ราชวงศ์ : ราชวงศ์บ้านพลูหลวง ปีที่ครองราชย์ : พ.ศ.2231-2246 พระเพทราชา ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 29 ของอยุธยา และทรงเป็นผู้สถาปนาราชวงศ์บ้านพลูหลวงอันเป็นราชวงศ์ที่ 5 และเป็นราชวงศ์สุดท้ายของอยุธยา ในประวัติศาสตร์ไทย พระเพทราชาถูกมองว่าเป็นกบฏ แต่ในขณะเดียวกันพระองค์ถูกมองเป็น นักชาตินิยม ที่สกัดกั้นมิให้ไทยต้องภายใต้อิทธิพลของต่างชาติ (ฝรั่งเศส) พระเพทราชาทรงมีพื้นเพมาจากบ้านพลูหลวงในสุพรรณบุรี พระมารดาทรงเป็นแม่นมของนารายณ์ ดังนั้นพระองค์ได้รับการเลี้ยงดูควบคู่กันมากับพระนารายณ์ เมื่ออิทธิพลของชาวต่างชาติ คือฝรั่งเศสมากขึ้น พระเพทราชากลายเป็นศูนย์กลางความรู้สึกต่อต้านฝรั่งเศสและคริสต์ศาสนา พระเพทราชามีโอรสองค์หนึ่งคือ หลวงสรศักดิ์ (พระเจ้าเสือ) ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นโอรสลับของพระนารายณ์ที่เกิดจากเจ้าหญิงเมืองเชียงใหม่ หลวงสรศักดิ์มีส่วนผลักดันให้พระเพทราชาขึ้นมายึดอำนาจจากพระนารายณ์ ก็มีปัญหาการสืบราชสมบัติว่าจะตกกับผู้ใด ผู้ที่อยู่ในข่ายคือพระอนุชา 2 องค์ เจ้าฟ้าอภัยทศ และเจ้าฟ้าน้อย กับโอรสบุญธรรมคือพระปีย์ บุคคลทั้ง 3 ถูกหลวงสรศักดิ์กำจัด ฟอลคอนถูกประหารชีวิต ไทยก็ขับไล่ทหารฝรั่งเสสออกนอกราชอาณาจักร ฝรั่งเศสตั้งป้อมและทหารของตนอยู่ที่บางกอกคือบริเวณพระราชวังของสมเด็จพระเจ้าธนบุรี(ตากสิน) และปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกองทัพเรือ หลังจากถูกล้อมและอดอาหารอยู่ 2 เดือนฝรั่งเศสก็ยอมเจรจาและยอมถอยออกไป อย่างไรก็ตามพระเพทราชาก็ยังติดต่อกับชาวต่างชาติไม่ได้ปิดประเทศตามความตีความของประวัติศาสตร์ พระองค์ทรงมีสัมพันธ์อันดีกับฮอลันดา ฮอลันดาเองก็พอใจที่จะค้าขายมิได้คิดเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองดังเช่นฝรั่งเศสหรือบาทหลวงคริสตังกระทำ พระเพทราชาส่งทูตไปปัตตาเวีย (ที่เกาะชวา) ของฮอลันดา มีการยืนยันที่จะให้สิทธิผูกขาดการซื้อหนังกวางและยังผูกขาดในการซื้อดีบุกอีกด้วย ตลอด 15 ปีของพระเพทราชามีปัญหาเรื่องความสงบ พระองค์ถูกมองว่าเป็นผู้แย่งราชสมบัติ ก็ทำให้มีการกบฏต่อพระองค์ ดังเช่น กบฏธรรมเสถียร จากนครนายกที่หัวหน้ากบฏอ้างตนเป็น เจ้าฟ้าอภัยทศ (อนุชาของพระนารายณ์) ฝ่ายกบฏรวบรวมผู้คนจำนวนมากจากแถบเมืองสระบุรี ลพบุรี และนครนายก บุกรุกเข้ามาจนถึงกำแพงเมืองอยุธยาแต่ก็ถูกหลวงสรศักดิ์ปราบได้ ส่วนหัวเมืองบางเมืองก็ไม่ยอมรับอำนาจของพระเทพราชา เช่นเมืองนครราชสีมาและเมืองนคศรีธรรมราช ทั้ง 2 เมืองมีเจ้าเมืองที่ได้รับสถาปนาโดยพระนารายณ์ ทำให้ไม่ยอมรับอำนาจของพระเทพราชาและต้องส่งกองทัพไปปราบใช้เวลาปราบถึง 2 ปีและเป็นสงครามภายในที่ใหญ่มากที่สุดสงครามหนึ่ง หลังจากนี้ยังมีกบฏบุญกว้าง เกิดขึ้นอีกที่นครราชสีมา ต้องใช้กำลังปราบอยู่ 2 ปี นับว่าพระเพทราชาเป็นกษัตริย์ที่มีปัญหาเสถียรภาพการเมืองภายในสูง นอกจากหลวงสรศักดิ์แล้ว พระเทพราชามีโอรส 2 องค์ที่มีสิทธิในการสืบราชสมบัติ คือพระขวัญแก้ว จากพระมเหสีฝ่ายขวากรมหลวงโยธาทิพ (ภคินีของพระนารายณ์) และ ตรัสน้อย จากมเหสีฝ่ายซ้ายกรมหลวงโยธาเทพ (พระธิดาของพระนารายณ์)เมื่อพระราชาประชวร ปัญหาการสืบราชสมบัติก็เกิดขึ้น หลวงสรศักดิ์ลอบประหารเจ้าพระขวัญ (ตรัสน้อยหนีไปบวชพระ) พระเพทราชาจึงตั้งพระนัดดา เจ้าพระพิไชยสุรินทร์ ให้สืบราชสมบัติ แต่เมื่อพระองค์สวรรคต หลวงสรศักดิ์ก็ได้สืบราชสมบัติเป็นพระเจ้าเสือ
Hotline 0-936468915, 0-823656241 ใบอนุญาตเลขที่ 11/05028