้ท้าวโลกานำทูตของเจ้าหม่อมน้อยมาพบเจ้าฟ้าหลวงเมืองน่านเพื่อขอความเมตตาในการซื้อช้าง ซึ่งก็ได้รับการช่วยเหลือซื้อช้างได้ถึง 6 เชือก เมื่อวันเพ็ญเดือนหก (บันทึกในสมุดข่อยไม่ได้ระบุว่าเป็นจุลศักราชใด) กองกำลัง ลื้อ ลาว ชาวน่าน ได้นัดกันบุกเข้าโจมตีกองกำลังฝ่ายเจ้ามหาวัง รบกันเพียงสองวัน เมืองล้าฝ่ายเจ้าหม่อมน้อยแตก ซึ่งตรงกับเดือนหกแรมสองค่ำ กองกำลัง ลื้อ ลาว ชาวน่านแตกกระจัดกระจายไปคนละทิศ ละทาง กองกำลังฝ่ายเจ้ามหาวังตามบดขยี้อย่างไม่ลดละ ไล่ติดตามมาถึงปากน้ำแรม เจ้าราชบุตรและเจ้าคำมนพลัดหลงกันที่นั่น เจ้าราชบุตรพาพวกครัว(เสบียง) ถอยร่นมาเรื่อยๆ ซึ่งกองกำลังฝ่ายเจ้ามหาวังได้เปรียบเชิงยุทธ เมื่อถึงภาวะคับขัน ฝ่ายเจ้าราชบุตรและพวกเมืองล้าจำเป็นต้องทิ้งช้างเสีย เหลือเพียงม้าตัวเดียว เจ้าราชบุตรและพวกครัวถอยร่นมาถึงบ่อหลวง เมื่อถึงบ่อหลวงแล้วให้นึกเสียดายช้าง จึงขอให้เจ้าเมืองล้าช่วยติดตามไปเอาช้างนาที่แผงจางคืนมา เจ้าเมืองล้าได้จัดกำลัง 200 นาย ให้ท้าวนันต๊ะ เสนาและหมื่นเทพ ยกกำลังไปติดตามเอาช้างมาจนได้มา 2 เชือก ณ ที่บ่อหลวงแห่งนี้ กำลังของเจ้ามหาวังตามมาประชิดเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง 1 วัน กับ 1 คืน ฝ่ายเจ้ามหาวังหนีแตกเข้าป่าไป กำลังเจ้าราชบุตรและพวกเมืองล้า ได้ถอยร่นมาจนถึงท่าแสงและพักอาศัยอยู่ที่นั่น 5 วัน เจ้าคำมนซึ่งพลัดหลงกับเจ้าราชบุตรที่ปากน้ำแรมได้มาพบกันอีกครั้งหนึ่ง กล่าวถึงวกเมืองล้าที่หนีตามเจ้าราชบุตรมาเมื่อถึงเมืองน่านแล้วจึงตั้งหลักทำมาหากินในที่บ้านหนองบัว บ้านต้นฮ่าง และบ้านดอนมูลปัจจุบัน 
น่าน จังหวัดน่าน โรงแรมน่าน ดอยภูคา ดอยเสมอดาว เที่ยวน่าน ทัวร์น่าน
แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง
• น่าน จังหวัดน่าน น่าน เดิมมีชื่อว่า “นันทบุรี” หรือ “วรนคร” เป็นเมืองชายแดนแห่งล้านนาตะวันออก มีความเก่าแก่รุ่นเดียวกับกรุงสุโขทัย มีเจ้าผู้ครองนคร ๖๔ พระองค์
• ดอยภูคา อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของจังหวัดน่าน มี ต้นชมพูภูคา เต่าร้างยักษ์ (เต่าร้างน่านเจ้า) พบที่เดียวในโลก รวมทั้งวิวทิวทัศน์ของขุนเขา ทะเลหมอก
• วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดภูมินทร์ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน (พระธาตุประจำปีเกิดปีเถาะ) วัดภูมินทร์ วัดที่สวยงามด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง
• ดอยเสมอดาว ผาชู้ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีสถานที่สวยงามมากมาย อาทิ เสาดินและคอกเสือ จุดชมวิวผาชู้ จุดชมวิวดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ แก่งหลวงและเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
• วัดพระธาตุช้างค้ำ เดิมเรียก “วัดหลวง” หรือ “วัดหลวงกลางเวียง” สร้างขึ้นในสมัยเจ้าปู่แข็ง พ.ศ. ๑๙๓๙ สำหรับทำพิธีสำคัญทางพุทธศาสนาและพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
• วัดหนองบัว บ้านหนองบัว วัดหนองบัวเป็นวัดที่เก่าแก่ประจำหมู่บ้านหนองบัว อ.ท่าวังผา เป็นสถาปัตยกรรมไทยล้านนาที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งหาดูได้ยากมากในสมัยนี้
• วัดมิ่งเมือง มีองค์พระประธาน “หลวงพ่อพระศรีมิ่งเมือง” เป็นศิลปะเชียงแสน มีอายุ 400 กว่าปี และเป็นสถานที่ตั้งศาลหลักเมืองของจังหวัดน่าน
• วัดหนองแดง สถาปัตยกรรมไทยลื้อ สถาปัตยกรรม มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร จิตรกรรมฝาผนัง ด้านหลังของฐานชุกชีเป็นลักษณะพิเศษของงานสถาปัตยกรรมพื้นบ้านแบบไทลื้อ
• ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดน่าน 
ทัวร์โปรโมชั่น
• โปรแกรมทัวร์อื่นๆ
• โปรแกรมจอยทัวร์
• URC863-UQ : Grand ซินเจียงเหนือ อูรูมูฉี คานาสือ หมู่บ้านเหอมู่ หุบเขาอัลไต หมู่บ้านไป๋ฮาปา ล่องเรือทะเลสาบคานาสือ แพะเมืองผี ภูเขาหิมะเทียนซาน ตลาดต้าปาจา (UQ)
• วันเดินทาง 22 – 29 มิถุนายน (รับได้ 6 ที่), 14 - 21 กันยายน, 21 - 28 กันยายน, 5 - 12 ตุลาคม 2568
• ชมใบไม้เปลี่ยนสีปีละครั้งที่ อุทยานคานาสือ (เข้าอุทยานคานาสือ 2 วัน เน้นถ่ายรูปสวยๆ)
• เที่ยวครบซินเจียงเหนือ หมู่บ้านเหอมู่ หมู่บ้านไป่ฮาปา ธารน้ำห้าสี และทะเลสาบอูหลุนกูหู
• ชม ภูเขาหิมะเขาเทียนซาน (มรดกโลก) ล่องเรือทะเลสาบเทียนฉือ ชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะ
• CANAT29 : Gran Silk Road ซีอาน ถ้ำม่ายจีซาน ภูเขาสายรุ้ง จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ถ้ำตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู ทูรูฟาน ภูเขาหิมะเทียนซาน อูรูมูฉี โชว์เส้นทางสายไหม (FD)
• วันเดินทาง 4 - 13 ก.ค., 25 ก.ค. - 3 ส.ค., 8 - 17 ส.ค., 19 - 18 ก.ย., 10 - 19 ต.ค., 17 - 26 ต.ค. 2568
• ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
• ชม ถ้ำม่ายจีซาน และ ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ของจีน ขี่อูฐกลางทะเลทราย
• เที่ยวชม ภูเขาหิมะเขาเทียนซาน สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของซินเจียง (มรดกโลก)
• ไม่ลงร้านช้อป - อาหารดี - ที่พักดี - บินตรงเข้าซีอาน - บินกลับจากอูรูมูฉี
• Kazak989-3U : เที่ยว 2 ประเทศ ซินเจียง อี้หนิง – อัลมาตี้ คาซัคสถาน ทะเลสาบไซลี่มู่ ชารีนแคนยอน วิหารเซนคอฟ Shymbulak Ski หมู่บ้านคาจั่นฉี (3U)
• วันเดินทาง
17 - 25 ตุลาคม 2568
• ชม ชารีนแคนยอน แกรนด์แคนย่อนที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากอเมริกา
• ชม เมืองอัลมาตี้ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศคาซัคสถานและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ
• นั่งกระเช้า ชิมบูลัก (Shymbulak Ski Resort) อยู่ในเทือกเขา Zailiuskiy Alwatau
• ชม ทะเลสาบไซลี่มู่ ที่ทอดตัวอยู่ในวงล้อมของเทือกเขาเทียนซาน อยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าและภูเขาหิมะ
• INDIA877 : อินเดีย เนปาล พุทธคยา ราชคฤห์ กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี ล่องเรือ สารนาท พารานสี (TG)
• วันเดินทาง 26 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน, 11 - 18 มกราคม 2569
• เที่ยวครบ 4 สังเวชนียสถาน พุทธคยา กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี พาราณสี
• ชม ล่องเรือแม่น้ำคงคา เที่ยวชม วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
• พักโรงแรม 4-5 ดาว - มีอาหารไทย - มีพระวิทยากร - บินการบินไทย
• สอบถามทัวร์เพิ่มเติม
• ID Line Office : @oceansmiletour
• คุณเล็ก โทร.082-3656241   • ID Line : lekocean2
• คุณโจ้ โทร.093-6468915    • ID Line : oceansmile
• รับทำกรุ๊ปเหมา เที่ยวส่วนตัว ดูงาน
• ประเทศจีน (ทุกเมือง) อินเดีย (ทุกเมือง)
• เนปาล ภูฏาน บาหลี ศรีลังกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า
บริษัท โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์ จำกัด โทร. 0-2969 3664, 0-2949 5134-36
เลขที่ 23/121 ซอยนวมินทร์ 161 แยก1-4 ถ.นวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230

Hotline 0-936468915, 0-823656241 ใบอนุญาตเลขที่ 11/05028