ราชวงศ์ : สุพรรณบุรี ท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นพระสนมเอกของพระไชยราชาธิราช กษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งอยุธยา ทรงเป็นพระราชมารดาของพระยอดฟ้า กษัตริย์องค์ที่ 14 แห่งอยุธยา และทรงเป็นพระมเหสีของขุนวรวงศาธิราช กษัตริย์องค์ที่ 15 แห่งอยุธยา แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ เป็นเพียงพระนามที่ระบุว่าในพระราชพงศาวดารฉบับราชหัตถเลขา และ แม่ยั่วศรีสุดา ปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหลวงประเสริฐ และพระนาม ศรีสุดาจันทร์ ไม่ใช่พระนามจริงของพระองค์แต่เป็นชื่อตำแหน่งสนมเอกของกษัตริย์อยุธยาตามที่ปรากฏใน พระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน ของกฎหมายตราสามดวงระบุว่า นางท้าวสนมเอกทั้ง 4 คือ ท้าวสุเรนทร ท้าวศรีสุดาจันทร์ ท้าวอินทรเทวี ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระไชยราชาธิราช ซึ่งขึ้นบัลลังก์กษัตริย์อยุธยา โดยการ ยึดอำนาจ จากพระรัฏฐาธิราชกุมาร กษัตริย์องค์ที่ 12 ที่มีพระชนมายุเพียง 5 พรรษา ถูกยึดอำนาจหลังการครองราชย์ได้ 5 เดือน และถูกนำตัวไปสำเร็จโทษ การยึดอำนาจครั้งนี้เป็นเพียงการเปลี่ยนสายครองราชของโอรสของพระรามาธิบดีที่ 2 เท่านั้น คือ จากสายของ เจ้าฟ้า (พระบรมราชาหน่อพุทธางกูร กษัตริย์องค์ที่ 11 ซึ่งมีพระโอรสคือพระรัฏฐาธิราชกุมาร กษัตริย์ที่ 12 มาเป็นสาย โอรส อันเกิดแต่พระสนมก็คือ พระไชยราชาธิราช) สมัยของพระไชยราชาธิราชเป็นยุคสมัยที่การค้ากับต่างประเทศเริ่มเฟื่องฟู ดังจะเห็นจากการการขุดคลองลัดบางกอก การมี ชาวโปรตุเกสเข้ามาเป็นทหารอาสา หรือ ทหารรักษาพระองค์ และยังเป็นยุคสมัยที่เปิดฉากสงครามครั้งแรกกับพม่าในกรณีปัญหาหัวเมืองมอญ คือศึกเชียงกราน การขึ้นครองราชย์ของพระยอดฟ้า ซึ้งเป็นโอรสที่เกิดแก่พระสนมเอก ศรีสุดาจันทร์ เมื่อพระชนมายุ 11 พรรษา ในช่วงที่พระสนมเอก ศรีสุดาจันทร์ มีสถานะเป็น นางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ พระยอดฟ้า กษัตริย์ที่ยังทรงพระเยาว์ครองราชสมบัติโดยมี พระแม่เจ้าอยู่หัวศรีสุดาจันทร์ จึงได้ ราชาภิเษกขุนวรวงศาขึ้นเป็นเจ้าพิภพ เป็นกษัตริย์องค์ที่ 15 ของอยุธยา หลังขุนวรวงศาได้เป็นกษัตริย์จึงเกิดเหตุการณ์นำเอาพระยอดฟ้าที่ยังทรงพระเยาว์ไปประหารชีวิตที่วัดโคกพระยา ขุนวรวงศาธิราชเป็นคนจากหัวเมืองฝ่ายเหนือแว่นแคว้นสุโขทัย การปรากฏตัวของขุนวรวงศาธิราชในนาม พันบุตรศรีเทพผู้เฝ้าหอพระ(ข้างหน้า) ในพระราชวัง และมีสื่อสัมพันธ์กับพระแม่เจ้าอยู่หัวศรีสุดาจันทร์โดยผ่านสัญลักษณ์ เมี่ยง และ ดอกจำปา กระทั่งได้รับการเปลี่ยนให้เป็น ขุนชินราช ตำแหน่งผู้ รักษาหอพระข้างใน ซึ่งการที่ หอพระข้างในพระราชวังหลวงมีตำแหน่ง ขุนชินราช ขุนวรวงศาธิราชเป็นกษัตริย์อยู่ 45 วัน หลังจากถูกยึดอำนาจ ทั้ง ขุนวรวงศาธิราช พระแม่เจ้าอยู่หัวศรีสุดาจันทร์ และพระราชนัดดาที่มีพระชนม์ 1-2 พรรษา ทั้งสามพระองค์ถูกฝ่ายยึดอำนาจ ฆ่าแล้วเอาศพไปเสียบประจานไว้ ณ วัดแร้ง ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพและคณะผู้ยึดอำนาจได้ถวายบัลลังก์คืนแก่ พระเทียนราชา เชื้อพระวงศ์สุพรรณบุรี ซึ่งก็คือ พระมหาจักรพรรดิสำหรับ พระศรีศิลป์ โอรสอีกพระองค์ของ พระแม่เจ้าอยู่หัวศรีสุดาจันทร์กับพระไชยราชาธิราชนั้นจะถูกประหารชีววิตในระยะถัดมาในข้อหาซ่องสุมคิดกบฎต่อพระมหาจักรพรรดิ (พระมหาจักรพรรดิทรงเลี้ยงพระศรีศิลป์ไว้ 13-14 ปี) จึงจบวงศ์ของพระแม่เจ้าอยู่หัวสุดาจันทร์กับพระไชยราชาธิราชและขุนวรวงศาธิราช
Hotline 0-936468915, 0-823656241 ใบอนุญาตเลขที่ 11/05028