บริษัททัวร์ โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์







 
• ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดน่าน
• ประวัติวัดหนองบัวและหมู่บ้านหนองบัว อ.ท่าวังผา จ.น่าน
(คัดลอกจากเอกสารประวัติวัดหนองบัว ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน โทร. 054-799594)

วัดหนองบัว

วัดหนองบัว

วัดหนองบัว

วัดหนองบัว
ประวัติวัดหนองบัว
   วัดหนองบัวเป็นวัดที่เก่าแก่ประจำหมู่บ้านหนองบัว ต. ป่าคา อ. ท่าวังผา จ. น่าน จากคำบอกเล่าไว้เดิมวัดหนองบัวตั้งอยู่ที่ริมหนองบัว (หนองน้ำประจำหมู่บ้าน) ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งวัดปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 500 เมตร ปัจจุบันไม่มีซากโบราณสถานเหลืออยู่เลย ต่อมาได้มีการย้ายวัดมาที่ปัจจุบันนี้ วัดหนองบัวสันนิษฐานว่า สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2405 โดยการนำของครูบาหลวงสุนันต๊ะร่วมกับชาวบ้านหนองบัวสร้างขึ้น จึงทำให้วิหารหนองบัวแห่งนี้ เป็นสถาปัตยกรรมไทยล้านนาที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งหาดูได้ยากมากในสมัยนี้ และพระวิหารหนองบัวแห่งนี้ยังมีจิตรกรรมฝาผนังแบบโบณาณที่สวยงามอีกด้วย ประวัติวัดหนองบัวและประวัติจิตรกรรมไม่มีหลักฐานบันทึกไว้ การสืบประวัติจะต้องอาศัยข้อมูลจากสองทางด้วยกันคือ สืบจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่และสืบจากการสังเกตจากรายละเอียดที่แสดงไว้ในภาพเขียน
การสืบประวัติจากคำบอกเล่า ท่านพระครูมานิตย์บุญการ หรือ ครูบาปัญญา ผู้เป็นชาวบ้านหนองบัวโดยกำเนิดถือว่าเป็นผู้รู้ท่านหนึ่งได้เล่าไว้ว่านายเทพผู้เป็นบิดาของท่านได้เป็นทหารของเจ้าอนันต๊ะยศ เจ้าผู้ครองนครน่านในขณะนั้น( เจ้าอนันต๊ะยศ ครองเมืองน่านเมื่อ พ.ศ.2395 –2434 )ต่อมานายเทพได้ติดตามทัพไปรบที่เมืองพวนซึ่งเป็นเมืองในแคว้นหลวงพระบาง หลังจัดการศึกเรียบร้อยแล้วจึงยกทัพกลับเมืองน่าน นายเทพได้นำช่างเขียนลาวพวนชื่อว่า ทิดบัวผัน มาเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่วัดหนองบัวแห่งนี้ โดยมีพระภิกษุวัดหนองบัวชื่อ แสนพิจิตร และนายเทพเป็นผู้ช่วยเขียนเสร็จ
การสืบประวัติจากรายละเอียดของจิตรกรรม ภาพเรือกลไฟและรูปทหารชาวฝรั่งที่ผนังด้านทิศเหนือเป็นสิ่งที่สามารถ นำมาประเมินอายุของจิตรกรรมได้ ตามประวัติของเรือกลไฟว่าเรือกลไฟมีแหล่งกำเนิดในยุโรปและอเมริกา ในประเทศไทยมีหลักฐานในจดหมายเหตุหลายแห่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีเรือกลไฟใช้ตั้งแต่ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงสันนิษฐานว่าช่างเขียนคงเห็นและนำแบบมาเขียนไว้ และยังมีรูปปืนยาวแบบฝรั่งคือมีดาบติดปลายปืนด้วย เดิมคนไทยรู้จักใช้ปืนมาตั้งแต่สมัยอยุธยา รูปแบบปืนมีปลายกระบอกยาวแต่ไม่ปรากฏว่ามีดาบปลายปืน ปืนที่ตัดดาบปลายปืนเป็นแบบฝรั่งที่นำมาใช้แพร่หลายในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 4 ถึง รัชการที่ 5 เป็นต้นมา จึงประเมินอายุจิตรกรรมว่าคงอยู่ในราวสมัย รัชการที่ 4 ถึง รัชการที่ 5
เรื่องราวในจิตรกรรม ได้แก่เรื่อง จันทคาธชาดก และเรื่องพุทธประวัติ ซึ่งเรื่องจันทคาธชาดกนี้ เป็นนิยายคติธรรมเก่าแก่อันดับที่ 11 ในหนังสือ ปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค ชาวบ้านในภาคเหนือเรียกว่า ค่าวธรรม จันทคาชาดก เป็นนิทานธรรมที่สอนให้กุลบุตรและกุลธิดาเอาแบบอย่างจริยธรรมที่ดีงามเช่น การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ความกตัญญูกตเวที ความซื่อสัตย์สุจริต และความเมตตากรุณาเป็นต้น
สิ่งสะท้อนจากภาพจิตรกรรม จิตรกรรมฝาผนังทุกแห่งย่อมมีคุณค่าในแง่ของการเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยนั้น โดยเฉพาะความเป็นชาวบ้าน ซึ่งมีลักษณะเรียบง่าย โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังวัดหนองบัวแห่งนี้ได้ทำหน้าที่สะท้อนความเป้นอยู่ของผู้คนสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี ภาพจิตรกรรมฝาผนังจึงเสมือนเปิดโอกาศให้คนดูได้จินตนาการได้อย่างกว้างไกลทำให้รู้สึกเพลิดเพลินสนุกสนาน ใจคอเบิกบานชอบกล สิ่งสะท้อนจากภาพเขียนที่เห็นได้ชัดคือการแต่งกาย โดยเฉพาะการแต่งกายของผู้หญิงที่นุ่งผ้าซิ่นลายน้ำไหล หรือผ้าซิ่นตีนจกที่สวยงาม และปัจจุบันยังเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงของชาวไทลื้ออีกด้วย

วัดหนองบัว ท่าวังผา

บ้านหนองบัว ท่าวังผา

บ้านหนองบัว ท่าวังผา

บ้านหนองบัว ท่าวังผา
ประวัติบ้านหนองบัว
     บ้านหนองบัวเป็นชาวไทลื้อที่สืบเชื้อสายมาจากเมืองล้าแคว้น สิบสองปันนา มลฑล ยูนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีความเป็นมาโดยย่อดังนี้ จุลศักราช 1184 ( พ.ศ. 2365 ,ค.ศ. 1822,ร.ศ.41)แคว้นสิบสองปันนาเริ่มเกิดสงครามสู้รบแย่งชิงอำนาจกันระหว่างเจ้ามหาวังและเจ้าหม่อมน้อย ซึ่งเป็นอากับหลานทำให้แคว้นสิบสองปันนาได้แตกแยกเป็นสองฝ่าย เมืองทางฟากตะวันออกของแม่น้ำโขงประกอบด้วยเมืองล้า เมืองอูไต้ เมืองอูเหนือ เมืองเชียงของ เมืองบาง และเมืองลึง เป็นกำลังของฝ่ายเจ้าหม่อมน้อย เจ้าหม่อมน้อยหวั่นเกรงว่าจะพ่ายแพ้จึงขอรับการสนัยสนุนกำลังทหารจากพระเจ้าล้านช้างร่มขาวแห่งเมืองล้านช้าง พระเจ้าล้านช้างร่มขาวได้ส่งกำลังไปร่วมจำนวน 3,000 นาย และขอรับการสนับสนุนจากเมืองน่านอีกทางหนึ่ง