|
|
|
|
|
|
|
|
อาหารเช้าศรีลังกา
(โรงแรมแบบ 4- 5 ดาว) |
|
|
อาหารเช้าศรีลังกา
(โรงแรมแบบ 4- 5 ดาว) |
|
|
อาหารศรีลังกา หลายคนที่คิดอยากไปศรีลังกา
แต่ก็ติดตรงที่อาหาร จะทานได้มั๊ย เหมือนกับอาหารอินเดียหรือเปล่า
รสชาดอาหารจะถูกปากกับเรามั๊ย...
ผมต้องบอกเลยว่าอาหารศรีลังกาที่ทัวร์จัดไปทาน ส่วนใหญ่อยู่ในโรงแรม
ซึ่งอาหารก็มีมากมายหลายประเภท รสชาดก็ทานได้แต่อาจมีกลิ่นเครื่องเทศสักหน่อย
และอาหารศรีลังกาเป็นคนละเวอร์ชั่นกับอินเดียแบบหน้ามือหลังมือกันเลย
อาหารศรีลังกาตามในภัตตาคารหรือโรงแรมออกแนวเวอร์ชั่นอังกฤษและผสมผสานกับอาหารพื้นเมือง
สำหรับขนมหวานและผลไม้ ก็มีให้เลือกทานกันได้หลายประเภท
ผมเลยเอารูปอาหารศรีลังกามารวมๆกันให้ดู ซึ่งมีทั้งอาหารเช้า
อาหารกลางวัน อาหารเย็น
สำหรับคนไทยแล้ว อาหารของศรีลังกาตามภัตตาคารหรือโรงแรม
ผมเชื่อว่าทานกันได้ครับ..... |
อาหารเช้าศรีลังกา
(โรงแรมแบบ 4- 5 ดาว) |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ภัตตาคารอาหารกลางวันศรีลังกา |
|
|
ภัตตาคารอาหารกลางวันศรีลังกา |
|
|
อาหารศรีลังกา
อาหารศรีลังกานั้น มีเอกลักษณ์เช่นเดียวกับวัฒนธรรมของประเทศศรีลังกา
อาหารศรีลังกา อาจจะมีหลายเมนูที่ได้รับอิทธิพลจากทั้ง โปรตุเกส
ดัตช์ อังกฤษ รวมทั้งอินเดีย อาหรับ มาเลย์ และมัว ซึ่งกลายมาเป็นความหลากหลายชนิดของอาหาร
ซึ่งถ้าจะมองอีกทางหนึ่งก็คือว่า อาหารศรีลังกานั้น มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง
คนศรีลังกาส่วนใหญ่ จะรับประทานอาหารมังสวิรัติ อาหารแต่ละชนิดในประเทศนี้
ก็จะมีวิธีการปรุงที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ของ ประเทศ
อาหารทางเหนือนั้นเผ็ดร้อนกว่าทางใต้ ศรีลังกานั้นเหมือนกับเมืองไทยที่รับประทานข้าว
เป็นหลัก และ ข้าวของศรีลังกา นอกจากจะเป็นข้าวสวยแล้วก็มี
ข้าวอบกับมะพร้าว และก็นำไปนึ่งในกระบอกไม้ไผ่ รวมทั้งข้าวที่เหมือนข้าวมันและข้าวหมก
อาหารศรีลังกานั้นคงจะมีส่วนคล้ายกับอาหารอินเดีย เพราะทั้ง
2 ประเทศนั้น รับประทานแกงเป็นหลัก แต่ว่าแกงของ 2 ปรเทศนี้
ก็ต่างกันตรงที่แกงของศรีลังกาจะ ปรุงด้วยกะทิ (เพราะว่า
ประเทศนี้เป็นเกาะ จึงมีมะพร้าวเยอะ) แต่ว่าแกงของอินเดียนั้นไม่ใส่กะทิ
แกงของศรีลังกา จะมีหลายสีหลากกลิ่น ซึ่งก็เกิดจากการผสมผสานกันของเครื่องเทศอันร้อนแรงของศรีลังกา
อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้แกงของศรีลังกานั้นจะต่างกับแกงของอินเดีย
เพราะว่าใส่พริกและเครื่องเทศมากกว่า เครื่องปรุงของแกงศรีลังกา
มีทั้งเนื้อสัตว์และผัก เช่น แกงเนื้อ แกงไก่ แกงปลา แกงสับปะรด
แกงเครื่องในวัว แกงมะม่วงหิมพานต์ แกงถั่ว ฯลฯ อาหารทะเลก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีให้เลือกเยอะ
ไม่ว่าจะปลา กุ้ง ปู หรือล็อบสเตอร์ อาหารปลายอดฮิตคือ อาบูลทิยัล
ซึ่งจะนำปลามาอบในหม้อดินพร้อมเครื่องเทศต่างๆ ให้แห้งหอมฉุนด้วยเครื่องเทศ
อาหารจานนี้มักนิยมทางตอนใต้ของศรีลังกา ส่วนกุ้งก็จะนำมาผัดเผ็ด
เครื่องเทศที่มักจะใส่ลงไปเพื่อปรุง รสก็คือ หอมซอย พริกเขียว
พริกไทยดำ ซินนามอน กระวาน กานพลู ลูกจันทน์เทศ และ หญ้าฝรั่น
เครื่องเทศไม่เพียงแต่จะทำให้อาหารได้รสชาติเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์กับร่างกายอีกต่างหาก
นอกจากข้าวและแกงแล้ว ในแต่ละมื้อของ อาหารศรีลังกาแล้ว
ก็จะมีผักเป็นเครื่องเคียง ผักของศรีลังกาก็อย่างเช่น มะเขือ
