ราชวงศ์ : อู่ทอง ปีที่ครองราชย์ ครั้งที่ 1 พ.ศ.1912-1913 ครั้งที่ 2 พ.ศ.1931-1938 พระราเมศวร ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งอยุธยา ทรงเป็นโอรสของพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) กับเจ้าหญิงละโว้ (ลพบุรี-อโยธยา) ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระรามาธิบดีที่ 1 ดังนั้นเมื่อสถาปนาอยุธยาแล้ว พระราเมศวรจึงได้ครองเมืองลพบุรี ในฐานะของเมืองของแคว้นที่สำคัญของอยุธยาสมัยดังกล่าว ในสมัยของพระเจ้าอู่ทองนั้น อยุธยาได้พยายามขยายอำนาจเข้าครอบครองกัมพูชา สยามและกัมพูชามีปํญหาเรื่องชายแดนแถบปราจีนบุรีไปจรดจันทบุรีเป็นเวลานาน ในสงครามระหว่างอยุธยากับกัมพูชานี้ พระราเมศวรเป็นผู้คุมกองทัพ 5 พันคนไปตีเมืองนครหลวง (นครธม) หรือกรุงศรียโสธรปุระแต่ไม่สามารถจะตีได้ดังนั้นจึงต้องส่งพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) เจ้าเมืองสุพรรณบุรียกทัพไปช่วยการทำสงครามจึงสามารถยึดเมืองเขมรได้ และได้กวาดต้อนประชากรเขมรจำนวนมากเข้ามายังอยุธยา เมื่อพระเจ้าอู่ทองสวรรคต พระราเมศวรก็ขึ้นเป็นกษัตริย์แต่ทรงเป็นอยู่ได้ไม่นาน ต้องถวายราชสมบัติให้กับพระบรมราชาธราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) เจ้าเมืองสุพรรณบุรีซึ่งทรงเป็นพระเจ้าลุง พระราเมศวรเสด็จกลับไปครองลพบุรีตามเดิม อยู่ 18 ปี การที่พระราเมศวรสละราชสมบัติให้พระเจ้าลุงคือพระบรมราชาธิราชที่ 1 นั้น อาจมีความเข้าใจกันไว้ว่าเมื่อสิ้นสมัยของพระบรมราชาธิราชที่ 1 นั้น พระราเมศวรก็อาจจะกลับมาครองบัลลังก์อีกครั้ง แต่เมื่อพระบรมราชาธิราชที่1 สวรรคต พระเจ้าทองลันโอรสของพระบรมราชาธิราชที่ 1 ซึ่งมีพระชนมายุได้ 15 พรรษาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 ของอยุธยา พระเจ้าทองลันครองราชสมบัติได้เพียง 7 วัน พระราเมศวรก็ยกทัพลงมาจากลพบุรี แล้วสำเร็จโทษพระเจ้าทองลันด้วยท่อนไม้จันทร์ แล้วพระราเมศวร ก็ครองราชสมบัติครั้งที่ 2 นี้อยู่ 7 ปี และทรงสวรรคต พระรามราธิราช โอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชยสมบัติต่อเป็นกษัตริย์องค์ที่ 5 ของอยุธยา พระรามราธิราชอยู่ในราชสมบัติ 15 ปี ก็เป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์อู่ทอง
Hotline 0-936468915, 0-823656241 (ใบอนุญาตนำเที่ยวเลขที่ 11/5028)