ซึ่งไดรับการช่วยเหลือจากเมืองน่านเช่นกัน พระเจ้าอชิตวงศ์ขณะนั้นเป็นเจ้าราชบุตรและเจ้าราชายังเป็นเจ้าคำมน ทั้งสองท่านได้นำกำลังทหาร 70 นาย ไปตั้งหลักอยู่ที่ปากแงนในเมืองหลวงปูคา (สันนิษฐานว่าอยู่ในประเทศลาว)เพื่อเตรียมเข้าช่วยเหลือกองกำลังเจ้าหม่อมน้อย ขณะที่ตั้งหลักอยู่ที่ปากแงนนั้น เจ้าหม่อมน้อยได้มอบหมายให้พระยาอรินทร์และราชาไชยวงศ์ นำเงินจำนวนหนึ่งหมื่น ไปซื้อช้างจากพระเจ้าล้านช้างร่มขาว แต่เมื่อมาพบกับพระเจ้าราชบุตร และเจ้าคำมนเสียก่อน ท่านทั้งสองจึงอาสาป็นธุระจัดซื้อให้ท้าวโลกานำทูตของเจ้าหม่อมน้อยมาพบเจ้าฟ้าหลวงเมืองน่านเพื่อขอความเมตตาในการซื้อช้าง ซึ่งก็ได้รับการช่วยเหลือซื้อช้างได้ถึง 6 เชือก เมื่อวันเพ็ญเดือนหก (บันทึกในสมุดข่อยไม่ได้ระบุว่าเป็นจุลศักราชใด) กองกำลัง ลื้อ ลาว ชาวน่าน ได้นัดกันบุกเข้าโจมตีกองกำลังฝ่ายเจ้ามหาวัง รบกันเพียงสองวัน เมืองล้าฝ่ายเจ้าหม่อมน้อยแตก ซึ่งตรงกับเดือนหกแรมสองค่ำ กองกำลัง ลื้อ ลาว ชาวน่านแตกกระจัดกระจายไปคนละทิศ ละทาง กองกำลังฝ่ายเจ้ามหาวังตามบดขยี้อย่างไม่ลดละ ไล่ติดตามมาถึงปากน้ำแรม เจ้าราชบุตรและเจ้าคำมนพลัดหลงกันที่นั่น เจ้าราชบุตรพาพวกครัว(เสบียง) ถอยร่นมาเรื่อยๆ ซึ่งกองกำลังฝ่ายเจ้ามหาวังได้เปรียบเชิงยุทธ เมื่อถึงภาวะคับขัน ฝ่ายเจ้าราชบุตรและพวกเมืองล้าจำเป็นต้องทิ้งช้างเสีย เหลือเพียงม้าตัวเดียว เจ้าราชบุตรและพวกครัวถอยร่นมาถึงบ่อหลวง เมื่อถึงบ่อหลวงแล้วให้นึกเสียดายช้าง จึงขอให้เจ้าเมืองล้าช่วยติดตามไปเอาช้างนาที่แผงจางคืนมา เจ้าเมืองล้าได้จัดกำลัง 200 นาย ให้ท้าวนันต๊ะ เสนาและหมื่นเทพ ยกกำลังไปติดตามเอาช้างมาจนได้มา 2 เชือก ณ ที่บ่อหลวงแห่งนี้ กำลังของเจ้ามหาวังตามมาประชิดเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง 1 วัน กับ 1 คืน ฝ่ายเจ้ามหาวังหนีแตกเข้าป่าไป กำลังเจ้าราชบุตรและพวกเมืองล้า ได้ถอยร่นมาจนถึงท่าแสงและพักอาศัยอยู่ที่นั่น 5 วัน เจ้าคำมนซึ่งพลัดหลงกับเจ้าราชบุตรที่ปากน้ำแรมได้มาพบกันอีกครั้งหนึ่ง กล่าวถึงวกเมืองล้าที่หนีตามเจ้าราชบุตรมาเมื่อถึงเมืองน่านแล้วจึงตั้งหลักทำมาหากินในที่บ้านหนองบัว บ้านต้นฮ่าง และบ้านดอนมูลปัจจุบัน 
น่าน จังหวัดน่าน โรงแรมน่าน ดอยภูคา ดอยเสมอดาว เที่ยวน่าน ทัวร์น่าน
แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง
• น่าน จังหวัดน่าน น่าน เดิมมีชื่อว่า “นันทบุรี” หรือ “วรนคร” เป็นเมืองชายแดนแห่งล้านนาตะวันออก มีความเก่าแก่รุ่นเดียวกับกรุงสุโขทัย มีเจ้าผู้ครองนคร ๖๔ พระองค์
• ดอยภูคา อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของจังหวัดน่าน มี ต้นชมพูภูคา เต่าร้างยักษ์ (เต่าร้างน่านเจ้า) พบที่เดียวในโลก รวมทั้งวิวทิวทัศน์ของขุนเขา ทะเลหมอก
• วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดภูมินทร์ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน (พระธาตุประจำปีเกิดปีเถาะ) วัดภูมินทร์ วัดที่สวยงามด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง
• ดอยเสมอดาว ผาชู้ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีสถานที่สวยงามมากมาย อาทิ เสาดินและคอกเสือ จุดชมวิวผาชู้ จุดชมวิวดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ แก่งหลวงและเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
• วัดพระธาตุช้างค้ำ เดิมเรียก “วัดหลวง” หรือ “วัดหลวงกลางเวียง” สร้างขึ้นในสมัยเจ้าปู่แข็ง พ.ศ. ๑๙๓๙ สำหรับทำพิธีสำคัญทางพุทธศาสนาและพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
• วัดหนองบัว บ้านหนองบัว วัดหนองบัวเป็นวัดที่เก่าแก่ประจำหมู่บ้านหนองบัว อ.ท่าวังผา เป็นสถาปัตยกรรมไทยล้านนาที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งหาดูได้ยากมากในสมัยนี้
• วัดมิ่งเมือง มีองค์พระประธาน “หลวงพ่อพระศรีมิ่งเมือง” เป็นศิลปะเชียงแสน มีอายุ 400 กว่าปี และเป็นสถานที่ตั้งศาลหลักเมืองของจังหวัดน่าน
• วัดหนองแดง สถาปัตยกรรมไทยลื้อ สถาปัตยกรรม มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร จิตรกรรมฝาผนัง ด้านหลังของฐานชุกชีเป็นลักษณะพิเศษของงานสถาปัตยกรรมพื้นบ้านแบบไทลื้อ
• ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดน่าน 
ทัวร์โปรโมชั่น
• โปรแกรมทัวร์แนะนำ
ทัวร์คานาสือ
• URC863-UQ : Grand ซินเจียงเหนือ อูรูมูฉี คานาสือ หมู่บ้านเหอมู่ หุบเขาอัลไต หมู่บ้านไป๋ฮาปา ล่องเรือทะเลสาบคานาสือ แพะเมืองผี ภูเขาหิมะเทียนซาน ตลาดต้าปาจา
• วันเดินทาง 5 - 12 ตุลาคม, 12 - 19 ตุลาคม, 19 - 26 ตุลาคม 2568
• ชมใบไม้เปลี่ยนสีปีละครั้งที่ อุทยานคานาสือ (เข้าอุทยานคานาสือ 2 วัน เน้นถ่ายรูปสวยๆ)
• เที่ยวครบซินเจียงเหนือ หมู่บ้านเหอมู่ หมู่บ้านไป่ฮาปา ธารน้ำห้าสี และทะเลสาบอูหลุนกูหู
• ชม ภูเขาหิมะเขาเทียนซาน (มรดกโลก) ล่องเรือทะเลสาบเทียนฉือ ชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะ
• TG-659 : เฉิงตู 3 อุทยาน - อุทยานจิ่วจ้ายโกว อุทยานหวงหลง อุทยานปี้เผิงโกว รถไฟความเร็วสูง ถนนซุนซีลู่ ถนนโบราณจิ๋งหลี่ โชว์เปลี่ยนหน้ากากและโชว์ทิเบต
• วันเดินทาง 10 - 15 ตุลาคม, 6 – 11 พฤศจิกายน 2568
• เที่ยวครบ 3 อุทยานที่สวยงามแห่งเสฉวน จิ่วจ้ายโกว-หวงหลง - อุทยานปี้เผิงโกว
• ไม่ลงร้านช้อป - อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว – บินการบินไทย