ถั่ว บีตรูท แครอต ฟักทอง ฯลฯ
ข้าวกับแกง เคยเป็นอาหารเช้าที่ชาว ศรีลังกานิยม แต่ในปัจจุบันก็เลื่อนไปเป็นอาหาร
กลางวันแทน ในมื้อหนึ่งนั้นก็จะมีข้าว แกง ผัก รับประทานกับของคั่วกรอบอย่าง
ปาปาดัม และมัลลัม ซึ่งเป็นผักหั่นผสมกับเนื้อมะพร้าวแล้วนำไปผัดจนแห้ง
และมีฮอดดาก็จะประหนึ่งเป็น น้ำพริกบ้านเรา ซึ่งทำจากเครื่องเทศผสมกับกะทิ
นอกจากแกงแล้ว บางคนที่คุ้นกับอาหารอินเดียอย่าง ทาลี (thali),
บิริยานี (biriyani) หรือ คลู (kool) นั้น ก็มีให้เลือกรับประทานในมื้ออาหารของศรีลังกาเช่นเดียวกัน
คนศรีลังกาจะรับประทานข้าวด้วยมือ พวกเขาจะรับประทานโดยตักข้าวใส่จานและตักแกงมาคลุกทำเป็นก้อนพอคำ
ก่อนที่จะเปิบเข้าปาก
อาหารศรีลังกา ฮอปเปอร์
: แพนเค้กศรีลังกา
ฮอปเปอร์ หน้าตาก็จะเหมือนแพนเค้กหรือมัฟฟินหรือขนมครกอันใหญ่ๆ
ของเมืองไทย แป้งที่นำมาทำฮอปเปอร์จะหมักตามแบบดั้งเดิมด้วยน้ำตาลของต้นปาล์ม
ซึ่งจะทำให้ฮอปเปอร์มีรสชาติอร่อย แป้งที่ได้ก็จะนำมาผสมกับกะทิ
ก่อนจะนำมาทอดใน กระทะทรงกลมเล็กๆ ซึ่งทาด้วยน้ำมันงา เมื่อแป้งสุกออกมามีรูปร่างเหมือนกระทะ
บางครั้งก็ใส่ไข่ลงไปด้วย ขอบรอบนอกของฮอปเปอร์จะเหลืองกรอบ
แต่ว่าตรงกลางนุ่มฟู ฮอปเปอร์นั้น รับประทานเป็นอาหารเช้าและกลางวัน
นอกจากไข่แล้วบางครั้งก็ใส่นมหรือน้ำผึ้งลงไป
ฮอปเปอร์สามารถรับประทานกับน้ำจิ้ม เหมือนน้ำพริก ซึ่งทำมาจากพริก
มะพร้าวขูด หอมซอย ปลาย่าง ฯลฯ หรือจะรับประทานกับแกง ถ้าร่วมสมัยหน่อยก็อาจจะรับประทานกับแยม
แต่ไม่ว่าจะอร่อยแบบไหน ฮอปเปอร์ต้องรับประทานขณะที่ยังร้อน
นอกจากจะเป็นแผ่นแล้ว ฮอปเปอร์ยังมีแบบเป็นเส้นด้วย ซึ่งจะออกมาเหมือนกับก๋วยเตี๋ยวเส้นแบนๆ
ของหวานและเครื่องดื่ม
ชา : ชาของศรีลังกาหรือที่เรียกกันว่า
ชาซีลอน ได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งในชาที่ดีที่สุดของโลก
ชาที่ว่านี้ก็มีทั้งดื่มเปล่าๆ หรือใส่นมและน้ำตาล บางครั้งคนศรีลังกาใส่ขิงทุบลงในน้ำชา
ซึ่งจะให้รสชาติพิเศษ ว่ากันว่าในปัจจุบันนั้นชาคุณภาพดีของศรีลังกามีราคาค่อนข้างแพง
เพราะว่ากลายเป็นสินค้าส่งออก นอกจากนี้แล้วชาวศรีลังกา
ซึ่งเป็นผู้นิยมการ รักษาสุขภาพนั้นก็จะดื่มน้ำที่มาจากพืชผัก
ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมทั้งน้ำผลไม้สดอย่างน้ำมะพร้าว
ที่มีอยู่เยอะในบ้านของเขา นอกจากนั้นแล้วก็มีน้ำส้ม น้ำมะนาว
ฯลฯ
ขนมหวาน : เนื่องจากศรีลังกามีมะพร้าวอยู่มากมาย
ดังนั้นคนที่คนศรีลังกานิยมทำและรับประทานจึงมาจากมะพร้าวและกะทิเสียส่วนใหญ่
มีทั้งเค้กมะพร้าว และท็อฟฟี่มะพร้าวนอกจากนั้นแล้ว ก็มีโยเกิร์ตมะพร้าวให้เลือกรับประทานด้วย
โยเกิร์ตที่ทำจากนมควาย จะพบทั่วไปใน ศรีลังกาบางครั้งก็ผสมมากับน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง
เรียกว่า คิริปานิ (kiri pani) พุดดิ้งไข่ ฯลฯ สำหรับผลไม้ก็อย่างมะม่วง
มะละกอ แตงโม กล้วย เงาะ มังคุด ฯลฯ |
อาหารกลางวันศรีลังกา
(โรงแรม 4 - 5 ดาว) |
|
|
อาหารกลางวันศรีลังกา
(โรงแรม 4 - 5 ดาว) |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อาหารกลางวันศรีลังกา
(โรงแรม 4 - 5 ดาว) |
|
|
อาหารกลางเย็นศรีลังกา
(โรงแรม 4 - 5 ดาว) |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อาหารกลางวันศรีลังกา
(โรงแรม 4 - 5 ดาว) |
|
|
อาหารกลางวันศรีลังกา
(โรงแรม 4 - 5 ดาว) |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|