• YCU4-ZH : Grand Shanxi ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี พุทธคีรีอู่ไถซาน เมืองโบราณผิงเหยา อารามลอยฟ้า ถ้ำหยุนกัง กำแพงเมืองจีนเยี่ยนเหมินกวน เมืองโบราณต้าถง บ้านกวนอู
• วันเดินทาง
19 – 26 ตุลาคม, 9 – 16 พฤศจิกายน, 3 – 10 ธันวาคม 2568
• ชม ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี ชมความงามของหินงอกหินย้อยคล้ายคริสตัลและหิมะ
• ชม ภูเขาอู่ไถซาน พุทธคีรี 1 ใน 4 ของประเทศจีน
• ชม กำแพงเมืองจีนด่านแรก ด่านเยี่ยนเหมิน จุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด
• ชมความมหัศจรรย์ของ อารามลอยฟ้า เสวียนคงซื่อ (Xuankong Temple)
ทัวร์จี่หนาน
• TAO659-SL : ใบไม้แดงซานตง หลินอี๋ จี่หนาน ภูเขาไท่ซาน ชิงเต่า หลังหยา บ่อน้ำพุเป้าทู ทะเลสาบต้าหมิงหู โรงงานเบียร์ สะพานจ้านเฉียว
• วันเดินทาง
5 - 10 พฤศจิกายน 2568
• เที่ยวชม หุบเขาใบไม้แดงหงเย่กู่ หุบเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงสดทั่วทั้งหุบเขาเมืองจี่หนาน
• เที่ยวชม ภูเขาไท่ซาน ภูเขาอันดับ 1 ใน 5 แห่งภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีนและได้รับขึ้นทะเบียนมรดกโลก
• เที่ยว เมืองชิงเต่า เมืองที่ตึกรามบ้านช่องสไตล์แบบยุโรป
ทัวร์ชิงเต่า
• TAO651-SL : สีสันซานตง หลินอี๋ จี่หนาน ภูเขาไท่ซาน ชิงเต่า หลังหยา บ่อน้ำพุเป้าทู ทะเลสาบต้าหมิงหู โรงงานเบียร์ สะพานจ้านเฉียว
• วันเดินทาง
21 - 26 พฤศจิกายน, 12 – 17 ธันวาคม, 17 – 22 ธันวาคม 2568
• เที่ยวชม เมืองจี่หนาน เมืองแห่งน้ำพุธรรมชาติและเป็นเมืองหลวงของมณฑลซานตง
• เที่ยวชม ภูเขาไท่ซาน ภูเขาอันดับ 1 ใน 5 แห่งภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีนและได้รับขึ้นทะเบียนมรดกโลก
• เที่ยว เมืองชิงเต่า เมืองที่ตึกรามบ้านช่องสไตล์แบบยุโรป
• DEL765-AI : เส้นทาง 5 เมืองมรดกโลก เดลี อัครา ชัยปุระ มุมไบ ออรังกาบัด ทัชมาฮาล ซิตี้พาเลซ พระราชวังสายลม ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า กุตุบมีนาร์
• วันเดินทาง 14 - 20 มกราคม, 15 - 21 กุมภาพันธ์ 2569
• ชมเส้นทางมรดกโลกอารยธรรมโมกุลและอารยธรรมราชบุตรที่ เดลี - อัครา – ชัยปุระ - มุมไบ - ออรังกาบัด
• เที่ยวถ้ำพุทธศิลป์ ถ้ำอชันตา และ ถ้ำเอลโลร่า (มรดกโลก) เมืองออรังกาบัด
• เที่ยว ทัชมาฮาล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก - อาหารดี - โรงแรม 4 -5 ดาว - มีอาหารไทย - บินภายใน
• INDIA877 : อินเดีย เนปาล พุทธคยา ราชคฤห์ กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี ล่องเรือ สารนาท พารานสี
• วันเดินทาง 25 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน, 11 - 18 มกราคม, 4 - 11 กุมภาพันธ์, 11 - 18 มีนาคม 2569
• เที่ยวครบ 4 สังเวชนียสถาน พุทธคยา กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี พาราณสี
• ชม ล่องเรือแม่น้ำคงคา เที่ยวชม วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
• พักโรงแรม 4-5 ดาว - มีอาหารไทย - มีพระวิทยากร - บินการบินไทย
• DEL645-TG : เดลี ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า ทัชมาฮาล อัคราฟอร์ท - กุตุบมีนาร์ - Red Fort เที่ยว 7 มรดกโลก
• วันเดินทาง 5 - 10 ธันวาคม, 15 – 20 มกราคม, 18 – 23 กุมภาพันธ์ 2569
• ชม ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า เมืองออรังกาบัด
• เที่ยวชม ทัชมาฮาล และ อัคราฟอร์ท เมืองอัครา
• อาหารดี - โรงแรม 4 - 5 ดาว - บินการบินไทยและบินภายใน 2 ไฟลท์
เส้นทางสายไหม สกีหิมะ
• UQ-879 : เส้นทางสายไหม ภูเขาสายรุ้ง ถ้ำตุนหวง สกีหิมะ Silk Road ซินเจียง ลั่วหยาง หลานโจว จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู อูรูมูฉี
• วันเดินทาง 30 พฤศจิกายน – 7 ธันวาคม, 28 ธันวาคม – 4 มกราคม, 1 – 8 มีนาคม 2569
• ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
• ชม ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ถ้ำพุทธศิลป์ที่ได้ขึ้นเป็นมรดกโลก
• สนุกสนานการการ ขี่อูฐกลางทะเลทราย ไปชม ทะเลสาบวงพระจันทร์
• สนุกสนานกับ สกีหิมะ Silk Road เขาหนานซาน ลานสกีที่โด่งดังของเมืองอูรูมูฉี
ทัวร์สกีซินเจียง
• UQ865 : สกีหิมะซินเจียงเหนือ คานาสือ หุบเขาอัลไต หมู่บ้านเหอมู่ หมู่บ้านไป๋ฮาปา แพะเมืองผี แคนย่อนตูซานจื่อ ทะเลสาบอูหลุนกู ตลาดต้าปาจา Silk Road Ski อูรูมูฉี
• วันเดินทาง 30 พฤศจิกายน – 7 ธันวาคม, 7 - 14 ธันวาคม, 18 – 25 มกราคม, 1 – 8 มีนาคม 2569
• ชมหิมะสวยๆปีละครั้งที่ อุทยานคานาสือ และทะเลสาบต่างๆ (เน้นถ่ายรูปสวยๆ)
• ชม สกีหิมะ ที่ หมู่บ้านเหอมู่ ลานสกีและหมู่บ้านที่วิวทิวทัศน์สวยที่สุด
• สนุกสนานกับ สกีหิมะ Silk Road เขาหนานซาน ลานสกีที่โด่งดังของเมืองอูรูมูฉี
• สอบถามทัวร์เพิ่มเติม
• ID Line Office : @oceansmiletour
• คุณเล็ก โทร.082-3656241   • ID Line : lekocean2
• คุณโจ้ โทร.093-6468915    • ID Line : oceansmile
• รับทำกรุ๊ปเหมา เที่ยวส่วนตัว ดูงาน
• ประเทศจีน (ทุกเมือง) อินเดีย (ทุกเมือง)
• เนปาล ภูฏาน บาหลี ศรีลังกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า
บริษัท โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์ จำกัด โทร. 0-2969 3664, 0-2949 5134-36
เลขที่ 23/121 ซอยนวมินทร์ 161 แยก1-4 ถ.นวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230

Hotline 0-936468915, 0-823656241 ใบอนุญาตเลขที่ 11/05028